นิยาย มังกรซ่อนเล็บ เนี่ยฟง
บทที่ 100
เวลาหมุนวนเลยผ่าน ตั้งแต่หอคอย เผ่าปีศาจกําเนิดขึ้นหลายสิ่งหลายอย่างก็เปลี่ยนไปหลายสํานักปรับเปลี่ยนจากล่าสัตว์เป็นสังหารปีศาจที่หอคอยสิ่งที่เกรงกลัวที่สุดตอนนี้หาได้เป็นสัตว์อสูรแล้วผู้ปกครองเขตทั้งหลายรวมกันก่อตั้งกองกําลังจัดการกับปีศาจ โดยเฉพาะโดยแต่ละเขตจะมีศิษย์สํานักใหญ่หลายคนเข้าร่วมรวมไปถึงเหล่าจอมยุทธ์ที่ไร้สังกัดเข้าร่วมด้วยศิษย์สํานักมากมายที่มีฝีมือต่างลงเขาเพื่อเป็นทหารรับจ้างในสังกัดต่างๆหอคอยปีศาจเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงหลังจากถูกปรับแก้ไขจากผู้อาวุโสหลายคนรวมไปถึงเจ้าสํานักจางหลิง หลังจากจัดการปีศาจกลุ่มแรกเสร็จสิ้น วงอักขระศักดิ์สิทธิ์สีเขียวปรากฏแสงสว่างมีพลังปราณหนาแน่นทุ่งโพยออกมาหลายคนใช้ที่นี่ เป็นที่ดูดซับพลังปราณเพิ่มพลัง ผ่านไป สี่ปีผู้คนมากมายต่างมีพลังปราณสูงขึ้นจากหอคอยปีศาจ หลายคนออกจากสํานักใหญ่เดินทางท่องเที่ยวหาประสบการณ์ชีวิตหลายคนเข้าร่วมกับกองกําลังล่าปีศาจของราชสํานัก
เส้นทางระหว่างเขตสายลมมุ่งหน้าสู่เขตทะเลชายหนุ่มสองคนนั่งบนหลังพยัคฆ์สีฟ้าตัวใหญ่พุ่งทะยานไปตามทางสองข้างทางมีแต่ป่ารกผ่านไปเกือบสองชั่วยามทั้งสองก็หยุดอยู่ที่หน้าโรงเตี้ยมขนาดใหญ่
ทันทีที่ก้าวเท้าเข้ามาเสี่ยวเอ้อก็รีบเข้ามาต้อนรับ
“เรียนเชิญคุณชายทั้งสองขอรับ”
เสี่ยวเอ้อหันไปมองพยัคฆ์สีฟ้าตัวใหญ่ด้านหลังด้วยความหวาดกลัวชายผู้หนึ่งยกยิ้มให้พร้อมกับเอ่ยวาจาออกมา
“หลันเซ่อเจ้าออกไปพักด้านนอกเถอะพวกข้าทั้งสองเพียงแค่กินให้อิ่มท้องแล้วจะเดินทางต่อเมื่อเสร็จทุกอย่างข้าจะเรียกเจ้าเอง”
พยัคฆ์สีฟ้าพยักหน้าให้กับผู้เป็นนาย หลังจากนั้นก็พุ่งทะยานออกไปจากโรงเตี้ยม ชายหนุ่มทั้งสองเดินตามเสี่ยวเอ้อ เข้าไปนั่ง หลังจากนั้นก็สั่งอาหารสองสามอย่าง ในระหว่างที่ทานอาหารทั้งสองก็นั่งฟังคนในโรงเตี้ยมพูดคุยกันส่วนใหญ่มีแต่ข่าวของเทพธิดาแห่ง สํานักพยัคฆ์สายลมระดับพลังปราณสีส้มขั้นสูงนามซูหนิง
“เจ้าจะไม่ออกไปแก้ข่าวหน่อยส่วนใหญ่ผลงานที่กล่าวออกมามันเป็นฝีมือของเจ้าทั้งนั้น”
“ช่างเถอะข้าไม่อยากเจอเรื่องปวดหัวแบบที่นางต้องเจอหากไม่เช่นนั้นแล้วข้ากับเจ้าเราจะได้ออกมาเยี่ยงนี้ดีแล้วที่นางรับผลงานเด่นๆของสํานักพร้อมกับศิษย์พี่หวังหลินทั้งสองดูเหมาะสมกันดี”
“ว่าแต่เจ้าสํานักมอบหมายภารกิจใดให้เจ้าเหตุใดถึงให้เราทั้งสองเร่งเดิ นทางไปที่เขตทะเลกัน”
“เจ้าจําสํานักอักขระเต่าดําเมื่องานประลองเขตได้หรือไม่ เจ้าสํานักอักขระเต่าดําส่งจดหมายเชิญเจ้าสํานักมาช่วย แก้ไขวงอักขระศักดิ์สิทธิ์เพียงแต่ว่าท่านอาจารย์ไม่ว่างเลยให้ข้ามาแทน”
“แล้วเหตุใดเจ้าไม่นั่งนกยักษ์ไปละ”
“เวลานัดหมายอีกหลายเดือนข้าคิดว่าเราเดินทางกันเองดีกว่า”
“บัดซบแท้ไอ้บ้าเนี่ยฟง”
“เอาน่าข้าไม่ได้รับภารกิจจากท่านอาจารย์มาอย่างเดียวเจ้ารีบทานอาหารเถอะ”
ในระหว่างที่ทั้งสองกําลังนั่งทานอาหารกันอยู่ เปรี้ยง โครม เสียงดังสนั่นจากด้านหน้าโรงเตี้ยมชายผู้หนึ่งกระเด็น เข้ามาด้านในโรงเตี้ยมเสียงตะโกนโห่ร้องดังมาจากด้านหน้าหลายคนอยู่ด้านในโรงเตี้ยมเรียกอาวุธคู่กายมาถือไว้ในมือแน่นไม่ถึงสองลมหายใจชายหนุ่มหนึ่งก็ก้าวเดินเข้ามารูปร่างสูงใหญ่มีหนวดเคราขึ้นเต็มหน้าเอ่ยวาจาเสียงดังลั่น
“พวกเจ้าทั้งหมดออกไปที่นี่คุณชายขอข้าเหมาโรงเตี้ยมหลังนี้แล้ว”
หลายคนทําสีหน้าไม่พอใจแต่ก็ยังไม่มีผู้ใดกล่าวสิ่งใดออกมา เพราะชายหนุ่มที่เดินเข้ามาก็หาได้แสดงตัวว่าเป็นผู้ใครความเงียบเข้าปกคลุมพื้นที่ด้านล่างโรงเตี้ยม
“พวกเจ้าเป็นใคร เหตุใดถึงกล้าเอ่ยวาจาเช่นนั้นเล่าที่นี่ล้วนมียอดฝีมือมากมายท่านช่างกล้านัก”
ชายหนุ่มหันไปมองผู้ที่กล่าววาจาออกมาเมื่อกันไปมองก็รับรู้ว่าคนที่กล่าวเป็นคนของสํานักใดก็แสยะยิ้มกล่าวตอบออกไป
ตอบ
“บัดซบ เจ้าเด็กน้อยทั้งสองบังอาจนักที่นี่สํานักกระบี่หลงเซียเป็นผู้ดูแลเจ้าอยากเจ็บตัวนักรี”
หลายคนเมื่อได้ยินเสียงเอ่ยชื่อสํานักรีบพุ่งทะยานออกไปจากโรงเตี้ยมกันจ้าละหวั่นหลงเหลือเพียงไม่กี่โต๊ะที่ยังไม่ลุกไปไหนไม่นานก็มีเสียงก้าวเดินเข้ามาด้านในโรงเตี้ยมเป็นชายหนุ่มรูปงามเดินเข้ามากับหญิงสาวสองคนแต่ละคนมีส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน ด้านหลังมีผู้ติดตามอีกหกคนทันที่ที่กวาดสายตามองแล้วพบว่ายังมีคนนั่งในโรงเตี้ยมอยู่ชายหนุ่มรูปงามถึงกับสบถเสียงดังออกมา
“บัดซบ เหตุใดจึงมีคนอยู่ด้านในอีก”
“เสี่ยวเอ้อคิดเงินด้วย”
ในระหว่างที่ชายหนุ่มรูปงามสบถออกมาเสียงตะโกนของชายหนุ่มชุดเขียวผู้ หนึ่งก็ดังสวนขึ้นมา แน่นอนว่าชายหนุ่มรูปงานรีบหันไปมองชายหนุ่มผู้กล่าววาจาขึ้นมาเสี่ยวเอ้อที่ยังคงหวาดกลัวกลุ่ม คนที่มาใหม่ยืนตัวสั่นสะท้านข้างๆเถ้าแก่ที่โต๊ะคิดเงินชายหนุ่มชุดเขียวโบกสะบัดมือขวาวางเงินลงบนโต๊ะ
“เงินค่าอาหารข้าวางไว้บนโต๊ะ
เมื่อกล่าวเสร็จ โต๊ะกลุ่มคนที่นั่งอยู่ในโรงเตี้ยมก็ลุกขึ้นมาพร้อมกันหมดหลงเหลือแต่โต๊ะชายหนุ่มสองคนที่ยังนั่งทานอาหารกันอยู่โดยหาได้สนใจรอบข้างชายหนุ่มรูปงานและชายหนุ่มชุดเขียว จ้องมองกันอย่างไม่วางตาทันทีที่กลุ่มของชายหนุ่มชุดเขียวเดินจากไปไม่นานกลุ่มของชายหนุ่มรูปงามก็เดินติดตามไปชายหนุ่มทั้งสองเมื่อทานอาหารจนอิ่มก็เรียกเสี่ยวเอ้อมาเก็บเงินในระหว่าง นั้นหยางเวยก็เอ่ยวาจาถามเสี่ยวเอ้อ
“เจ้ารู้หรือไม่ว่าชายหนุ่มชุดเขียวเป็นคนของสํานักไหน”
“ข้าน้อยไม่ทราบขอรับคุณชาย”
เนี่ยฟงที่นั่งข้างๆส่ายศีรษะไปมาพร้อมกับโบกสะบัดมือขวานําเงินออกมาพร้อมกับหันไปมองเสี่ยวเอ้อ
“เจ้าพอจะรู้จักประวัติของทั้งสองคนหรือไม่”
เสี่ยวเอ้อรีบคว้าเงินด้านหน้ากําไว้ในมือแน่น
“ชายหนุ่มรูปงามผู้นั้นเป็นศิษย์อันดับหนึ่งของสํานักกระบี่หลงเซียที่ดูแลพื้นที่แถวนี้นามว่าไซ่เจียงหนานอีกทั้งยังเป็นบุตรชายของผู้อาวุโสท่านหนึ่งในสํานักนิสัยเป็นอย่างไรพวกท่านคงเห็นส่วนระดับลมปราณอยู่ที่สีส้นขั้นต้นอีกผู้หนึ่งข้าไม่ทราบว่าเป็นผู้ใด”
หยางเวยเองหันไปมองเนี่ยฟงหลังจากนั้นก็ไม่กล่าวถามสิ่งใดเสี่ยวเอ้ออีกทั้งสองรีบออกจากโรงเตี้ยมเนี่ยฟงเรียกหลันเซ่อกลับมาหลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเดินทางต่อออกมาไม่ทันไรกลิ่นคาวเลือดก็ลอยมาตามสายลมฉุนเข้าจมูกหลันเซ่อพุ่งทะยานตามทิศทางก ลิ่นเลือดไม่นานทั้งสองก็พบกับซากศพของไซ่เจียงหนานและกลุ่มผู้ติดตามสภาพถูกสังหารอย่างเหี้ยมโหดแขนขาขาดกระเด็น ทั้งสองสํารวจไม่นานก็พุ่งทะยานออกไปตามเส้นทางเดิม
“คนพวกนั้นถูกสังหารโหดเหี้ยมยิ่งนัก”
“กลุ่มคนชุดเขียวนั้นต้องมียอดฝีมือระดับสีแดงเป็นแน่ช่างเถอะระวังตัวไว้หน่อยก็ดีไม่แน่เราอาจได้เจอกับกลุ่มคนพวกนี้ก็เป็นได้
การเดินทางเป็นไปอย่างราบรื่นทั้งสองแวะเก็บสมุนไพรสังหารสัตว์อสูรเก็บแก่นพลังปราณและเนื้อไว้สําหรับเดินทางเกือบหนึ่งเดือนทั้งสองก็ออกมาจากป่าเข้าสู่เขตทะเลมุ่งหน้าเดินตาม ทางเท้าสองวันเต็มทั้งสองก็จ้องมองทะเลด้านหน้าสุดลูกหูลูกตา บริเวณโดยรอบมีเขาหินตั้งอยู่ด้านล่างเป็นท่าเรือขนาดใหญ่มีเรือมากมายจอดเทียบท่าอยู่ติดกับชายฝั่งเป็นเขตที่อยู่ของผู้คนเหล่าพ่อค้าและจอมยุทธมากมายเดินกันไปมาด้านล่างทั้งสองรีบลงไปที่ท่าเรือแน่นอนว่าหลายคนจ้องมองชาย หนุ่มสองคนกับพยัคฆ์สีฟ้าด้วยความ สงสัย
เนี่ยฟงเอ่ยถามชายชราผู้หนึ่งที่กําลังทําความสะอาดเรืออยู่
“ท่านลุงขอรับ ข้าน้อยมีเรื่องสอบถามขอรับ”
ชายชรารีบหันมามองชายหนุ่มทั้งสองด้วยความเอ็นดู
“มีสิ่งใดพ่อหนุ่มทั้งสอง”
“พวกข้าอยากเดินทางไปสํานักอักขระเต่าดําต้องเดินทางอย่างไรขอรับ”
“พรุ่งนี้เช้าจะมีเรือสินค้าเดินทางไปที่นั่นพวกเจ้าสามารถติดตามเรือสินค้าไปได้ แต่ถ้าอยากเดินทางเร็วขึ้นพวกเจ้าต้องไปติดต่อที่ท่าเรือด้านหน้า”
MANGA DISCUSSION