มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 718
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 718
“เจ้า……นี่เจ้าสังหารคุณชายหยุนเซี๋ยหรือ?” ใบหน้าของเฟิ่งหลีบิดเบี้ยวจนถึงขีดสุด นางคิดไม่ถึงว่าหลัวซิวจะกล้าลงมือสังหารจริง ๆ
“ข้าไม่เพียงฆ่าเขา ยังจะฆ่าเจ้าด้วย” ไอสังหารอันดุเดือดกระเพื่อมอยู่บนร่างกายของหลัวซิว
ตูม!
เห็นเพียงร่างของหลัวซิวพลันเคลื่อนไหวขึ้นมา ช่องอากาศที่อยู่ด้านหน้าถูกร่างยุทธ์ร่างเนื้อที่แข็งแกร่งชนจนแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ แค่เพียงก้าวเดียว ก็ได้มาปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าเฟิ่งหลีในทันที
เฟิ่งหลีรีบยกไม้เท้าในมือขึ้นมามันที แต่อาวุธระดับของขลังขั้นกลางเช่นนี้ กลับถูกหลัวซิวชกจนแตกกระจายในหมัดเดียว
ผลัวะ!
เฟิ่งหลีกระอักเลือดออกมาคำโต ร่างลอยปลิวกลับออกไป เพลิงมรณะแผดเผาอยู่บนร่างกายของนางอย่างต่อเนื่อง เจ็บปวดจนนางร้องครวญครางอยู่ไม่หยุด
“ยายแก่ ก่อนหน้านี้เจ้าอาศัยอำนาจของเผ่าหงส์มารังแกข้า เคยคิดหรือเปล่าว่าจะมีวันนี้?”
ในขณะที่พูดหลัวซิวก็ได้ซัดออกมาอีกหนึ่งหมัด มกุฎอัคคีนภาเหลืองกลายร่างเป็นมังกรสีทองกระโจนออกมาพร้อมกับเสียงคำราม ทับถมกลืนกินมหายุทธ์ของเผ่าหงส์ที่มีนามว่าเฟิ่งจาง
“ที่ฆ่าเจ้าในวันนี้ เป็นเพียงการเก็บดอกเบี้ยเท่านั้น ต้องมีสักวันที่ข้าจะไปเหยียบเผ่าหงส์ ความอัปยศในวันก่อน จะต้องคืนให้ยายแก่เจ้ายุทธจักรหงส์ผู้นั้นเป็นสิบเท่า!”
ระยะเวลาเพียงปีกว่า ๆ ความสามารถของหลัวซิวได้แตกต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง ในทุกการเคลื่อนไหว สังหารมหายุทธ์ได้อย่างง่ายดายราวกับฆ่าหมูฆ่าสุนัข
“เจ้าเดรัจฉานน้อย เจ้าต่องไม่ตายดีแน่!” เฟิ่งหลีกรีดร้องโหยหวน แต่ไม่นานเสียงของนางก็ได้หายไปในเปลวเพลิงสีดำ
เพียงระยะเวลาสั้น ๆ มหายุทธ์ของเผ่าหงส์ทั้งสี่คนที่มาดักรอสังหารหลัวซิว ก็ได้ตายไปทั้งหมด
แม้ว่าความแข็งแกร่งของเผ่าหงส์จะทัดเทียมกับแดนศักดิ์สิทธิ์ แต่จำนวนของผู้แข็งแกร่งระดับมหายุทธ์นั้นต้องมีอยู่ไม่มากอย่างแน่นอน ตายไปพร้อมกับถึงสี่คนในชั่วพริบตา
หลัวซิวยื่นมือออกไป แหวนเก็บของสี่วงได้ตกลงมาในมือของเขา จากนั้นก็เหมือนกับไปมีอะไรเกิดขึ้น และเหาะเหินเดินอากาศไปทางสำนักไท่เสวียน
เขาทราบเป็นอย่างดี การตายของเผ่าหงส์ทั้งสี่คนนี้ หลังจากที่เผ่าหงส์ได้รับรู้จะต้องสงสัยตนเองแน่ และจากความสามารถของเผ่าหงส์ ก็น่าจะสืบถามถึงสถานการณ์ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ได้
เช่นนี้ก็หมายความว่า อีกไม่นาน ก็จะมีผู้แข็งแกร่งของเผ่าหงส์มายังประเทศเทียนหวู
และก่อนที่จะถึงตอนนั้น หลัวซิวจะต้องวางแผนการรับมือเอาไว้ให้ดีก่อน
“สถานที่สำคัญไท่เสวียน ผู้ที่มาโปรดหยุดก่อน!”
ที่ด้านหน้าสำนักเขาไท่เสวียน ศิษย์นอกสำนักสองคนที่คอยเฝ้าประตูในมือถือหอกยาวกล่าวขึ้นเสียงดัง
สองคนนี้ หลัววิวไม่เคยเห็นมาก่อน เห็นได้ชัดว่าในระยะเวลาหนึ่งปีที่เขาจากไป สำนักไท่เสวียนได้รับศิษย์เข้ามาใหม่อีกแล้ว
สำหรับเรื่องที่ตนกำลังจะกลับมานั้น หลัวซิวไม่ได้บอกผู้ใดในสำนักไท่เสวียนเลย
ในตอนที่หลัวซิวกำลังจะแสดงฐานะของตนเองออกมานั่นเอง เสียงตวาดเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้นมาจากด้านหลัง
“คนที่อยู่ข้างหน้าไสหัวหลบไป!”
หลัววิวหันไปตามเสียง ก็ได้พบเข้ากับบุรุษหนุ่มสวมชุดแพรผู้หนึ่ง กำลังขี่อยู่บนอสูรหมาป่าที่ร่างกายรายล้อมไปด้วยเปลวเพลิง ผิวปากพลางวิ่งพุ่งมาทางประตูสำนัก
เมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ หลัววิวก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ประตูสำนักนั้นเป็นสถานที่สำคัญ แต่คนผู้นี้กลับได้ชนนั่นชนนี่ไปทั่วอยู่ตรงนี้ เห็นสำนักเขาไท่เสวียนเป็นอะไร?
“หูหนวกหรืออย่างไร? บอกให้เจ้าหลบไปได้ยินหรือยัง ระวังถูกหมาป่าเพลิงตะกายของคุณชายสวีชนตายเสียล่ะ” ศิษย์เฝ้าประตูทั้งสองหลบไปที่ด้านข้างอย่างรู้ตัวเอง หนึ่งในนั้นได้กล่าวกับหลัวซิว
ทว่าร่างของหลัวซิวกลับไม่ขยับเลย หมาป่าเพลิงตะกายนั่น เป็นเพียงแค่อสุรกายระดับฝึกจิตเท่านั้นเอง สำหรับบุรุษหนุ่มที่อยู่บนหลังของหมาป่าเพลิงตะกาย แค่อยู่ในแดนพรสวรรค์
“ฮ่า ๆ นี่กล้าขวางทางข้าอย่างนั้นหรือ? เจ้าเพลิง ชนมันให้ตายเสีย!” บุรุษหนุ่มที่อยู่บนหลังหัวเราขึ้นมาอย่างโอหัง
“โฮกกกก!”
หมาป่าเพลิงตะกายคำรามออกมาเสียงยาว ทำตามคำสั่งของเจ้านาย การเคลื่อนไหวพลันเพิ่มความเร็วขึ้นมา พุ่งชนเข้าใส่หลัวซิวที่อยู่นอกสำนักอย่างดุร้าย
บทที่ 717
บทที่ 719