มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 865
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 865
“เจ้ามีแต้มคุณความดีเท่าไร?” หลัวซิวมองขึ้นไปยังเจ้ายุทธจักรโอริที่อยู่บนแท่น
หลังจากประโยคนี้ ผู้คนต่างพากันประหลาดใจ เจ้าหนุ่มนี่ถามว่าโอริมีแต้มคุณความดีเท่าไร หรือว่าวางแผนจะกำจัดเขาแล้วรับแต้มห้วงกระบี่งั้นรึ?
“1,800 แต้มคุณความดี! กล้ามาเอาหรือไม่?” โอริโกรธถึงขีดสุดแต่ก็ปั้นหน้ายิ้มออกมา พูดด้วยท่าทางกระฉับกระเฉง
“ผลการฝึกตนเจ้ายุทธจักรแต่กลับมีเพียง1,800 แต้มคุณความดี เจ้านี่ยากจนดีจริง ๆ ยังกล้ามาที่นี่ให้อายสายตาชาวบ้านอีก?”
อีกฝ่ายมาท้าทายถึงที่ หลัวซิวย่อมไม่มีทางที่จะแสดงความเป็นมิตร
โอริบนแท่นประลองโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายเดินเข้ามาทางแท่นประลอง นัยน์ตาก็ฉายแววสังหารออกมา “บังอาจดูหมิ่นข้า ข้าจะทำให้เจ้าตายทั้งเป็น!”
คนจากค่ายมืดก็ชะงักไป พวกเขาไม่คาดคิดว่าเจ้าหนุ่มคนนี้ที่มีผลการฝึกตนมหายุทธ์ขั้นห้า จะกล้าเดินขึ้นไป
“เจ้าหนูนี่รนหาที่ตายแล้ว ต่อให้มีพลังอยู่บ้าง แต่มหายุทธ์ขั้นห้ากับเจ้ายุทธจักรมันห่างชั้นกันเกินไป!”
“ฮ่า ๆ คนจากค่ายมืดนี่มันโง่เง่าเกินไปแล้ว โอริฆ่ามันเลย!” ใบหน้าของคนจากค่ายสว่างเผยรอยยิ้มยินดีออกมา
ในวินาทีที่สองเท้าของหลัวซิวเหยียบลงบนแท่นประลอง โอริที่อดรนทนไม่ไหวมานานก็ลงมือโจมตีในทันที กวัดแกว่งดาบรบในมือเกือบร้อยฟุตออกไป พลังมหาศาลราวกับว่าสามารถแยกฟ้าผ่าแผ่นดินได้
หลัวซิวไม่ได้เรียกใช้หอกรบมังกรนิล แต่กลับหยิบเอากระบี่ยุทธ์ระดับอาวุธขลังชั้นดีออกมาแบบส่ง ๆ ยกมือขึ้นฟันออกไป พลังแห่งกฎความตายหลวมรวมเป็นพลังกระบี่อัคคีดำ
ปัง!
พลังดาบและพลังกระบี่ชนเข้าหากัน ที่ทำให้ผู้คนคาดไม่ถึงก็คือ พลังดาบกลับถูกพลังกระบี่โจมตีจนแตกสลาย ในชั่วพริบตาโอริถูกพลังกระบี่ฟาดลงไป ร่างนั้นลอยกระเด็นออกไป เลือดสดพุ่งออกมาทางปาก
“เจ้ายุทธจักรขั้นสอง แดนกฎกลับมีแค่ระดับกฎอาณา อ่อนแอเกินไป!” คู่ต่อสู้ระดับนี้ หลัวซิวไม่เคยมองอยู่ในสายตา
ถึงแม้จะไม่ได้เรียกใช้ไม้ตาย แค่เพียงอาศัยการครอบครองแดนกฎช่วงปลาย พลังของเขาก็แกร่งยิ่งกว่าเจ้ายุทธจักรช่วงปลายเสียอีก
หากว่าเรียกใช้ไพ่ไม้ตาย การฆ่าเจ้ายุทธจักรช่วงปลายก็ไม่ได้ยาก แม้กระทั่งว่าสามารถฆ่าเจ้ายุทธจักรขั้นเก้าได้ด้วย
ภาพที่โอริถูกฟันลอยกระเด็นออกไปนั้น ทำให้ผู้แข็งแกร่งจากทั้งสองค่ายใหญ่ต่างพากกันเบิกตาโตอ้าปากค้าง บางคนถึงกับเหม่อลอยไปเลย
โอริถึงแม้จะมีผลการฝึกตนเพียงเจ้ายุทธจักรขั้นสอง แดนกฎก็ไม่ถือว่าสูง แต่เจ้ายุทธจักรก็คือเจ้ายุทธจักร ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ใช่ระดับที่มหายุทธ์ทั่วไปสามารถข้ามแดนประลองได้ ต่อให้เป็นอัจฉริยะหาตัวจับยาก อย่างน้อย ๆ ก็ต้องมีผลการฝึกตนระดับมหายุทธ์ขั้นแปดขึ้นไป จึงจะสามารถเอาชนะเจ้ายุทธจักรช่วงต้นได้
แต่ยอร์คผู้นี้ เป็นเพียงมหายุทธ์ขั้นห้า พลังพรสวรรค์นั้นน่ากลัวขนาดไหนกัน?
โอริก็ชะงักไปเล็กน้อย เขาก็คาดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กมหายุทธ์ขั้นห้าคนหนึ่ง จะมีพลังข้ามแดนเอาชนะเจ้ายุทธจักรได้
แต่ในฐานะผู้แข็งแกร่งเจ้ายุทธจักร กลับถูกเจ้าเด็กมหายุทธ์ช่วงกลางคนหนึ่งเอาชนะได้ โอริสามารถคาดการณ์ได้ว่าต่อไปเขาคงไม่มีหน้าไปพบใครได้อีกแล้ว
“เจ้าหนู เจ้าบังคับข้าเอง!” สีหน้าของโอริเผยความโหดร้ายออกมา
“พรแห่งเทวสว่าง!”
โอริตระโกนดังลั่น พลังแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์บนร่างกายนั้นราวกับเพลิงอัคคีที่กำลังลุกโชนโหมกระหน่ำ
นี่คือวิชาลับชนิดหนึ่งของเชิ่งถิง แผดเผาพลังแห่งแสงศักดิ์สิทธิ์รับพรแห่งทวยเทพ สามารถทำให้พลังการต่อสู้ของตนระเบิดออกมาในช่วงเวลาอันสั้น
แต่ว่าวิชาลับชนิดนี้กลับมีผลข้างเคียงระยะยาวเช่นกัน เช่นนั้นก็เพราะว่าเมื่อสำแดงมันแล้ว ผลการฝึกตนจะลดลงไปหนึ่งแดนเล็ก อีกทั้งยังเข้าสู่สภาวะอ่อนกำลังระยะยาว อย่างน้อยภายในหนึ่งถึงสองปีก็ไม่ต้องคิดเรื่องต่อสู้กับคนอื่นเลย
และที่สำคัญที่สุดคือ แดนที่ตกไปนั้น เป็นเรื่องยากมากที่จะฝึกตนกลับมาอีกครั้ง
“โอริสู้สุดชีวิต ยอมที่จะสำแดงวิชาต้องห้ามโดยไม่สนใจอะไรแล้ว”
ทางฝั่งค่ายมืดมีหลายคนที่มีสีหน้าเปลี่ยนไป หลังจากโอริสำแดงวิชาต้องห้าม ออร่านั้นก็เริ่มพุ่งประทุขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ข้ามแดนขึ้นมาถึงเจ้ายุทธจักรขั้นสาม บรรลุถึงระดับเจ้ายุทธจักรช่วงกลางแล้ว
ผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนเจ้ายุทธจักร ตั้งแต่ขั้นสามถึงขั้นสี่ คือการข้ามแดนช่วงต้นถึงช่วงกลาง พลังนั้นจะมีการเปลี่ยนแปลงด้านคุณภาพ