มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 511
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 511
ในเวลาเดียวกันนี้ เกาเหลียนหง สวีจิงเหนียนและเหยียนเยว่เอ๋อร์ต่างพูดแนะนำให้หลัวซิวอย่าผลีผลาม ฝ่ายตรงข้ามถึงอย่างก็เป็นถึงผู้แข็งแกร่งแห่งมกุฎยุทธ์ อีกทั้งแม้แต่แดนจักรพรรดิยุทธ์เขาก็ยังแคล้วคลาด
แต่ทว่าหลัวซิวกลับไม่ฟังคำแนะนำ ก้าวเท้าออกไป และก็เดินจากค่ายพิทักษ์เขาออกไป
“หึหึ คนหนุ่มสาวระงับความโกรธไม่อยู่กันเสียจริง คิดไม่ถึงว่าเจ้าจะกล้าออกมาจากค่ายจริง ๆ ไม่มีค่ายพิทักษ์เขานี้ เจ้าที่เป็นเพียงราชายุทธ์เล็กน้อย อยู่ต่อหน้าข้าเพียงแค่มือง่ายๆ ก็สามารถบี้มดตายได้!”
ชั่วพริบตาเดียวหลัวซิวก็ออกมาจากค่ายพิทักษ์เขา ในตาที่เปล่งประกายของเจียงตงหลิวฉับพลันก็ไม่เหลือหลอ เสียงตะคอกด้วยความโกรธ คล้ายกับฟ้าผ่าดังก้องออกมา ร่างกายดุจสายฟ้าแลบ ภายในเวลาสั้น ๆ ก็ปรากฏตัวด้านหน้าของหลัวซิว
“ชกวงในแล้วเข้าตะลุมบอนด้วยอาวุธ?55 เป็นความปรารถนาของข้าพอดี!”
หลัวซิวหัวเราะเสียงดัง หมัดหนึ่งพุ่งออกไป
ฝ่ายตรงข้ามคือมกุฎยุทธ์ ส่วนร่างเนื้อของเขายังอยู่ในร่างยุทธ์แดนจักรพรรดิช่วงปลาย แต่อยู่ภายใต้แดนโคจรพลังแปรเสวียนเทียน 24 เท่า ร่างเนื้ออสุราเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน
อีกทั้งก่อนที่จะลงมือ เขาก็กระตุ้นพลังของลูกแก้วเสวียนดำเรียบร้อยแล้ว ทำให้ร่างกายตนเองอยู่ในสภาพที่แข็งแกร่งที่สุด
ป้าง!
หมัดของทั้งสองปะทะกัน พื้นที่ของสี่โคจรต่างมีรอยเส้นสีดำแยกออกจากกัน เจียงตงหลิวรู้สึกว่าแขนของตัวเองเริ่มชา แทบจะสูญเสียความรู้สึก ในเวลานั้นก็ถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
“ร่างเนื้ออสุราแข็งแกร่งมาก!”
เจียงตงหลิวไม่ได้เป็นนักยุทธ์กลั่นร่าง แรงหมัดก่อนหน้าก็ไม่ได้ใช้ร่างเนื้ออสุรา อีกทั้งผนึกรวมพลังจิตแท้โจมตีออกไป
แต่เขากลับคิดไม่ถึง ฝ่ายตรงข้ามเป็นเด็กหนุ่มอายุไม่ถึง 20 ปีคนหนึ่ง คาดไม่ถึงว่าจะสามารถฝึกตนร่างเนื้ออสุราจนถึงระดับนี้ น่าหวาดกลัวมากจริง ๆ
ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่าทำไมหลี่เสวียนหยางผู้นั้นถึงหวาดกลัวลูกชายคนนี้มาก ยังต้องดีกว่าอาจารย์สำนักฉางเหอ
ชั่วพริบตาเดียวที่ร่างกายถอยหลัง รอบตัวเจียงตงหลิวก็มีแสงฟ้าแลบปรากฏขึ้นกะทันหัน กลายเป็นงูอัสนีขนาดมหึมาหนึ่งตัว ยืดลำคอยาว อ้าปากไปทางหลัวซิวเพื่อจะกัดฉีก
วิชากระบี่วาตะ!
หลัวซิวชี้แนะออกไป เสียงก็ดังป้าง ศีรษะของงูอัสนีนั้นระเบิด แต่พลังจิตแท้ทรงพลังของผู้แข็งแกร่งระดับมกุฎยุทธ์กลับเพิ่งจะลอยสูงโจมตีเขาจนถอยกลับไปสามก้าว
ช่วงนี้มีเรื่องราวทยอยเกิดขึ้นมากมายหลายเรื่อง จนกระทั่งหลัวซิวก็ไม่มีเวลาฝึกฝน 3 วิชายิ่งเลิศไท่เสวียนในจำนวนนั้นอย่างวิชาฝึกจิตไท่เสวียนก็ฝึกได้เพียงขั้นแรก สามารถกลั่นแปรพลังงานอันมากมายมหาศาล แต่ไม่ทางใช้ในการต่อสู้ได้
เขาคาดคะเนว่าถ้าหากฝึกฝนสามวิชาวิชาที่หายสาบสูญสำเร็จ ศักยภาพยังจะสามารถเลื่อนขั้นได้อีกหลายเท่า และจะไม่โดนโจมตีจนถอยกลับสามก้าวอีกแน่นอน
“ถึงแม้นเจ้าจะสามารถใช้วิชาพลังนอกเพื่อเพิ่มศักยภาพได้ แต่ระยะห่างระหว่างราชายุทธ์กับมกุฎยุทธ์ เจ้าจะสามารถคาดคะเนได้ที่ไหนกัน?”
ตราฝ่ามืออัสนี!
เสียงตกใจของเจียงตงหลิวดังออกมา ด้านหลังมีอัสนีพุ่งออกมาไม่หยุด กลายเป็นทะเลอัสนีผืนหนึ่ง มือใหญ่มือหนึ่งสำรวจทะเลอัสนีทันที ตราฝ่ามือประทับลงครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่มาก
นี่คือทักษะยุทธ์ระดับ9วิชาหนึ่งที่พลานุภาพน่าทึ่ง หลัวซิวถ้าหากต้องการต่อต้านต่อสู้ ก็จำเป็นต้องใช้ทักษะยุทธ์ขั้นวิชายิ่งเลิศถึงจะทำได้
แต่ว่า 3 วิชายิ่งเลิศไท่เสวียน เขายังฝึกไม่สำเร็จ ในตอนนี้เพียงสามารถสับมือนำเอาตราขลังมังกรเขียวโจมตีออกไปต่อต้านตราฝ่ามือนี้
ตูม!
ตราฝ่ามืออัสนีกับตราขลังมังกรเขียวปะทะกันกลางชั้นอากาศสูง พลังมหาศาลกลุ่มหนึ่งตกลงอย่างฉับพลัน เหมือนกับภูเขาใหญ่กดอัดดิน ทำให้ตกหล่นอย่างรวดเร็วจากชั้นอากาศสูงพร้อมกันกับตราขลังมังกรเขียว บนพื้นดินถูกกระทบจนแตกเป็นหลุมขนาดใหญ่โตมหึมาลึกจนไม่เห็นก้น
มองเห็นฉากนี้ คนทั้งหลายของสำนักไท่เสวียนค่ายพิทักษ์เขา ทั้งหมดล้วนมีสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไปมาก สีหน้าแสดงออกถึงความตึงเครียดกังวล
เหยียนเยว่เอ๋อร์อยากพุ่งออกไปช่วย แต่ก็รู้ว่าศักยภาพของตนเองถ้าออกไปจริง ๆ ไม่เพียงแต่ช่วยหลัวซิวไม่ได้ กลับกันอาจจะเพิ่มความลำบากให้เขาเพิ่ม
กลางหลุ่มใหญ่โตมหึมา ควันตลบฟุ้งเต็มไปหมด หลัวซิวเอามือรองที่ตราขลังมังกรเขียวแล้วลอยสูงออกไป “สมกับที่เป็นผู้แข็งแกร่งของแดนมกุฎยุทธ์ขั้น4 ดูแล้วข้าต้องลงมือด้วยศักยภาพทั้งหมดแล้ว”
ระหว่างความนึกคิด หลัวซิวก็พลิกมือหยิบเอาธงขลังสรรพสิ่ง ธงขลังมีแสงสว่างจ้า กลุ่มแสงบินลอยออกไปผสมผสานกัน กำลังจะปกคลุมเขตพื้นที่ในขอบเขต 100 เมตร
เขาวางแผนจะทำค่ายซ่อนงำกำบัง ไม่ว่าคนทั้งหมดในสำนักไท่เสวียนหรือว่าจะเป็นหลี่เสวียนหยางที่อยู่ไกลออกไปกว่าสามโยชน์ เงาของหลัวซิวและเจียงตงหลิวล้วนหายไปจากสายตาของพวกเขาโดยไม่ทันคาดคิด