นิยาย มังกรซ่อนเล็บ เนี่ยฟง
บทที่ 102
ปราณมีดสีม่วงพุ่งเข้าปะทะเสียงดังสนั่น เปรี้ยง เปรี้ยง เปรี้ยง ชั่วน้ําเดือด ทุกอย่างก็จบสิ้นลง สัตว์อสูรปลาหมึกยักษ์ถูกสังหาร ศิษย์สํานักอักขระ เต่าดําบนเรือรบชะโงกออกมาดูว่าทั้งสองอยู่ในทะเลได้อย่างไร หลายคนร้องออกมาด้วยความแปลกใจ เห็นทั้งสองยืนอยู่บนเกราะสายฟ้าลอยอยู่บนผิวน้ําทะเล หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จที่นี่เรือก็แล่นออกไปต่อ ผ่านไปสองวัน สัตว์อสูรปลาหมึกยักษ์ถูกสังหารตกตายไปอีกสามตัว ทั้งสามตัวถูกจัดการลงอย่างรวดเร็วโดยฝีมือของเนี่ยฟงและหยางเวย
หลังจากอยู่บนเรือนานถึงหกวันทั้ง สองก็จบสิ้นภารกิจสังหารสัตว์อสูรปลาหมึกยักษ์ เรือค่อยๆเทียบท่าอย่างช้าๆ ผู้คนที่ท่าเรือวิ่งกันวุ่นวายไปหมดทันที ที่ทั้งหมดลงมาจากเรือ ศิษย์สํานักผู้หนึ่งก็รีบวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“เรียนผู้อาวุโสเจิงมู่เทียนขอรับ รีบกลับขึ้นสํานักนักด่วนขอรับ เจ้าสํานักต้องการพบท่าน”
“เกิดสิ่งใดขึ้น”
เสียงกล่าวถามด้วยความสงสัยอน
“ในช่วงที่พวกท่านไม่อยู่ที่สํานัก คนของพรรคมารแมงมุมดําบุกมาที่นี่ มีผู้อาวุโสหลายคนถูกสังหาร เจ้าสํานักได้รับบาดเจ็บขอรับ”
“บัดซบ ว่าแต่เจ้าสํานักเสียท่าให้แก่ พวกมันได้อย่างไร แล้วผู้อาวุโสที่เหลือละ”
“ส่วนใหญ่ยังไม่มีผู้ใดกลับมาขอรับ อีกอย่างพวกมันใช้พิษ พวกมันมากันทั้งหมดห้าคนระดับสีแดงขั้นต้นทั้งหมด มีหนึ่งคนในกลุ่มพวกมันลมปราณมีพิษ เป็นชายหนุ่ม”
สิ้นเสียงกล่าวหลายคนต่างนิ่งเงียบด้วยความตกใจ บางคนกําหมัดในมือแน่น ทั้งหมดรีบกลับขึ้นไปด้านบนในระหว่างทาง เนี่ยฟงก็เอ่ยถามด้วยความสงสัยเกี่ยวกับพรรคมารแมงมุมดํา
“ท่านพอจะกล่าวต่อข้าได้หรือไม่เกี่ยวกับพรรคมารแมงมุมดํา”
ผู้อาวุโสเจิงมู่เทียนหันมากล่าวตอบ
“เรื่องมันนานมาแล้วตั้งแต่หอคอยปีศาจเกิดขึ้นมา ช่วงเวลานั้นปีศาจออก สังหารชาวบ้านหลายหมู่บ้าน พวกข้าต้องออกตามล่าสังหารอย่างเหน็ดเหนื่อย ระหว่างทางก็พบเจอกับกลุ่มของ พรรคมารแมงมุมดํา พวกมันหาได้ติดตามสังหารปีศาจ แต่พวกมันสังหารผู้คนตามหลังปีศาจและปล้นทรัพย์สินของชาวบ้าน จึงเกิดการปะทะกัน หลังจากนั้ นก็ปะทะกันเรื่อยมา ส่วนมากเป็นคนของพรรคมารที่ถูกสังหาร”
“ว่าแต่พวกมันขึ้นมาบนเกาะได้อย่าง ไรขอรับ”
ศิษย์สํานักผู้หนึ่งรีบกล่าวตอบ
“พวกมันปลอมเป็นพ่อค้าขอรับ เมื่อสบโอกาสพวกมันก็บุกขึ้นไปที่สํานักศิษย์ที่เฝ้ายามถูกสังหารจนหมด พวกมันหลบหนีไปพร้อมกับเรือสินค้าลําหนึ่ง ขอรับ ตอนนี้ทหารจากผู้ปกครองเขตเร่งออกติดตาม”
ไม่นานทั้งหมดก็เดินออกจากกระเช้าเหล็กกล้าขนาดใหญ่ มุ่งหน้าเดินเข้ามา ยังด้านในของสํานักเนี่ยฟงและหยาง เวยถูกพาแยกตัวพักที่ห้องรับรอง หลินเซ่อเมื่อเห็นเนี่ยฟงก็รีบเข้ามาอ้อนนายของมันเช่นเดิม ส่วนผู้อาวุโสเจิงมู่เทียนแยกตัวออกไปพบเจ้าสํานัก รุ่งเช้าก็มีคนมาตามทั้งสองเข้าพบเจ้าสํานักที่ห้องโถง
“คารวะเจ้าสํานักอักขระเต่าดําขอรับ”
วิก
“เรียกข้าว่าเทาปู่หมิงเถอะ ที่เรียกพวกเจ้ามาวันนี้ก็เพราะว่าเรื่องแก้ไขวงอักขระศักดิ์สิทธิ์ พวกเจ้าพร้อมแล้วใช้หรือไม่”
“ขอรับ ว่าแต่ร่างกายท่าน”
เจ้าสํานักเทาปู่หมิงยกยิ้มหันมามองเนี่ยฟง
“ขอบใจมากที่เป็นห่วง อาการข้าหายดีมากแล้ว เอาละในเมื่อพวกเจ้าพร้อมแล้วก็ไปจัดการธุระให้เสร็จเถอะ”
เจ้าสํานักเทาปู่หมิงเดินนําทั้งสองและหละนเซ่อออกจากห้องโถงเดินลัดออก ไปทางหน้าผามุ่งหน้าขึ้นเขา ไม่นานก็พบกับศิลาสีแดงขนาดใหญ่ เนี่ยฟงเมื่อพบเห็นก็จ้องมองอย่างไม่วางตา เจ้าสํานักเอาปู่หมิงหันมามองทําไก้แต่ยกยิ้ม เนี่ยฟงจ้องมองอยู่นานเกือบหนึ่งเค่อก็เอ่ยวาจาออกมา
“เจ้าสํานักขอรับอักขระศักดิ์สิทธิ์ชุดนี้เสียหายมาไม่น้อยเลย คงเป็นเพราะพวกปีศาจบุกเข้ามา เอาเป็นว่าข้าน้อยจะจัดการให้ก็แล้วกันขอรับ”
เมื่อกล่าวสิ้นเสียงเนี่ยฟงก็โบกสะบัดมือขวาประกายสายฟ้าก็พุ่งไปที่ศิลาสีแดงขนาดใหญ่ ไม่นานก็ปรากฏอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงออกมาเต็มพื้นที่ของศิลาสีแดง
“หยางเวย หลันเซ่อ คุ้มกันข้าด้วย”
ทั้งสองเมื่อได้ยินก็กระโดดพุ่งหลบออกมา เนี่ยฟงก็ระเบิดพลังปราณสีส้มขั้นต้นออกมาอย่างเต็มกําลังเพิ่มพลังไปที่อักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดง ประกายสายฟ้า พุ่งเข้าหาอย่างรวดเร็ว อักษรในอักขระศักดิ์สิทธิ์สีแดงค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นสีฟ้า เกือบหนึ่งชั่วยามอักษรในอักขระศักดิ์สิทธิ์ก็เปลี่ยนเป็นสีฟ้าทั้งหมด เนี่ยฟงรีบโบกสะบัดมือประกายสายฟ้าก็หายไป ไม่ถึงสองลมหายใจก็คุกเข่าลงด้วยความเหนื่อยล้า
“เรียนเจ้าสํานักเทาปู่หมิง ข้าแก้ไข และเพิ่มเติมบางส่วนเล็กน้อยคาดว่า ท่านน่าจะพอใจ เช่นนั้นท่านประทับพลัง เปิดใช้งานเถอะขอรับ”
เมื่อกล่าวจบเนี่ยฟงก็นั่งโคจรลมปราณ อยู่กับที่หยางเวยและหลันเซ่อรีบพุ่งเข้า มาคุ้มกันด้านหลัง เจ้าสํานักเทาปู่หมิง โบกสะบัดมือขวา วงอักขระศักดิ์สิทธิ์ แดงปรากฏออกมา ไม่ถึงสองลมหายใจ มันก็พุ่งไปที่ศิลาสีแดงตามนิ้วชี้มือขวาที่ชี้ไป มันเข้าไปประทับอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้า หลังจากนั้นก็เกิดแสงสีฟ้าพุ่งออกมาจากศิลาสีแดง มันค่อยๆปรากฎเกราะสายฟ้าขนาดใหญ่ปกคลุมไปทั่วทั้งเกาะ สร้างความประหลาดใจแก่ผู้พบเห็นไม่น้อย รวมไปถึงเจ้าสํานักเทาปู่หมิงด้วยเช่นกัน หลังจากนั้นมันก็จางหายไป
“ข้าปรับเปลี่ยนให้มันแข็งแกร่งขึ้นเล็กน้อย”
เจ้าสํานักเทาปู่หมิงหันมามองเนี่ยฟง แล้วก็หัวเราะออกมาเสียงดัง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดี ดียิ่งนัก นับว่าชาวเมืองที่นี่ติดหนี้บุญคุณเจ้าแล้ว”
“ไม่ถึงเช่นนั้นขอรับ”
เจ้าสํานักเทาปู่หมิงโบกสะบัดมือขวา ถือแผ่นหนังไว้ในมือมอบให้แก่เนี่ยฟง
“มันคือสิ่งใดขอรับ”
“ข้ารับรู้จากจางหลิงว่าพวกเจ้าสองคนชื่นชอบ บุกสถานที่โบราณปล้นชิงสมบัติ นั้นเป็นแผนที่สุสานโบราณที่ข้าได้มาตั้งแต่สมัยยังเป็นหนุ่ม หากพวกเจ้ามีโอกาสไปที่เขตแห่งทะเลทรายพวกเจ้าอาจหามันเจอก็เป็นได้
“ขอบคุณท่านเจ้าสํานักมากขอรับ”
“เสร็จธุระแล้วพวกเจ้าจะเดินทางกลับเลยหรือไม่”
“พวกข้าทั้งสองคงอยู่เที่ยวเล่นที่นี่สักสองสามวันขอรับ เพราะทันทีที่มาถึงที่ที่พวกข้าก็ขึ้นมาที่นี่เลยขอรับ”
“เช่นนั้นจะให้ข้าส่งคนไปดูแลพวกเจ้าหรือไม่”
“ไม่เป็นไรขอรับ”
เจ้าสํานักเทาปู่หมิงเดินนําทั้งสองกลับมาที่สํานัก หลังจากนั้นทั้งสองก็ขอตัวลากลับเพื่อเที่ยวเล่นในเมืองด้านล่าง ทั้งสองลงมาจากเขาก็ใกล้บ่ายแล้วจึงหาพักโรงเตี้ยมในเมือง เมื่อเข้ามาถึงทั้งสองก็สั่งอาหารสองสามอย่างและเช่าห้องสองห้องสองคืน ในระหว่างที่ทาน อาหารก็นั่งฟังผู้คนในโรงเตี้ยมพูดกัน สุดท้ายคงหนีไม่พ้นเรื่องเกราะสายฟ้าที่ปรากฏออกมาคลุมทั้งเกาะหลังจากนั้นก็หายไป หลังจากนั้นก็มีเรื่องของพรรคมารที่บุกมาที่สํานักอักขระเต่าดํา ทั้งสองเมื่อทานอาหารอิ่มก็ออกมาเดินเล่นในเมือง
ทั้งสองเดินเข้าออกร้านสมุนไพรและร้านตํารา เนี่ยฟงขายของบางอย่างออกไปเป็นบางส่วน ส่วนใหญ่เป็นแก่นพลังปราณที่มีเหลืออยู่ สมุนไพรส่วนใหญ่ที่เนี่ยฟงซื้อจะมีธาตุสายฟ้าเป็นหลัก หยางเวยยังคงไม่ซื่อสิ่งใด อรุณเริ่มลาลับขอบฟ้า แสงสีส้มตัดกับน้ําทะเล ความมืดค่อยๆเข้าปกคลุม แสงสว่างจากตะเกียงไฟและคบไฟถูกจุดแทนที่ ผู้คนมากมายออกมาดื่มกินอย่างสนุกสนาน เสียงตะโกนด่าทอของหญิงชราดังแว่วเข้ามา มือขวานิ้วชายขี้เมาผู้หนึ่งเดินออกจากโรงเตี้ยมหลังหนึ่ง ทั้งสองเดินเล่นในเมืองจนดึก
ระหว่างทางกลับโรงเตี้ยม ทั้งสองก็ถูกสะกดรอยตาม แน่นอนว่าทั้งสองรู้ตัวอยู่ก่อนแล้ว ทั้งสองจึงเดินอ้อมออกมาทางที่ไม่มีผู้คน ชั่วน้ําเดือด ด้านหน้าก็มีชายฉกรรจ์สีคนยืนขว้างอยู่ ทั้งสีสวมชุดสีดําปกปิดใบหน้า ทั้งสองเมื่อเห็นเช่นนั้นก็แสยะยิ้ม เป็นหยางเวยที่พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว ซัดฝ่ามือออกไปสองฝ่ามือ เกราะสีแดงออกมาสกัดกั้นปราณฝ่ามือสีม่วงทั้งสองอย่างรวดเร็ว เปรี้ยง เปรี้ยง หลันเซ่อร้องคํารามพุ่งทะยานออกไป เปรี้ยง ปะทะกับเกราะสีแดงอย่างรวดเร็ว
“หลันเซ่อออกมา”
ทันทีที่หลังเซ่อพุ่งหลบออกมา เนี่ยฟงก็พุ่งเข้าปะทะต่อยหมัดขวาออกไปอย่างรวดเร็ว วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีฟ้าปรากฏที่หมัดขวา เปรี้ยง เกราะสีแดงถูกทําลายลงอย่างง่ายดา ยชายฉกรรจ์ทั้งสี่ถึงกับตื่นตกใจ รีบโบกสะบัดมือสร้างเกราะสีแดงออกมา แต่ทว่าก็ช้าไป เพราะหยางเวยพุ่งเข้ามาประชิดคนผู้หนึ่งได้แล้ว เปรี้ยง เสียงหมัดต่อยเข้าที่ใบหน้าของชายฉกรรจ์ผู้หนึ่งอย่างถนัดถนี่
MANGA DISCUSSION