มานาดวงใจรักฟาโรห์ - ตอนที่ 110 งานแต่ง
จากนั้นทั้งสองก็ต่างเข้าห้องใครห้องมันไปด้วยอารมณ์ที่แตกต่างกัน อีกคนเข้าไปด้วยหัวใจที่แตกสลาย อีกคนเข้าไปด้วยหัวใจที่เต็มไปด้วยความรักและความต้องการอยากครอบครอบตัวนางอีกครั้ง ทั้งสองยังจดจำวันที่พวกเขาตกลงปลงใจเป็นของกันและกันได้วันที่พวกเขารู้ใจกัน แต่ว่าพรุ่งนี้ทุกอย่างจะเป็นแค่อดีตของพวกเขา ช่างเป็นอะไรที่ทำให้นางทรมานใจที่สุด แต่เมื่อเลือกแล้วก็ต้องยอมรับในสิ่งที่ตนเองเลือกและคิดเท่านั้น พรุ่งนี้คงเป็นรุ้งเช้าที่แสนนานแสนนานของพวกเขาที่ไม่สมหวังกันแน่นอน งานจะเริ่มตั้งแต่เช้ารีบนอนเถอะ อย่าคิดอีกเลย พอทีหัวใจฉัน
"ไงน้องพี่พร้อมไหม วันนี้เราสองคนต้องสวยกว่าทุกคน และกว่าทุกๆงาน พี่ขอโทษที่เมื่อคืนดันหลับไปตอนไหนไม่รู้ คงเพราะเหนื่อยนะ เรามาทำให้งานแต่งออกมาดีที่สุดกันนะ"
"คะ "
จากนั้นสองสาวก็โดนรุมล้อมด้วยพี่ๆ สาวใช้ในวังบรรเลงแต่งสุดฝีมือของช่างในยุคนี้ ผสมกับความคิดของฉัน เจ้าสาวเลยออกมาเหมือนเจ้าสาวในยุคบ้านฉันเลย และฝั้งเจ้าบ่าวก็น่าจะพร้อมกันแล้ว ซึ่งฉันต้องเป็นคนกล่าวในพิธีเองด้วยทำเอาทุกคนอึ้งกันไปตามๆกัน กับงานแต่งที่ไม่เหมือนใคร แบบนี้นะ
"เอาหละ ทุกอย่างพร้อมแล้ว เจ้าสาวได้เวลาแล้ว พร้อมไหมทั้งสองคน"
" คะ ไม่พร้อมก็ต้องพร้อม ใช่ไหม"
" คะ "
"ฟาสา ท่านต้องมาพาเราสองคนไป ที่ห้องจัดงานโดยให้พวกเราทั้งสองคลองแขนท่านนะ ได้ใช่ไหม"
"หม่อมฉัน ตื่นเต้นไม่คิดว่าจะมีวันนี้ เป็นงานแต่งที่ไม่เหมือนบ้านเมืองพวกเราเลย ยิ่งทำให้ตื่นเต้นไปอีกพ่ะย่ะค่ะ"
"เลิกใช้คำราชาศัพท์ใช้คำพูดธรรมดาเหมือนที่ท่านพูดกับลูกสาวท่านเถอะ คิดสะว่าเราเป็นลูกสาวของท่านเหมือนกันนะ ตกลงไหม"
"แต่มันคิดแบบนั้นไม่ได้ พ่ะย่ะค่ะ"
"งั้นตามใจท่าน เราไม่อยากบังคับใครไปกันเถอะ"
"เจ้าสาวมาแล้ว ทุกคนอย่าตกใจที่มานาจะเป็นคนนำทำ พิธีตามความเชื่อของนาง เพราะไม่มีใครเหมาะสม เท่านางแล้ว งั้นเราขอยกหน้าทีทั้งหมดให้นางเลยก็แล้วกัน"
"ก่อนที่จะเข้าสู่พิธีศักดิ์สิทธิ์ จะขออธิบายให้ฟังก่อนก็แล้วกัน ว่าทำไมถึงแต่งแบบนี้นะ ปกติที่นี่ถ้ามีการแต่งงานจะมอบหมาย ให้โหราจารย์เป็นคนจัดการ และจะกราบไว้เทพเจ้ากัน แต่ทางบ้านของมานานั้นพวกเราจะกราบไหว้ เฉพาะพระเจ้าเท่านั้น ไม่มีเทพเจ้าหรืออะไรที่เราจะเทิดทูนนอกจากพระบิดาหรือพระเจ้า ดั้งนั้นการที่พวกเราจัดงานแบบบ้านมานา นั้นก็เพราะว่าพวกเราได้กลับมาหาพระบดิาและกราบนมัสการพระองค์ เพียงคนเดียวแล้ว ตามกฎหมายและข้อปฎิบัติต่างๆที่มานากับพวกพี่ๆ เขียนมาเพื่อให้คนในยุคนี้ ได้ทำตามนั้นเอง เพื่อนเจ้าบ่าว ทั้งสิบสองคน ช่วยไปยื่นข้างเจ้าบ่าวด้วยครับ มานากำลังจะเริ่มพิธีแล้ว พวกท่านต้องคอยช่วยนางด้วยนะ "
"ได้ "
"ก่อนอื่น เมฆฟิส ช่วยมายื่นข้างหน้าทั้งสองคนนั้นด้วยคะ "
"ได้ แล้วต้องทำอะไรต่ออีก บอกได้เลย"
"งั้น พูดคำสาบานจากหัวใจของท่านตามที่มานาจะบอกต่อจากนี้นะ เพราะท่านเป็นพี่ท่านต้องให้คำสาบานกับ
มานาก่อน เพราะท่านคือสามีของมานาก่อนน้องชายท่าน ตกลงใช่ไหมคะ"
"ถ้าแต่งกับเจ้า พี่ยอมหมดอยู่แแล้ว"
"แล้วพวกเรามีสิทธิ์ไหมอะ เป็นเพื่อนเจ้าบ่าวเหมือนกันนะ"
"ไม่คะ งานนี้มีแค่ที่แจ้งไปนะ เรามาเริ่มกันเลยคะ"
"ได้ ทำตามที่เจ้าต้องการได้เลย พี่พร้อมแล้ว"
"ที่พวกเรามารวมตัวกันในที่แห่งนี้เพื่อเป็นพยานให้กับคู่แต่งงานทั้งสองคู่นี้ และต่อหน้าพระพักตร์พระบิดาที่พวกเราทั้งหลายรัก ขอให้พระองค์เป็นพยานให้กับพวกเรา ว่าทุกคำพูดนั้นมาจากใจพวกเราและพวกเราจะถวายพระเกียรติแด่พระองค์ในทุกๆสิ่งในชีวิตของเราต่อจากนี้ และตลอดไปเอาหละ ท่านพร้อมไหมเมฆฟิส จากนี้ท่านช่วยพูดตามมานานะ"
"ได้พร้อม"
"ข้าพเจ้า เมฆฟิส ยินดีรับ มานาเป็นภรรยาของข้าพระองค์ เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกัน ต่อจากนี้เราจะเป็นเหมือนคนๆเดียวกันกายเดียวกัน ไม่ว่ายามทุกข์หรือยามสุข ยามเจ็บยามป่วยไม่ว่าดีหรือร้ายจะขอรักเพียงมานาและจะครองรักกันไปจนชีวิตจะหาไม่ข้าพเจ้าขอสาบานครับ"
"ข้าพเจ้า มานายินดีรับ เมฆฟิส เป็นสามีของข้าพระองค์เพื่อเป็นหนึ่งเดียวกัน ต่อจากนี้เราจะเป็นเหมือนคนๆเดียวกัน กายเดียวกันไม่ว่ายามทุกข์ หรือยามสุขยามเจ็บยามป่วย ไม่ว่าดีหรือร้ายจะขอรักเพียงเมฆฟิส และจะครองรักกันไปจนชีวิตจะหาไม่จะขอรักและเชื่อฟังสามีที่เป็นหัวหน้าครอบครัว ข้าพเจ้าขอสาบานคะ"
เอาหละแลกแหวนกัน จากนั้นจูบสาบานเป็นอันว่า ทั้งสองเป็นสามีภรรยาถูกต้องตามที่พระบิดาบอกไว้แล้ว ต่อไปคู่ของเมนาฟิสกับเนียร์ติฟาก้าวมาข้างหน้า ส่วนเมฆฟิส ช่วยไปยื่นข้างๆเพื่อนเจ้าบ่าวก่อนคะ"