มอบรัก บำเรอใจ - ตอนที่ 3 เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว เพื่อนดื่ม
"ฉันบอกว่าฉันหิวแล้ว"ซูหนานจือขมวดคิ้วอย่างที่เย็นเยียบ ร้องตะโกนใส่พวกเขาอย่างหงุดหงิด
ซูหนานจือเป็นทารกที่ถูกทอดทิ้ง โตมากับพ่อแม่บุญธรรม ด้วยคะแนนในการเรียนที่ดีเยี่ยมเธอควรที่จะได้เรียนต่อในมหาลัยเดียวกับของเซียวชิงเหยียน แต่พ่อแม่บุญธรรมของเธอกลับส่งเธอไปเป็นสาวเชียร์เบียร์ในไนท์คลับ
เป็นเพื่อนกิน เพื่อนดื่ม เพื่อนนอน เรื่องพวกนี้เธอเริ่มทำมาตั้งแต่เธออายุ 19 หลังจากจบมัธยมปลายแล้ว จนตอนนี้ อายุ 22 แล้ว และถือว่าช่ำชอง เป็นเหมือนเบอร์ต้นๆของไนท์คลับ
ตอนอายุ 20 เธอก็ได้เจอกับหนิงอวี้เฉิง
ก่อนคืนนั้น เธอยังไม่เคยเป็น "เพื่อนนอน"กับใคร แต่บังเอิญว่าคืนนั้นเธอถูกเซียวชิงเหยียนบอกเลิก ทำให้ตลอดทั้งคืนนั้นจิตสำนึกของเธอจมดิ่งอยู่ภายใต้ความไร้เหตุผล ทำให้เธอส่งตัวเองให้กับหนิงอวี้เฉิงเป็นครั้งแรก
ตั้งแต่นั้นมา เธอได้รับรางวัลมากมายและกลายเป็นเด็กของหนิงอวี้เฉิง
เธอมีมลทินมัวหมองอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่นอกจากตัวซูหนานจือเองแล้ว จะมีใครไหนเลยมาสนใจเธอ
"รู้แล้ว รู้แล้ว จะโวยวายทำไมเล่า" แม่บุญธรรมหลูฮุ่ยขมวดคิ้ว แต่ก็ยังมีความเกรงกลัวต่อบ่อเงินบ่อทองของเธอ เธอหันตัวกลับไปตักข้าวเย็นชืดที่หุงไว้ตั้งแต่เมื่อวาน ส่งให้เธอด้วยอาการไม่พอใจ "ฉันจะบอกเธอนะ อีกเดี๋ยวเธอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า พวกเราจะพาเธอไปเอาเงินกับหนิงอวี้เฉิง มีอย่างที่ไหนให้มานอนกันฟรีๆ"
คุณล้อเล่นรึเปล่า?" หลังจากซูหนานจือกินข้าวไปได้ไม่กี่คำ เธอก็เงยหน้าขึ้นมองด้วยความเหลือเชื่อ
"เธอไม่ไป ฉันก็จะพาพ่อเธอไป"หลูฮุ่ยพูดเสียงเย็นชา หันกลับไปลากเฉินซู้ผู้เป็นสามี แล้วเดินตรงออกจากบ้านไป
ในใจซูหนานจือ ตุ้มๆต่อมๆ อยู่ครู่หนึ่ง เธอรีบวางตะเกียบแล้ววิ่งออกจากประตู
เรื่องที่จะไปเรียกร้องเงินกับแขกแบบนี้ ซูหนานจือเพิ่งเคยทำเป็นครั้งแรก โดยเฉพาะแขกอย่างหนิงอวี้เฉิง
หลูฮุ่ยแทบจะทนไม่ไหวที่จะลากมือซูหนานจือ ตรงเข้าไปในบาร์โรส
แล้วโบกมือทักทายมาม่าซังที่ดูแลร้าน
มาดามกู่หันกลับมามอง ก็รีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแต่ยังคงไว้ซึ่งท่าทางที่สวยงาม เดินมาอยู่ตรงหน้าหลูฮุ่ยและซูหนานจือ กล่าวขึ้นอย่างหวานหยาดเยิ้ม "ว้าว คุณแม่ของหนานจือ ได้ยินว่าเมื่อวานประธานหนิงนัดหนานจือไป ยินดีด้วยนะคะ"
หลูฮุ่ยสูดลมหายใจอย่างอดกลั้น "ยินดีอะไรกันล่ะ มาดามกู่ เสี่ยวจือบอกฉันว่าประธานหนิงไม่ได้ให้เงินเธอ นี่มันเรื่องอะไรกัน?"
"นี่……จะเป็นไปได้ยังไง?" มาดามกู่เองก็งง เธอมองไปทางซูหนานจือ "หนานจือ หลังเสร็จงานแล้วเธอไม่ได้ถามประธานหนิงเหรอ?"
ซูหนานจือเริ่มปวดขมับ "ฉันยินยอมที่จะไม่รับเอง เข้าใจรึยัง?"
"ทำไมยินยอมว่าจะไม่รับล่ะ นั้นมันเงินนะ เธอคิดว่าเป็นแค่กระดาษเหรอ ที่จะมาพูดว่าไม่เอาก็จะไม่เอาจริงๆ ยัยโง่ยังไม่รู้รึไงว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญ" หลูฮุ่ยหรี่ตาเพ่งมองเธอ แล้วหันไปยิ้มกับมาดามกู่ "มาดามกู่ เธอลองดูหน่อยว่าจะเอาเงินกลับมาได้ไหม?"
มาดามกู่ยิ้ม ตอบกลับอย่างนุ่มนวล "ถ้าเป็นหนานจือเองที่ไม่ต้องการจะรับ และอีกอย่างเธอก็กลับมาแล้ว แต่พอดีที่ว่าตอนนี้ประธานหนิงกำลังดื่มอยู่ในห้องวีไอพี ให้ฉันพาหนานจือไปดูเอาไหม?"
"เฮ้ย ไม่เอาแล้ว……"
"รบกวนคุณแล้วน้ากู่" หลูฮุ่ยไม่สนใจซูหนานจือเลยแม้แต่น้อย ใช้กำลังดันไหลเธอส่งให้มาดามกู่
ซูหนานจือรู้สึกเพียงว่าทุกอย่างกำลังจะพังยับเยิน ก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างยากลำบาก
จะเผชิญหน้ากับเขายังไง? ยิ้มให้เขาแล้วพูดว่า "ประธานหนิง เงินของเมื่อวานก็ให้ฉันเถอะ"แบบนี้เหรอ?
สมองเธอขาวโผลนไปหมด เมื่อมายืนอยู่หน้าห้องของหนิงอวี้เฉิง
เสียงการดื่มเหล้าแว่วดังออกมาจากภายในห้อง ซูหนานจือสูดลมหายใจ ผลักประตูเข้าไปอย่างระมัดระวัง
เธอสัมผัสได้ถึงความเงียบของบริเวณโดยรอบ ตรงหน้ามีชายใส่สูทนั่งกันเป็นแถว ทุกคนล้วนมีสาวสวยอยู่ข้างกาย ดูเหมือนว่าเกือบจะเป็นการคุยงาน แต่กลับเหมือนกับกำลังเพลิดเพลินกับสาวบริการเสียมากกว่า
ซูหนานจือเม้มริมฝีปากเบาๆ จ้องไปที่หนิงอวี้เฉิงที่หนังอยู่ตำแหน่งหลัก มีเพียงเขาที่ไม่มีใครอยู่ข้างกาย
เขานั่งอยู่ที่นั่นอย่างสง่างาม ซึ่งมาพร้อมกับออร่าของอำนาจ ระหว่างคิ้วของเขาคลายออกเล็กน้อย ดวงตาดำที่ลึกล้ำจ้องมองเธอ ขบกรามอย่างไม่พอใจ
"เธอมาทำไม"ซูหนานจือยังไม่ทันได้พูดออกมา หนิงอวี้เฉิงก็ถามเธอด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือกแล้ว