มหาวิบัติสงครามการกลายพันธุ์ (Mutagen) - ตอนที่ 8 : สบถด่าเป็นในครั้งแรก
ตอนที่ 8 : สบถด่าเป็นในครั้งแรก
การที่ได้ยินเสียงเขาตะโกนดังลั่นออกมา พวกผู้หญิงต่างก็พากันสะดุ้งและได้สติ พอลลาอุ้มเด็กไว้ในอ้อมแขนของเธอ ในขณะที่แองเจช่วยแม่ของเด็กนั้นยืนขึ้น เมื่อแม่ของเด็กนั้นได้ยืนขึ้นแล้วเธอก็เกือบจะล้มพับลงไปอีกที เธอพยายามพยุงตัวไม่ให้ล้มลงไป แม่ของเด็กพยายามจะเดินต่อแต่เธอสามารถทำได้แค่เดินโดยใช้เท้าซ้ายของเธอลากไป ใบหน้าของเธอนั้นแสดงออกด้วยความเจ็บพวก เมื่อแองเจเห็นแบบนี้ เธอเข้าไปพยุงแขนขวาของแม่เด็กไปพาดบนไหล่ซ้ายของเธอทันใด
ปัง! ปัง!
มาร์คยังคอมยิงใส่พวกซอมบี้ที่วิ่งได้อย่างว่องไวอย่างต่อเนื่องและแม่นยำกว่าเดิม เหมือนกับว่าเขานั้นชินกับแรงดันของปืนไปแล้ว จากนั้นลูกกระสุนปืนก็หมดลง หลังจากได้เปิดกระบอกของปืนลูกซอง เขาก็นำลูกกระสุนสิบสองอันออกมาจากกระเป๋าของเขาและบรรจุลูกกระสุนลงใส่กระบอกปืนด้วยความใจเย็นและมีสติทันทีทันใด ในขณะที่เขาก็ได้ถอยหนีออกจากพวกซอมบี้ไปทีละก้าวพร้อมๆกัน และเขาเห็นว่าแองเจกำลังช่วยเหลือแม่เด็กนั้นอยู่
“เกิดอะไรขึ้น?”
มาร์คถามพร้อมกับมองไปทางข้างหลังด้วยเพื่อไม่ให้คลาดสายตาจากพวกซอมบี้
“ขาของเธอเคล็ด”
แองเจตอบพร้อมกับทำสีหน้าบึ้งตึง
สีหน้าของแม่เด็กนั้นเจ็บปวดทรมานอย่างมาก แม่เด็กก็ได้พูดขึ้นมาพร้อมกับน้ำตา
“ฉันวิ่งต่อไม่ได้อีกแล้ว ขอร้องล่ะช่วยพาลูกสาวของฉันหนีไปด้วยเถอะ”
เด็กหญิงสองคนและชายที่ตามมากับมาร์คถึงกับตกใจเมื่อได้ยินสิ่งที่แม่เด็กพูดออกมา และเด็กที่อยู่ในอ้อมแขนของพอลลาก็เริ่มร้องไห้ออกมา
“แม่คะ! ไม่เอา!”
เด็กหญิงนั้นเริ่มดิ้นไปดิ้นมาเกือบจะหล่นลงพื้นเพื่อที่จะหนีออกจากอ้อมแขนของพอลลา พอลลาไม่มีทางเลือก เธอจำเป็นต้องกอดเด็กนั่นแน่นมากขึ้นเพื่อที่จะไม่ให้เธอล่วงหล่นออกไปจากแขน แต่เด็กนั้นก็ยังไม่ยอมหยุดที่จะหลุดออกไปหาแม่ของเธอ
“ไม่ได้หรอก! พวกเราจะไม่ทิ้งคุณไว้ข้างหลัง!”
แองเจเริ่มขึ้นเสียงใส่เธอ
“แต่ -”
“ไม่มีคำว่าแต่!”
แองเจยังคงไม่ยอมปล่อยแม่ของเด็กไปไหน
เมื่อเห็นความมุ่งมั่นของแองเจที่ช่วยเธอ น้ำตาของแม่เด็กก็ไหลท่วมออกมา เธอนั้นไม่อยากตาย จริงๆแล้วเธอกลัวการตายอยู่บนเขี้ยวฟันของพวกสัตว์ดุร้ายพวกรั้รและเธอก็ไม่อยากที่จะทิ้งลูกของเธอเอาไว้แม้แต่นิดเดียว แต่เมื่อขาของเธอได้เกิดการบาดเจ็บ เธออาจจะทำให้ลูกของเธอและเหล่าคนดีพวกนี้ไปสู่ความตายได้ เธอไม่อยากเป็นเหมือนชายคนนั้นซึ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายขึ้นกว่าเดิม
พนักงานที่ตามมากับมาร์คก็น้ำตาปริ้มออกมาเมื่อเขามองดูฉากนี้
จากนั้นก็มีเสียงตะคอกออกมาจากทางข้างหลังพวกเขา
“จะดราม่ากันอยู่เพื่ออะไร?! นี่ไม่ใช่ละครดราม่าและเราไม่มีเวลามากให้คุณทุกคนแสดงฉากนี้”
แองเจต้องการพูดอะไรบางอย่างเป็นการโต้ตอบกลับไปเมื่อเธอคิดว่าเขาต้องการที่จะทอดทิ้งแม่ของเด็ก แต่มาร์คก็ไม่ได้ละทิ้งเธอ และหันไปมองพนักงานที่อยู่ข้างหลังเขา เมื่อได้เห็นมาร์คมองไปที่เขา เขาก็ได้กลืนน้ำลายตัวเองด้วยเหตุผลบางอย่าง
“เธอคิดว่าเธอสามารถแบกเธอได้งั้นหรอ?”
มาร์คชี้ไปที่แม่เด็ก พนักงานมองไปที่แม่เด็กซึ่งมีรูปร่างที่ค่อนข้างเตี้ยกว่าเขาประมาณห้านิ้ว และเขาก็พยักหน้าอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
เมื่อได้เห็นชายนั้นดูไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ มาร์คเริ่มสับสน รูปร่างของชายนั้นดูค่อนข้างที่จะชินกับการยกของหนัก แต่เขากลับโชว์ท่าทีไม่เต็มใจแบบนั้นที่ต้องแบกผู้หญิงคนนี้หนีไป
เขายังคงทำตามที่มาร์คบอก ชายคนนั้นวางถังดับเพลิงลงไปที่พื้นและนำแม่เด็กที่แองเจกำลังพยุงอยู่มาไว้ที่แขนของเขาและอุ้มเธอแทน แม่เด็กมีท่าทีลังและอับอายนิดหน่อยที่ต้องถูกอุ้มแบบนี้ แต่เธอรู้ดีถึงสถานการณ์ที่เร่งรีบและรอต่อไปไม่ได้
เมื่อแองเจมีความคิดที่ผิด เธอรู้สึกอับอายนิดหน่อยเมื่อมองไปที่มาร์คซึ่งกำลังถือไม้เบสบอลที่เปื้อนเต็มไปด้วยเลือด ดููเหมือนว่าพวกเธอจะหมกมุ่นกับสถานการณ์ของแม่เด็กนั้นเกินไป จนไม่ได้สังเกตุว่าผู้ช่วยชีวิตพวกเขานั้นได้ปราบซอมบี้ไปหลายตัวแล้ว เบื้องหน้าของมาร์คมีศพซอมบี้หลายตัวที่กระโหลกยุบเละนอนกองเต็มเกลื่อนพื้น
ฉากที่เต็มไปด้วยเลือดที่อยู่เบื้องหน้าเขาค่อนข้างที่จะทำให้ชวนอ้วกและสยดสยอง แต่ใบหน้าของมาร์คนั้นไม่แสดงอารมณ์ใดๆออกมา ท่ามกลางร่างศพซอมบี้พวกนั้น ชายที่จับรั้งขาของแม่เด็กเอาไว้ก็เห็นว่ากระโหลกของเขานั้นยุบลงไปและเลือดไหลนองออกจากปาก
“มันไม่ง่ายกว่าหรอถ้าแบกเธอไว้ที่หลังของนาย?”
มาร์คถามในขณะที่เขากำลังเหวี่ยงไม้เบสบอลไปที่หน้าของซอมบี้อีกตัวที่กำลังกระโจนเข้าไปใส่เขา
ชายนั้นไม่ตอบแต่มองไปที่มาร์คด้วยใบหน้าท่าทีที่วิงวอน เมื่อเห็นแบบนี้ ในที่สุดมาร์คก็ได้ข้อสรุปว่าเขาจะกดดันบังคับชายคนนั้นต่อไปแล้ว
ครืดดดดด! ครืดดด! ครืดดด!
มีเสียงดังสนั่นอย่างต่อเนื่อง โดยเสียงสุดท้ายนั้นเปรียบเหมือนโลหะหนักตกลงพื้น
“ชิ*หายแล้ว!”
ท่าทางของมาร์คก็ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิงขณะที่เขาได้สบถออกมาดังลั่นเป็นครั้งแรกในชีวิต เมื่อได้ยินเสียงนั่น
เขาไม่ใช่คนที่จะชอบสบถคำหยาบคายออกมา แม้กระทั่งคนที่รู้จักกับเขาก็ยังไม่เคยได้ยินเสียงสบถหยาบคายแม้แต่สักครั้ง ในมุมมองของมาร์คนั้นเห็นว่าการสบถคำหยาบคายออกมามันเป็นอะไรที่ดูถ่อยและทำให้คนคนนั้นดูไร้การศึกษา ดังนั้นเขาจึงไม่เคยคิดจะเอ่ยคำสบถที่หยาบคายออกมาจากปาก แต่ด้วยสถานการณ์แบบนี้นั้นก็ช่วยไม่ได้ที่จะไม่เอ่ยคำสบถหยาบคายออกมา
หญิงสาวที่อยู่ด้วยกันกับมาร์คต่างก็สับสนกับท่าทางของเขาเมื่อมีเสียงนั้นดังออกมา แต่ใบหน้าของพนักงานที่อุ้มแม่เด็กอยู่นั้นก็ซีดไปเช่นกัน
“เกิดอะไรขึ้น?”
แองเจสังเกตุได้ถึงท่าทางแปลกๆของชายสองคนนั้นจึงถามออกไป
“ถืออันนี้ที”
ทั้งพนักงานชายนั้นและมาร์คต่างก็ทำเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่เธอถาม แต่กลับยื่นไม้เบสบอลให้เธอถือแทน
แองเจไม่สนใจหมกมุ่นกับคำถามของเธออีกแล้วและเธอก็รับไม้เบสบอลมาไว้ จากนั้นมาร์คก็ถือถังดับเพลิงและเอาไปฟาดกับซอมบี้ที่กำลังใกล้เข้ามาซึ่งทำให้มันเซไปข้างหลัง ในตอนนั้นเองมาร์คก็ดึงหัวถังดับเพลิงออกมาและพ่นใส่ซอมบี้ที่ถูกฟาดไปที่ใบหน้า
ซอมบี้ตัวที่ใบหน้าของมันถูกปกคลุมเต็มไปด้วยโฟมขาวเหนียวๆเริ่มจะวิ่งตรงมาที่เป้าหมายของมันอีกครั้งโดยที่ไม่คิดจะพยายามเอาโฟมออกไปจากใบหน้าที่บังสายตาของมันอยู่ มันพยายามที่จะโจมตีเข้ามา มันกระโจนเข้าใส่ แต่ไม่ได้เข้ามาในตำแหน่งทิศทางที่มาร์คยืนอยู่แต่มันพุ่งไปที่บันได ไหล่ของซอมบี้กระแทกเข้ากับราวบันไดแต่ร่างกายที่เหลืออยู่ของมันติดอยู่กับบันได ด้วยแรงโน้มถ่วงจากการกระโดดของมันทำให้มันหมุนลอยอยู่กลางอากาศและตกลงไปสู่ความตาย เสียงร่างกายมันตกกระทับกับพื้นดังลั่น มันตกลงไปจากราวบันไดสองชั้น
สายตาของมาร์คก็เปร่งประกายขึ้นมาเล็กน้อยเมื่อเขาได้เห็นผลงานที่ทำลงไป ด้วยผลลัพธ์นั้นพวกซอมบี้ที่ว่องไวกำลังใกล้เข้ามา พวกมันนั้นก็ทรงตัวไม่ค่อยได้และได้ลื่นโฟมที่ฉีดออกมาพร้อมกับไถลไปกับพื้น ตัวของมันเปื้อนเต็มไปด้วยโฟม โดยเฉพาะมือและเท้าของมันทำให้ยากต่อการที่มันจะลุกยืนขึ้นมา ทุกๆครั้งที่มันพยายามจะยืนขึ้นมันก็ต้องล้มลงไปทุกที
พวกมันยังคงล้มลุกคลุกคลานอยู่กับพื้นซ้ำๆ พวกเขาไม่รู้ว่าจะช้าหรือเร็วแค่ไหนกว่าที่พวกมันจะสามารถวิ่งไล่ได้เหมือนเดิม และดังนั้นในตอนนี้พวกเขาก็เห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้หนีไป
“โอเค! วิ่ง!”
มาร์คเห็นว่าตอนนี้มีเวลาเหลือมากพอที่จะวิ่งหนีไป พวกเขาทั้งหมดนั้นก็รีบวิ่งกลับไปที่โซนสินค้าไอที ปล่อยให้พวกซอมบี้ตะเกียกตะกายดิ้นรนไว้อยู่ข้างหลัง