มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) - ตอนที่ 80 : บนดาดฟ้าศาลากลาง
นิยาย มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen)
ตอนที่ 80 : บนดาดฟ้าศาลากลาง
ตอนที่ 80 : บนดาดฟ้าศาลากลาง
วันที่ 3 – เวลา 08:31 นาฬิกา – ศาลากลางบาควร์ ชั้น 4, Molino Boulevard, Bayanan, เมืองบาคัวร์, คาวิท
มาร์คและแอ็บบีเกลได้ยืนอยู่บนดาดฟ้าที่พังทลายของศาลากลางเพื่อสังเกตการณ์พื้นที่บริเวณรอบๆ
หลังจากที่ได้รับข้อมูลที่เขาสามารถเอามาจากกลุ่มของสส.หญิงได้แล้ว เขาก็ได้ บอกชาเมนว่าจะออกไปข้างนอกสักครู่หนึ่งเพื่อตรวจสอบบริเวณรอบพื้นที่ เมื่อเดินไป เรื่อยๆตามชั้นสี่สักสองสามนาที เขาก็พบทางที่จะข้ามไปยังดาดฟ้า
มาร์คต้องการอากาศที่บริสุทธิ์สดชื่น หลังจากที่เขานั้นไม่อยู่ในสายตาของคนอื่นๆ ได้แล้วใบหน้าที่ดูมั่นใจและการจ้องมองที่น่าขนลุกของเขาก็พังทลายลง การกระทําที่ดุดันที่เขาแสดงออกมาให้คนเหล่านั้นได้เห็นนั้นก็ล้วนเป็นการแสดง! เขารู้สึกหมด แรง มันไม่มีอะไรน่ากลัวไปกว่าการต้องคุยกับคนแปลกหน้าแล้ว! โดยเฉพาะกับคนที่ มีฐานะสูงแบบนั้น! ระหว่างที่เขาได้คุยกับสส.หญิง ความสามารถในการสัมผัสถึง ความคิดและความรู้สึกของผู้คนก็ถูกเปิดใช้งานอย่างเต็มที่ในใจของเขานั้นกลับรู้สึก ว่ามันคงจะดีกว่าเสียอีกกับการที่ถูกกลุ่มผู้กลายพันธุ์ล้อมรอบเป็นโขยง
เขานั้นรู้สึกร้อนรนใจแต่เขาก็ยังสามารถควบคุมและไม่แสดงอาการออกไป
ในขณะที่เขาก้าวออกไปที่ดาดฟ้าเขาก็ต้องนั่งยองๆกับพื้นแล้วเอนหลังพิงกําแพงก็เพราะว่าเขารู้สึกอ่อนเพลีย
แอ็บบีเกลก็ดูเหมือนว่าได้สังเกตเห็นถึงสภาพของเขาและเข้าไปกอดเขาอย่างสมัครใจ มาร์ครู้สึกดีขึ้นมาบ้างจากการกระทําของแอ็บบีเกล เด็กสาวคนนี้ช่างพิเศษ พวกเขากอดกันอยู่อย่างนั้นสองสามนาที่จนกระทั่งมาร์คฟื้นฟูสภาวะจิตใจได้
มาร์ครู้สึกเพลียทางสภาพจิตใจ เขาแสดงออกทางการกระทําแบบนี้มานานและใน ที่สุดตอนนี้เขาก็ได้อยู่คนเดียวเพื่อระบายมันออกมาทั้งหมด แต่ต่อหน้าคนอื่นเขาไม่ ต้องการแสดงด้านที่อ่อนแอของตัวเองออกไป เขาพยายามทําตัวเท่ทุกเรื่องตั้งแต่ได้ มีการระบาดเกิดขึ้นตั้งแต่เขาเข้าไปยังห้างสรรพสินค้าจนถึงตอนนี้เขาเริ่มเบื่อหน่าย กับการต้องทําอะไรแบบนี้ เขาเป็นคนเก็บตัวและไม่สุงสิงอะไรกับใคร
แต่อย่างไรก็ตาม เขาไม่สามารถ ไม่สิ เขาไม่ควรแสดงอาการว่าอ่อนแอออกไปเลยสักนิดเดียวต่อหน้าคนอื่นๆ คนที่แสดงออกแบบนั้นก่อนคือคนที่จะเสียเปรียบก่อนเสมอ
มาร์คลบศรีษะเด็กสาวตัวน้อยด้วยยิ้มที่จริงใจ ในเวลานี้เขามีความสุขที่มีเธออยู่ข้างๆ
“ขอบคุณนะเกล ฉันไม่เป็นไรแล้ว
แอ็บบีเกลปล่อยอ้อมกอดของเธอออกและเผยรอยยิ้มที่สดใสราวกับนางฟ้าให้แก่ ปะป๋าของเธอ ถ้าหากว่ามาร์คไม่รู้ถึงความโหดเหี้ยมมากแค่ไหนที่เด็กสาวคนนี้จะสา มารถทําได้ เขาคงแล้วว่าเธอนั้นคือนางฟ้าตัวจริง
มาร์คก็เริ่มจัดการลงมือทําถึงจุดประสงค์ที่เขามาที่นี่
ในขณะที่เด็กสาวตัวน้อยได้เดินดูรอบๆต้นไม้ที่เธอพบซึ่งมีกิ่งก้านยาวราวๆสามฟุต มาร์คก็ได้มองที่ต้นไม้ ต้นไม้นั้นมีขนาดใหญ่อย่างเหลือเชื่อ มันมีความสูงประมาณ ยี่สิบสามเมตรจากพื้น มาร์คเดินวนรอบต้นไม้นั้นอยู่หลายครั้งและมองไปที่ผลไม้ที่อยู่ สูงเหนือเขาประมานเจ็ดเมตร เขาสรุปได้ว่าต้นไม้นั้นไม่ได้แปลกแค่ขนาดของมัน แต่ ยังรวมไปถึงความผันผวนทางอารมณ์ที่เขารู้สึกได้จากต้นไม้ต้นนี้
ควาามผันผวนนั้นดูเบาบางเมื่อตอนที่เขายังอยู่ข้างในตึก แต่ความผันผวนนั้นกลับดูแรงขึ้นเมื่อเขาขึ้นมาอยู่บนดาดฟ้า เขาพยายามสัมผัสกับต้นไม้นี้และส่งพลังงานทางจิตไปยังต้นไม้ แต่ไม่ได้รับการตอบสนองใดๆมาจากมัน จากสิ่งที่เขารู้สึกนั้น เหมือนว่ามันนั้นกําลังหลับไหลอยู่หรืออะไรทํานองนั้น
แอ็บบีเกลก็ได้ชําเลืองไปที่ผลไม้เป็นครั้งคราว ดูเหมือนเธอนั้นต้องการผลไม้นั้นอ ย่างจริงจัง แสงสีทองของผลไม้ส่องแสงจนสามารถมองเห็นได้ชัดเจนขึ้นในที่แห่งนี้
ในเมื่อการช่วงชิงมันมาคือหนึ่งในเป้าหมายของเขา มาร์คเริ่มคิดหาหนทางที่จะเอามันมาให้ได้ อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้คิดถึงขั้นที่จะปีนต้นไม้ขึ้นไปเพื่อเอาผลไม้นั่นมา ในขณะที่เขารู้สึกสัมผัสอารมณ์ความรู้สึกได้จากต้นไม้ การปีนขึ้นไปยังต้นไม้ขนาดใหญ่แบบนี้ก็คงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่
เขาต้องการอุปกรณ์ที่คล้ายคลึงกับตะขอเพื่อคว้ามัน เขามองไปรอบๆแต่ก็ไม่เจออะไรที่เขาสามารถนํามาใช้ได้ สายตาของเขาก็ได้ไปหยุดอยู่ที่หลังคาของศูนย์ บัญชาการตํารวจที่อยู่ทางทิศใต้ มีเสาสูงหลายต้นที่ใช้ในการยกเสาอากาศรับ สัญญาณ บางทีเขาอาจจะต้องใช้เสาเหล่านั้น ในสุดท้ายแล้วเขาก็ต้องเข้าไปยังศูนย์ บัญชาการต่ารวจก่อนที่จะสามารถเอาผลไม้นั่นมาได้
ในเมื่อเขาไม่สามารถทําได้ในตอนนี้ เขาจึงละทิ้งความคิดที่จะเอาผลไม้มาไว้ ทีหลัง เขาสํารวจพื้นที่รอบๆ ให้ละเอียดมากกว่าเดิม
เนื่องจากการเจริญเติบโตของต้นไม้ พื้นที่บนดาดฟ้าก็ค่อนข้างเดินล่าบาก เขานั้น เดินไปแต่ละก้าวอย่างระมัดระวังระหว่างที่สังเกตการต้นไม้ไปด้วย บนดาดฟ้านั้นมี พื้นที่ไม่สม่าเสมอและยังมีรอยร้าวแตกอยู่เยอะ นอกจากนี้ยังมีรอยแตกขนาดใหญ่ที่ เขาเอาไว้ให้โดรนบินเข้าไปในอาคารได้ หากเขาก้าวพลาดแม้แต่ก้าวเดียวและ เหยียบไปยังรอยแตกนั้น เขาอาจจะต้องล่วงตกลงไปอยู่ที่ชั้นล่างอย่างแน่นอน
เขาเดินไปที่ขอบดาดฟ้า ลมแรงในตอนเช้านั้นทําให้เสื้อผ้าของเขานั้นพัดปลิวไปมา มาร์คประหลาดใจกับภาพที่เห็น ด้านหลังศาลากลางนั้นเป็นที่ดินกว้างๆที่ใช้ทําการเกษตรและยังสามารถมองเห็นป่าเล็กๆได้ในระยะไกล ในช่วงเวลานี้ของปีที่ดินก็คง จะเปลือยเปล่าไปเรื่อยๆต่อไป
ตอนนี้อย่างไรก็ตาม หญ้าเขียวชอุ่มที่เพิ่งแตกหน่อได้ปกคลุมพื้นที่ดินการเกษตรที่ว่างเปล่าพร้อมกับพืชหลายชนิดที่ดูเหมือนพืชผลที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวเมื่อไม่ นานมานี้ ใบไม้ของต้นไม้ในป่าก็เขียวขึ้นอย่างเห็นได้ซึ่งมันควรจะเป็นแบบนั้นตั้งแต่ ก่อนวันโลกาวินาศนี้
ขณะที่ลมพัดผ่านใบหน้าของเขา มาร์คก็ได้รู้สึกสงบจิตสงบใจและรู้สึกพอใจอย่าง มาก มันจะฟังดูเหมือนแย่แต่จริงๆแล้วนี่คือหนึ่งในสิ่งที่เขาต้องการเห็นในชีวิตตั้งแต่ เขาได้กลายเป็นแฟนคลับนิยายซอมบี้กลายพันธุ์ เขาอยากเห็นเพื่อดูว่าโลกจะเป็น อย่างไรหลังจากที่มนุษย์หยุดการกระทําที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในทางแย่ๆต่อ โลกใบนี้
ลมพัดโชยท่าให้เขารู้สึกดีมากและแสงแดดยามเช้าก็ไม่รุนแรงเหมือนเมื่อก่อน เขารู้สึกพอใจกับบรรยากาศแบบนี้เหลือเกิน ใช้เวลาอีกนิดโลกก็จะเต็มไปด้วยพืชพันธุ์มากมาย นั้นคงจะเป็นภาพที่ดีที่จะได้เห็น
มาร์คมองไปยังภาพฉากเบื้องล่างตรงถนน ภาพของผู้ติดเชื้อก็ไม่ได้ทําลายบรรยากาศดีๆออกไป แต่จริงๆแล้วมันกลับเติมรสชาติดีๆอีกแบบให้กับบรรยากาศตอนนี้ การดำรงอยู่ของผู้ติดเชื้อเป็นเพียงแค่การย้ําเตือนความจริงที่ว่าโลกกาลังจะสิ้นสุดลง เขานั้นมีความรู้สึกแตกต่างจากคนส่วนใหญ่นั้นจะรู้สึก เขากลับรู้สึกมีความสุขมากกว่าเศร้าเสียอีก
ยิ้มที่พึงพอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา คนส่วนใหญ่ที่อาจจะได้เห็นเขาเป็นแบบนี้อาจจะคิดว่าเขานั้นคงบ้าไปแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้ติดใจอะไร
โดรนนั้นก็ได้ลงจอดยังชั้นสูงสุดของอีกอาคารหนึ่งซึ่งกําลังมองไปที่เขาอยู่โดยที่ เขาไม่รู้ตัว การแสดงท่าที่และการกระทําทั้งหมดของเขาถูกถ่ายทอดผ่านทางโดรน ตั้งแต่เวลาที่เขาออกไปที่ชั้นดาดฟ้าจนถึงเวลาที่เขากําลังมองดูทิวทัศน์อย่างพึง พอใจก็ถูกเห็นได้โดยเหมยโอเดลินาและเด็กอีกสองที่อยู่ในรถ
จริงๆแล้วเหมยต้องการที่จะใช้วิทยุเรียกมาร์คตั้งแต่ตอนที่เธอเห็นสีหน้าอันเหนื่อยล้าของมาร์คแล้วแต่ถูกโอเดลินาหยุดไว้ก่อน มาร์คก่าลังพยายามอย่างดีที่สุดที่จะไม่ แสดงด้านที่อ่อนแอออกมาให้พวกเขาเห็นแต่พวกเขาก็เห็นด้านนั้นโดยบังเอิญอยู่ดี มันจะดีกว่าถ้าพวกเขาท่าเหมือนไม่รู้ว่าพวกเขาเห็นด้านที่อ่อนแอของมาร์ค และต้อง สนับสนุนให้กาลังใจเขาให้ดีที่สุด
ในอีกด้านหนึ่ง พวกเขาก็ไม่ได้ติดใจอะไรกับใบหน้าที่พึงพอใจของมาร์คที่แสดง ออกมาในขณะที่ได้มองผลกระทบที่หายนะครั้งนี้นํามาให้ พวกเขากลับรู้สึกว่าความ คิดและทัศนคติของมาร์คนั้นดีกว่าและเหมาะสมที่จะเผชิญหน้ากับโลกในที่กําลังพัง ทลายใบนี้ ความคิดและทัศนคติของผู้นําที่ท้อแท้สิ้นหวังนั้นจะมีแต่ทําให้คนของเขา นั้นแย่ลงและใช้ชีวิตยากขึ้น
กลับไปที่ชั้นดาดฟ้ามาร์คเริ่มสารวจพื้นที่รอบ ๆ ศูนย์บัญชาการ เขาเห็นว่าประตูทางเข้าด้านหน้าทั้งสองบานเปิดออกและหน้าต่างกระจกในชั้นหนึ่งและชั้นสองแตก ทั้งหมดเหลือเพียงแค่ซากกรอบของหน้าต่างทิ้งเอาไว้ เพียงแค่นี้เขาสามารถพูดได้ เลยว่าการเข้าไปในชั้นหนึ่งของศูนย์บัญชาการนั้นอันตรายมาก
อย่างไรก็ตามคลังอาวุธดังกล่าวอยู่ในชั้นแรกของอาคารกลางของศูนย์บัญชาการ ตามข้อมูลคลังอาวุธถูกล็อคด้วยเลขล็อคแต่ก็ไม่ได้ทําให้ขั้นตอนการขนอาวุธออ กนั้นยากไปกว่าเดิม ในเมื่อหัวหน้าตํารวจนั้นก็ได้ระบุมอบชุดตัวเลขที่ล็อคเอาไว้ให้ มาร์คมาแล้ว ปัญหาเดียวคือความอันตรายที่จะต้องไปยังที่ชั้นหนึ่งเพื่อค้นหาคลังอาวุ
ดูเหมือนว่าพวกเขานั้นจําเป็นต้องล่อลวงผู้ติดเชื้อให้ออกไปจากอาคารให้ได้ก่อน ที่จะเข้าไปยังข้างในโดรนยังใช้ได้กับแผนนี้อยู่มั้ยนะ? แต่ก็อาจจะไม่ เพดานของศูนย์บัญชาการมีความสูงมาตรฐานและทางเดินก็แคบ โดรนอาจถูกทําลายลงหากถูกใช้เพื่อเข้าไปในอาคาร
เมื่อคิดหาทางแล้วมาร์คก็เดินไปตามขอบดาดฟ้า จบลงด้วยการเดินไปทางด้านหลังของอาคาร ด้านล่างเขาสามารถมองเห็นศูนย์อนามัย จริงๆเขารู้อยู่แล้วและคิดที่จะ ไปเอายามาให้ชาเมนจากที่นั่น ในฐานะที่เป็นศูนย์อนามัยของเมืองควรมียาสําหรับ การเจ็บป่วยที่พบบ่อยและการเจ็บป่วยที่ไม่ปกติจํานวนมาก อย่างไรก็ตามการไปที่ติ กนั้นเหมือนเป็นการฆ่าตัวตายดีๆนี่เอง อาคารถูกแยกออกไปที่ศาลากลางและการเข้า ถึงศูนย์อนามัยเพียงทางเดียวคือการเดินไปตามถนนและประตูข้างหน้า มันอาจมีประ ตูหลังอยู่ แต่การระหว่างทางการไปที่นั่นอันตรายยิ่งกว่าการได้เข้าไปยังทางด้านหน้า เสียอีก
ถนนเต็มไปด้วยผู้ติดเชื้อ มนุษย์ต้นไม้กลายพันธุ์ตัวใหญ่ก็ยังมาอยู่ที่หน้าอาคารบ่อยครั้งขณะที่จ้องมองผลไม้บนต้นไม้ใหญ่ ดูเหมือนว่าพวกมนุษย์ต้นไม้กลายพันธุ์จะสังเกตเห็นมาร์คขณะที่มันหันร่างของมันเข้าหาเขาแต่มันก็ไม่ได้ทําการเคลื่อนไหว คุกคามใดๆ
“หืมมม?”
มาร์คสังเกตได้ถึงบางอย่าง
มีชายผู้ติดเชื้อลักษณะแปลกๆได้ออกมาจากประตูที่พังทลายของศูนย์อนามัย มันมีคอและหน้าอกป้องและเดินแปลกๆราวกับว่าเมา แต่ก้าวที่เดินนั้นก็ไม่ได้แต่อย่าง
ใด
“นั่นคือซอมบี้นักกัดใช่มั้ยนะ?”
มาร์คคิด จากนั้นความคิดก็พุ่งเข้ามาในหัวเขา ลำคอและหน้าอกที่ป่อง? นั่นไม่ใช่ ลักษณะของเสียงกรีดร้องที่ของผู้ติดเชื้อในวิดีโอเกมนิ?
มาร์คตัดสินสินใจที่จะไปทําการสํารวจตรวจสอบ
เขาคุกเข่าบนหลังคาด้วยเข่าข้างหนึ่งและเล็งปืนไรเฟิลจูของเขาอย่างระมัดระวัง เมื่อเห็นท่าทางของเขา แอ็บบีเกลก็วิ่งไปดสิ่งที่เขาเล็งไปยังเป้าหมาย
ถ้ามันเป็นซอมบี้นักกัด มันควรที่จะเจ็บปวดอย่างรุนแรง มาร์คไม่ได้วางแผนไว้ว่าจะฆ่ามันให้ตาย เขาพยายามเล็งปืนไปที่เท้าของผู้ติดเชื้อ มันคงจะยากหน่อยในเมื่อ ระยะทางที่เขาอยู่นั้นไกลกับมันพอสมควรและปืนไรเฟิลนั้นก็ไม่ได้ถูกติดตั้งให้อยู่ใน ระยะขอบเขตของพื้นที่นั้น อย่างไรก็ตามในขณะที่เขาไม่มีความมั่นใจที่จะยิงได้อย่าง แม่นย่า เขาก็มั่นใจว่าเขาจะไม่ดึงดูดดูดผู้ติดเชื้อที่อยู่ด้านล่างมา แต่มนุษย์ต้นไม้ กลายพันธุ์ขนาดใหญ่นั้นเป็นข้อยกเว้นแน่นอน
มาร์คลื่นลูกกะสุนลูกแรกออกไป
ปัง!
มันพลาด ลูกกระสุนฝังลงไปที่พื้นคอนกรีตหลายนิ้วจากผู้ติดเชื้อพร้อมกับเกิดเสียงดัง ดูเหมือนว่าผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์จะได้รับสิ่งเร้าจากสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พวกมันไม่ได้ทําอะไรนอกจากมองไปที่รูกระสุนที่อยู่บนพื้นคอนกรีต ผู้ติดเชื้ออื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงดูเหมือนจะได้รับสิ่งเร้าด้วยเสียงเมื่อพวกมันเริ่มแห่กันไปยังแหล่งที่มาของลูกกระสุน
นั้นมาร์คไม่ใส่ใจกับการที่เขาพลาดนัดแรกและลั่นลูกกระสุนออกไปอีกครั้งหลังจากที่ ปรับเปลี่ยนเป้าหมายในการยิงแล้ว
คราวนี้เกิดเสียงดังตับเมื่อมาร์คพลาดการยิงอีกครั้ง สิ่งที่ถูกโจมตีคือผู้ติดเชื้ออีกคนอื่นที่ถูกดึงดูดจากเสียงยิ่งในครั้งแรกของเขา ผู้บริสุทธิ์ที่ติดเชื้อถูกยิงโดนไปที่หน้าผากจนตายทันทีพร้อมกับเลือดที่กระเซ็นออกมา
มาร์คปรับเป้าหมายของเขาอีกครั้ง คราวนี้เขาทําสําเร็จ
อ่าาาาาาาาากกกกกกกกกก!!!!!
ผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์กรีดร้องอย่างที่เขาคาดไว้
เสียงกรีดร้องแหลมดังก้องไปทั่วถนน ในขณะที่ผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์ที่มีหน้าอกและล่าคอที่ป่องถูกยิงไปที่ไหล่ซ้ายของมัน มาร์คนั้นเล็งไปที่เท้าของมันแต่กลับโดนไปที่ ไหล่ของมันอย่างไม่ตั้งใจ แต่มันก็ถือว่าไม่ล้มเหลวน ใช่ไหมล่ะ?
ถึงกระนั้นมาร์คก็แทบระเบิดเสียงหัวเราะออกมาเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของมันไม่ใช่เสียงกรีดร้องที่น่ากลัวและน่าขนลุก แต่เป็นเสียงกรีดร้องที่ฟังดูเหมือนว่าคอของมันกาลังสาลักบางสิ่งบางอย่างอยู่
แอ็บบีเกลนั่งอยู่บนหลังคาแล้วหัวเราะออกมาดังๆอย่างมีความสุข เหมยและโอเดลินาที่เฝ้าดูสิ่งที่เขาทําจากรถก็กลั้นเสียงหัวเราะ แต่ก็ต้องยิ้มออกมาเมื่อซิกไฟลด์ และโอเดทก่าลังขาไปด้วยและกุมท้องไปด้วย
เสียงกรีดร้องของผู้ติดเชื้อดังขึ้นราวกับคนที่สูดดมฮีเลียมทั้งถัง! มันฟังเหมือนเสียงของโดนัลด์ดักที่ได้กรีดร้องดังลั่น ขณะที่มันก็กลิ้งไปบนทางเท้าด้วยความเจ็บปวด!
อย่างไรก็ตามมันก็ได้ผลจริงๆอย่างที่มาร์คคาดหวังไว้ เสียงกรีดร้องอาจฟังดูตลก แต่จริงๆแล้วมันดึงดูดผู้ติดเชื้อเข้ามา แม้แต่ผู้ติดเชื้อจากอีกฟากหนึ่งของอาคารก็แห่กันมาทางด้านหลังศาลากลาง
ตอนนี้มาร์คมีวิธีที่จะทําให้ผู้ติดเชื้ออออกห่างจากศูนย์บัญชาการแล้ว ในกรณีนี้เขา จะทําให้มันกรีดร้องขึ้นอีกสักครั้งในภายหลังแน่นอน!