มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 972
หลัวซิวยิ้มเบาๆ เขารู้ดีอยู่แก่ใจว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นการเดินทางที่น่ากลัว แต่กลับไม่มีทางเลือกอื่น ทั้งหมดเป็นเพราะกำลังที่มีอยู่สู้พวกเขาไม่ได้
จะว่าไปแล้ว บนโลกนี้ เป็นโลกที่เคารพในความแข็งแกร่ง
ไม่มีพละกำลังต่อให้คุณจะเก่งกาจแค่ไหน มีศักยภาพมากเท่าไหร่ มันก็เป็นเรื่องไร้สาระเท่านั้นเอง
ก่อนที่เทพสงครามเอกภพจะตายได้ทิ้งม้วนหยกไว้ และซ่อนสมบัติชิ้นนั้นไว้ที่ไหนซักแห่งบนโลกแสงดาว โดยไม่เต็มใจ
เขาได้กล่าวไว้ในม้วนหยก หวังว่าในอนาคตจะมีคนได้สมบัติชิ้นนั้นไปฝึกตนจนได้แดนสูงๆในสักวัน และแก้แค้นให้กับเขา ฆ่าศัตรูที่แข็งแกร่งของเขา
ที่พิภพกลางเทพสงครามเอกภพเป็นผู้แข็งแกร่งในตำนาน ต่อสู้กับศัตรูอยู่ยงคงกระพันทั่วโลกมีฉายาว่าอมตะไร้ศัตรู เผ่าเทพสงครามได้ชื่อว่าเป็นเผ่าที่แข็งแกร่งที่สุดในพิภพกลาง
และคนที่แข็งแกร่งอย่างเขา ในสายตาของผู้มีพลังที่ยิ่งใหญ่ในพิภพสูง ยังคงเป็นคนที่ไม่สำคัญไม่จำเป็นต้องพูดถึง
ท่ามกลางพิภพที่มีนับไม่ถ้วนในจักรวาลมีผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในน้ำมือของผู้แข็งแกร่งมากกว่า มีภูเขาที่สูงกว่าภูเขาสูง คุณไม่มีทางรู้เลยว่าจุดสิ้นสุดของโลกยุทธ์อยู่ที่ไหน
บางทีตอนที่คุณได้รับแดนบางขั้นตอนที่รู้สึกว่าไม่มีศัตรูคนไหนที่สู้คุณได้แล้วในโลก อาจจะมีผู้ที่แข็งแกร่งมากกว่ามีตัวตนอยู่ และสามารถทำลายคุณด้วยฝ่ามือได้ทุกเมื่อก็เป็นได้
ตำแหน่งที่ระบุไว้ในม้วนหยกอยู่ที่ใดที่หนึ่งในอาณาจักรเหนือของโลกแสงดาว
หลายหมื่นปีที่ผ่านมา ผู้แข็งแกร่งของเผ่าพันธุ์มนุษย์เผ่าปีศาจและเผ่าพันธุ์มารต่างค้นหาทุกซอกมุมของโลกแสงดาว แม้แต่อนัตตาไม่สิ้นและพิภพทั้งหลายที่อยู่รอบๆโลกแสงดาวต่างก็เคยค้นหาหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถค้นพบเบาะแสอะไรเลย
มันเป็นทะเลทรายที่แห้งแล้งนับหมื่นไมล์มีสภาพการณ์เดียวกันดูเหมือนจะไม่มีความแตกต่างใดใด
แต่หลัวซิวกลับหยุดอยู่ที่นี่ มันบอกว่าที่นี่คือตำแหน่งที่มีสมบัติอยู่
“พ่อหนุ่ม เจ้าล้อพวกเราเล่นหรือไง?” เทพมารตนหนึ่งพูดด้วยความโกรธ
“ข้าว่าไอหนุ่มนี่ไม่ได้พูดความจริงเลย รีบจับตัวเขามาค้นหาจิตวิญญาณ จะได้รู้ทุกอย่าง”
“หุบปากเดี๋ยวนี้ !” เทพปีศาจสยบนภาส่งเสียงคำราม เขาเบิกตาโตราวกับระฆังทองใบใหญ่จ้องมาที่หลัวซิว “พ่อหนุ่ม เจ้าว่าอย่างไร?”
สามารถฝึกตนได้ถึงระดับเขตแดนอย่างเขา แน่นอนว่าต้องไม่ธรรมดา อีกอย่างเทพปีศาจสยบนภาต้องการจะดึงหลัวซิวเข้ามาเป็นพวกฝ่ายเผ่าปีศาจจริงๆ ในเมื่อดึงมาเป็นพวกไม่ได้ ก็พยายามที่จะไม่เป็นศัตรูด้วย เพราะความสามารถและศักยภาพของเขาเป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งแก่สายตาอยู่แล้ว นอกจากว่าจะสามารถฆ่าเขาทิ้งไปได้มิฉะนั้นการเติบโตของเขาจะทำให้ศัตรูใดๆรู้สึกกลัว
สำหรับพิภพต่ำ โลกาอสูรฟ้าเป็นอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ท่ามกลางอณาจักรเป็นเป็นหมื่นเป็นพันในพิภพกลาง โลกาอสูรฟ้าถือว่าเป็นอาณาจักรธรรมดาๆเท่านั้นเอง
ความสงบเยือกเย็นของเทพปีศาจสยบนภา ทำให้หลัวซิวเปลี่ยนแปลงมุมมองใหม่ เทพมารผู้แข็งแกร่งตนนี้ นอกจากข้อบกพร่องของนิสัยโดยกำเนิดที่มีอยู่ส่วนน้อยแล้วเขามีจิตใจที่ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
“เทพสงครามเอกภพสูญเสียชีวิตก็เพื่อสมบัติชิ้นนี้ ด้วยความไม่เต็มใจ เขาไม่มีทางทำให้สมบัติชิ้นนี้ถูกค้นหาเจอได้ง่ายๆอย่างแน่นอน”
หลัวซิวยิ้มแล้วพูดอธิบาย พร้อมชี้นิ้วลงไปด้านล่าง “ตรงนี้มีวิชาห้ามค่ายกลที่ซ่อนอยู่”
สิ้นสุดเสียงพูด บรรดาเทพมารที่อยู่ที่นี่ต่างรวบรวมพลังเทพผังกฎดั้งเดิมกลายเป็นเส้นแสงสาดส่องออกไป แต่กลับไม่พบเจอสิ่งใด
เทพมารอสูรเผ่ามังกรตนนั้นขมวดคิ้ว กระจกทองเหลืองลอยออกมาส่องแสงศักดิ์สิทธิ์ระยิบระยับไปยังตำแหน่งที่หลัวซิวชี้ ทันใดนั้นลายค่ายที่อำพรางอยู่ก็ปรากฏขึ้นมีพื้นที่ทางเข้าที่รางเลือนซ่อนอยู่ในนั้น
“ที่แท้ก็อยู่ที่นี่นี่เอง !”
เหล่าเทพมารต่างส่งเสียงอุทานด้วยความตกตะลึง ตัวสำนึกของพวกเขากวาดไปหลายพันครั้งก็ไม่มีการค้นพบใดใด เห็นได้ว่าวิชาห้ามค่ายกลนี้ซ่อนเร้นไว้ลึกมาก
แม้ว่าเทพมารอสูรเผ่ามังกรจะมีกระจกเทพ แต่ก็ไม่มีทางที่จะค้นพบความ แปลกประหลาดได้ในทุกๆที่ และไม่ได้ฝึกตนมามากพอที่จะใช้กระจกเทพส่องไปในทุกที่ทั่วทั้งโลกแสงดาว
สามารถพูดได้โดยไม่ลังเลว่า ถ้าไม่มีคำแนะนำจากม้วนหยก ต่อให้ผ่านไปอีกหมื่นปีก็ไม่สามารถค้นหาที่นี่เจอ