มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 573
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 573
“แดนศักดิ์สิทธิ์ชั้นล่างใกล้จะเปิดแล้ว ได้ยินมาว่าประลองยุทธ์ครั้งนี้ ยี่สิบอันดับแรกจึงจะสามารถได้รับโอกาสเข้าไปฝึกตนในแดนปริศนา ครั้งนี้ไม่ว่าอย่างไรต้องแย่งชิงที่ว่างมากให้ได้”
คนที่เอ่ยคำปากพูดนั้นมีผลการฝึกตนแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น9 อายุน่าจะราว ๆ 25ปีก็สามารถบรรลุถึงผลการฝึกตนเช่นนี้ ความสามารถไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
ก่อนนี้หลัวซิวได้รู้จากปากของฉีฝ่าเทียนมาว่า ผู้ที่มีคุณสมบัติสามารถเข้าร่วมประลองยุทธ์ แย่งชิงโควตาแดนปริศนา ทุกคนต่างก็เป็นอัจฉริยะที่ได้รับบัตรเชิญ ความสามารถไม่ธรรมดา
“ฮ่า ๆ ศิษย์พี่ตวนมู่ตอนนี้ก็มีผลการฝึกตนแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้น9 หากสามารถเข้าไปฝึกตนในแดนศักดิ์สิทธิ์ชั้นล่าง การบรรลุถึงแดนมกุฎยุทธ์คงเป็นเรื่องที่สามารถทำได้โดยง่าย”
“บรรลุมกุฎยุทธ์ยากตรงไหนกันเชียว? ข้าอยากเข้าไปฝึกตนในแดนศักดิ์สิทธิ์ชั้นล่าง เป้าหมายสำคัญของข้าคือบรรลุแดนมหายุทธ์!”
“ศิษย์พี่ตวนมู่ฝึกตนระดับวิชายิ่งเลิศวรยุทธ์ ‘วิชาพื้นนภา’ ในวันข้างหน้าเมื่อบรรลุแดนมหายุทธ์มิใช่ใกล้แค่เอื้อมมือหรือ? ไม่แน่อีกร้อยปีให้หลัง ศิษย์พี่ตวนมู่ก็คงจะบรรลุถึงพรีเมี่ยมยุทธ์แล้ว!”
เมื่อถูกคนข้าง ๆ เยินยอเช่นนี้ คนหนุ่มที่ถูกเรียกว่าตวนมู่ก็รู้สึกสบายใจอย่างยิ่ง ใบหน้าแปดเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม
“วิชาพื้นนภา? คนผู้นี้น่าจะเป็นอัจฉริยะแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์พื้นนภาอาณาจักรตะวันออก” เมื่อได้ยินคนหนุ่มเหล่านั้นพูดคุยกัน ฉีฝ่าเทียนก็ค่อย ๆ พูดออกมา
“คนจากแดนศักดิ์สิทธิ์พื้นนภาก็สามารถเข้าร่วมการต่อสู้แย่งชิงโควต้าแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ชั้นล่าง?” หลัวซิวมีสีหน้าสงสัย
ฉีฝ่าเทียนยิ้มเล็กน้อย “ในสมัยโบราณ ผู้แข็งแกร่งทั้งสี่ท่านก่อตั้งแดนศักดิ์สิทธิ์ เป้าหมายของสี่แก๊งใหญ่นั่นก็เพื่อรวบรวม กองกำลังต่าง ๆ ของพวกเราเผ่าพันธุ์มนุษย์และต่อต้านกับเผ่าพันธุ์มาร ดังนั้นไม่ว่าเป็นแดนศักดิสิทธิ์หรือสี่แก๊งใหญ่ ในความเป็นจริงนั้นต่างก็มีผู้แข็งแกร่งจากกองกำลังต่าง ๆ เข้ารับตำแหน่งอยู่ด้วย”
“อย่างเช่นท่านหัวหน้าผู้ลาดตระเวนแห่งอาณาจักรใต้ของพวกเรา ก็เกิดในตระกูลใหญ่ แดนศักดิ์สิทธิ์ตระกูลหวู!” ฉีฝ่าเทียนพูดพร้อมรอยยิ้ม
แดนศักดิ์สิทธิ์ตระกูลหวู หลัวซิวเคยได้ยินมาก่อน ยังคงเป็นหนึ่งในกองกำลังใหญ่ทั้งห้าระดับแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งอาณาจักรใต้
หากตัดอาณาจักรใต้ อาณาจักรเหนือ อาณาจักรตะวันตก อาณาจักรตะวันออกออกไป ก็ยังมีกองกำลังใหญ่ทั้งห้าระดับแดนศักดิ์สิทธิ์ ที่แข็งแกร่งที่สุดคือแดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์ มีเพียงหนึ่งในสี่ภูมิภาคเท่านั้น
แดนศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์แห่งอาณาจักรใต้นี้ ก็คือแดนศักดิ์สิทธิ์ตระกูลหวู!
เพียงเพราะว่ากองกำลังต่าง ๆ ท่ามกลางแดนศักดิ์สิทธิ์มีสถานการณ์ซับซ้อน ดังนั้นทุกครั้งที่มีการเปิดของแดนศักดิ์สิทธิ์ชั้นล่าง กองกำลังใหญ่ต่าง ๆ ต่างก็จะพยายามและต่อสู้กันอย่างเต็มที่เพื่อส่งศิษย์อัจฉริยะของตนไปแข่งขันกันเพื่อชิงโควต้า
การต่อสู้นี้เรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมเหล่าผู้มีพรสวรรค์ รวมพลคนรุ่นใหม่แห่งโลกแสงดาว เรียกได้ว่าเป็นการรวบรวมสุดยอดอัจฉริยะไว้เกือบทั้งหมด
แม้ว่าจะไม่สามารถสรุปได้ก็ตาม แต่มาเข้าร่วมการประลองยุทธ์ต่อสู้แย่งชิงโควตาแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเป็นอัจฉริยะยอดฝีมือหาตัวจับยากแน่นอน
“ร้อยปีบรรลุพรีเมี่ยมยุทธ์? อวดดีเสียจริง!” ทันใดนั้นก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยการดูหมิ่นและดูถูกเหยียดหยามดังขึ้นมาจากโต๊ะหนึ่งซึ่งห่างไปไม่ไกลนัก
คนที่โต๊ะนี้ ตอนที่หลัวซิวเข้ามาในภัตตาคารเทียนอีก็สังเกตเห็นแล้ว แต่ละคนแต่งกายด้วยชุดสีแดงเลือด ที่บริเวณหน้าอกมีสัญลักษณ์จันทราสีเลือดอยู่
อาณาจักรตะวันตก แดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด!
พูดถึงแดนศักดิ์สิทธิ์พื้นนภาและแดนศักดิ์สิทธิ์จันทราสีเลือด ตอนนั้นในแดนแต่งตั้งราชามีมากมายหลายคนที่ตายด้วยน้ำมือของหลัวซิว
“เฮอะ ที่แท้ก็ศิษย์วิชามารจันทราสีเลือดแห่งอาณาจักรตะวันตก” เหล่าคนแห่งแดนศักดิ์สิทธิ์พื้นนภาที่อยู่อีกฝั่งทั้งสองฝ่ายตึงเครียดอยู่ครู่หนึ่ง
กองกำลังเผ่าพันธุ์มนุษย์ มีสถานการณ์ซับซ้อนมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันเกี่ยวข้องกับการแข่งขันเพื่อผลประโยชน์และทรัพยากร ความขัดแย้งซึ่งกันและกันเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
เพราะแนวคิดแห่งโลกยุทธ์ ฝึกตน วรยุทธ์และความแตกต่างในพฤติกรรมของผู้คน บางกองกำลังถือครองความชอบธรรม เรียกว่าบัญชาสวรรค์ และก็มีบางกลุ่มคนที่ฝึกตนวิชามารพิฆาต ก็จะถูกเรียกว่าเส้นทางปีศาจ
แต่ในความเป็นจริงสำหรับโลกยุทธ์ผู้แข็งแกร่งแล้วนั้น ไม่ได้มีการแบ่งแยกว่าเป็นสายดำหรือสายขาว ในโลกแห่งนี้ยอมรับเพียงพลังที่แท้จริงเท่านั้น ตราบใดที่เจ้ามีพลังมากเพียง ไม่ว่าเจ้าจะฆ่ากี่คน ก็ไม่มีใครกล้าเรียกพูดว่าเจ้าคือปีศาจ
องค์กรนักล่ายุทธ์ ท่ามกลางเผ่าพันธุ์มนุษย์ ทำหน้าที่กำกับดูแล วรยุทธสายดำบางอย่างที่ทำลายหลักความสามัคคี นั่นถือเป็นสิ่งที่ห้ามฝึก อย่างเช่นตระกูลฝานแห่งประเทศเทียนหวูก็เคยแอบใช้วรยุทธสายดำในการฝึกตนเช่นกัน จึงได้เป็นเช่นนั้น
ยิ่งได้สัมผัสมากเท่าไร หลัวซิวก็ยิ่งค่อย ๆ เข้าใจ เหตุที่ตระกูลฝานฝึกตนวรยุทธสายดำ จึงถูกองค์กรนักล่ายุทธ์คัดลายชื่อเข้าสู่บัญชีดำ แต่ความเป็นจริงแล้ว ก็คือพลังของตระกูลฝานไม่แข็งแกร่งมากพอ
หากตระกูลฝานมี ผู้แข็งแกร่งมหาจักรพรรดิยุทธ์สักคนเป็นผู้ครองบัลลังก์ มีใครอีกบ้างที่สามารถตัดสินพวกเขาได้? องค์กรนักล่ายุทธ์ ก็คงจะทำได้เพียงแค่ปิดตาข้างหนึ่งเท่านั้น
หลายๆ อย่างในโลกนี้ล้วนเป็นสัจธรรม มันขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมองมันอย่างไร