มอบรัก บำเรอใจ - ตอนที่ 1 โปรดปล่อยให้ฉันไปก่อนได้ไหม
ภายในห้องที่กว้างใหญ่ สัมผัสได้ถึงกลิ่นหอมจางๆที่ลอยอยู่ในอากาศ
ซูหนานจือยันตัวลุกขึ้นมาจากฟูกที่หนานุ่ม จนเกิดเสียงของเตียงสปริงที่ดังเอี้ยดอ้าด เรียวขาขาวดุจปุยเมฆ เธอลูบผมนุ่มๆของเธออย่างลวกๆด้วยสองมือ ซึ่งตอนนี้ร่างของเธอสวมเพียงเสื้อเชิ้ตผู้ชายอยู่
เธอหันกลับไปมองชายหนุ่มที่ยังคงนอนอยู่ใต้ผ้าห่ม ลุกขึ้นและตรงเข้าไปในห้องน้ำ
เธอก้มหน้าล้างใบหน้าของตัวเอง ใบหน้าที่บอบบางในกระจกฉายขึ้น รอยจูบที่หยาบคายยังคงปรากฏอยู่บนคอระหง มันแสดงให้เห็นว่าเมื่อคืนพวกเขาสองคนผ่านศึกที่ดุเดือดมามากแค่ไหน
แต่ความบ้าคลั่งนี้มีแค่บนเตียงในค่ำคืนที่เร้าร้อนเท่านั้น เพราะหลังจากนั้น พวกเขาสองคนก็เหมือนคนไม่รู้จักกันเลย
ซูหนานจือล้างใบหน้าตัวเองอีกครั้ง เมื่อเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าเย็นชาของชายคนนั้นก็ปรากฏขึ้นบนกระจกใส
ผมของเขาอยู่ในสภาพที่ยุ่งเล็กน้อย ดวงตาสีดำขลับคู่นั้นจ้องมองเธอผ่านกระจก เรียวปากบางบูดบึ้งอย่างเกียจคร้าน
ซูหนานจือมองหน้าเขาด้วยดวงตาที่ร้อนผ่าว ในใจเธอรู้สึกปั่นป่วนอย่างอธิบายไม่ถูก หัวใจของเธอร้อนรุ่มยิ่งกว่าไฟ
แผงอกแกร่งทาบลงบนแผ่นหลังของซูหนานจือเบาๆ ความร้อนแผ่ซ่านผ่านซับในบางๆ เธอยิ้มให้เขาเล็กน้อย พลางหมุนตัวหันกลับไปกอดคอชายผู้นั้น พร้อมกับประทับรอยจูบที่คลุมเครือไว้บนเรียวปากของเขา “ ไม่นอนต่ออีกหน่อยเหรอคะ ประธานหนิง?”
หนิงอวี้เฉิงประคองด้านหลังศรีษะของเธอ กดร่างแสนบอบบางของเธอลงบนอ่างล้างหน้า รวดเร็วและรุนแรงดั่งพายุ ซูหนานจือไม่สามารถต่อต้านการกระทำที่โหดเหี้ยมนี้ของเขาได้ เธอจึงอดไม่ได้ที่จะผลักไหลของเขาเบาๆ พลางร้องด้วยความเจ็บปวด “เจ็บ”
เธอไม่เข้าใจจริงๆว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในเช้าวันนี้ เหมือนกับเขาตั้งใจจะลงทัณฐ์เธอ
“จะแอบหนีเหรอ?” เรียวปากหนิงอวี้เฉิงยกยิ้มอย่างมีเลห์นัย แม้ว่าขอบตาดำจะร้อนผ่าว แต่นัยย์ตานั้นเยือกเย็นยิ่งกว่าธารน้ำแข็ง
ซูหนานจือขยับปาก ปรากฏแววตาที่ขุ่นมัวและยั่วยวนในดวงตาที่เปียกชื่น “โดนคุณจับได้จนได้”
หลังจากนั้น เธอโอบแขนไว้รอบต้นคอของเขาเหมือนงูน้ำ และร้องวิงวอน “แต่ฉันจำเป็นต้องไปเจอคนคนหนึ่ง โปรดปล่อยให้ฉันไปก่อนได้ไหม”
หนิงอวี้เฉิงยิ้มบางๆ โอบกอดเธอไว้พลางสอดฝ่ามือเข้าไปในเสื้อ ลูบไล้ผิวขาวเนียนด้วยความเสน่หา มองแก้มเนียนของเธอพร้อมกับพ่นลมหายใจที่หนักแน่น “ถ้าผมบอกว่าไม่ล่ะ”
“งั้นก็ได้ สำหรับเมื่อคืนก็ให้คุณได้นอนด้วยฟรีๆ แบบนี้โอเคไหม” ซูหนานจือยิ้มบางๆ
หนิงอวี้เฉิงขมวดคิ้วแน่น อดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ย ใครกันที่สำคัญได้ถึงขนาดที่ทำให้ซูหนานจือไม่ต้องการเงินได้
“ไปเจอใคร?” เขาไม่ใช่คนที่ชอบนินทาใคร แต่เรื่องนี้เขาอยากรู้จริงๆ
ซูหนานจือยกยิ้มที่มุมปาก เช็ดหน้าตัวเองจนแห้ง แต่งหน้าบางๆ “ประธานหนิงเริ่มชอบฉันขึ้นมาแล้วเหรอ”
หนิงอวี้เฉิงกัดมุมปากตัวเอง กวาดสายตาผ่านเลนส์แว่น เด็กสาวผมหางม้าคนนั้นที่สามารถแสร้งทำเป็นสาวมอปลายที่ไร้เดียงสาได้ เธอมีผิวที่กระจ่างใสขึ้นหลังจากที่ได้แต่งแต้มใบหน้าบางๆ ริมฝีปากบางสีชมพูอ่อนราวกับกลีบดอกไม้ที่คลี่ออก
ยากมากที่จะทำให้คนจินตนาการได้ว่าซูหนานจือคนนี้จะถูกเขาครอบครองมาแล้ว
“งั้นฉันไปนะ ประธานหนิง” ซูหนานจือเลียริมฝีปากตัวเองพลางมองไปที่เขา ในมือเธอถือกระเป๋า เธอสวมเสื้อของเขา ซึ่งมันหลวมมาก แต่ก็เข้ากับกระโปรงรัดรูป ที่โชว์เรียวขาของเธอที่กำลังยืนอยู่หน้าเขาได้เป็นอย่างดี
ซูหนานจือพูดด้วยรอยยิ้ม “เอ้อ อีกเรื่องหนึ่ง ชุดเมื่อคืนถูกคุณทำขาดไปหมดแล้ว เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวนี้ฉันขอนะ ชดเชยกับที่ได้นอนกับฉันหนึ่งคืนด้วยเสื้อเชิ้ตตัวนี้ ถือว่าประธานหนิงได้กำไรนะ”
ราวกับว่าเธอกลัวว่าเขาจะเปลี่ยนใจ เธอพูดพลางรีบเดินออกจากห้องไปด้วยรองเท้าส้นสูงของเธอ
หนิงอวี๋เฉิงยิ้มออกมาอย่างเยือกเย็น เขามองอยู่นานกว่าจะถอนสายตาออกมา
เขาได้กำไรเหรอ เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวนี้เป็นรุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นของปีนี้ ราคาน่าจะเกินหนึ่งแสน