มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 497
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 497
สำนักเขาแห่งสำนักเสวียนหยาง
หลี่เสวียนหยางไม่ว่าเช่นไรก็คิดไม่ถึง แผนการของตัวเองมันจะล้มไม่เป็นท่าเช่นนี้
ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องแย่งชิงหินตรีภพมาไม่ได้ แต่การตายของซุนเชียนซางและป๋ายหลี่หยวนหลง มันก็มากพอที่จะทำให้เขาปวดหัวราวกับกำลังจะระเบิด
สามารถฝึกตนถึงแดนมกุฎยุทธ์ มีเพียงไม่กี่คนที่จะไม่มีหัวนอนปลายเท้า หลี่เสวียนหยางถือเป็นส่วนน้อย ทั่วทั้งสำนักเสวียนหยางเขาสร้างมันขึ้นมาทั้งหมดตั้งแต่เริ่มด้วยตนเอง แต่ป๋ายหลี่หยวนหลงและซุนเชียนซาง แตกต่างไปอย่างสิ้นเชิง
“ซุนเชียนซางคือผู้อาวุโสจากสำนักอัสนีวายุแห่งอาณาจักรตะวันออก ป๋ายหลี่หยวนหลงถึงจะเป็นนักยุทธ์อิสระแห่งอาณาจักรตะวันตก แต่ก็มีเพื่อนระดับแดนมกุฎยุทธ์อยู่ไม่น้อย ทั้งสองถูกข้าเชิญมาตายอยู่ที่ประเทศเทียนหวู คนพวกนั้นจะต้องแค้นเคืองข้าหลี่เสวียนหยางอย่างแน่นอน”
ใบหน้าของหลี่เสวียนหยางนิ่งเรียบราวกับน้ำนิ่ง จากนั้นก็ส่งข้อความออกไปมากมาย หมายจะเอาสาเหตุการตายของซุนเชียนซางและป๋ายหลี่หยวนหลง รีบโยนให้เป็นความผิดของหลัวซิวและสำนักฉางเหอให้เร็วที่สุด
หลังสงครามเทียนเหอ มกุฎยุทธ์ผู้แข็งแกร่งสองคนเสียชีวิต ในที่สุดข่าวก็ค่อย ๆ ก็ถูกแพร่กระจายออกไปจากใจกลางประเทศเทียนหวู
เมื่อเปรียบเทียบกับสำนักฉางเหอ คนส่วนมากมักจากให้ความสำคัญกับการเคลื่อนไหวของหลัวซิว เพราะมีคนไม่น้อยที่รู้ว่า หลัวซิวสร้างไท่เสวียนโบราณขึ้นมาใหม่ สำนักเขาได้ถูกสร้างขึ้นจนเสร็จสมบูรณ์แล้ว วันพิธีเปิดสำนักเขาก็คาดว่าจะอีกไม่นานแล้ว
เวลาผ่านไปอย่างเงียบ ๆ ตั้งแต่สงครามเทียนเหอสิ้นสุดลง หลี่เสวียนหยางก็เก็บตัวอยู่ในสำนักเขาแห่งสำนักเสวียนหยางไม่มีความเคลื่อนไหวใดใด ค่ายพิทักษ์เขาถูกเปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลา ราวกับเกรงกลัวว่าหลี่ฉางเหอและหลัวซิวจะมาหาเรื่องเขา
แต่ศิษย์ของสำนักเสวียนหยาง ก็ยังคงอกสั่นขวัญผวา ต่อให้ออกไปด้านนอก ก็ไม่กล้าจะออกไปไกลเกินระยะสิบลี้จากบริเวณสำนักเขา
ในช่วงเวลานี้ หลัวซิวได้ฝึกตนปิดขังอยู่ในหอคอยฝึกตนที่ใจกลางแดนตำหนักจื่อตลอดเวลา หลังจากได้หินตรีภพแล้ว เขาก็ตั้งใจว่าจะยกระดับผลการฝึกตนให้ถึงระดับราชายุทธ์ช่วงปลาย ในเวลาเดียวกันก็อาศัยกฎตรีภพที่อยู่ในหินตรีภพ ลองเพิ่มระดับพลังของพลังอมตะ กฎเบญจธาตุทั้ง5และแสงจิตห้าสี
ในเวลาเดียวกัน หลัวซิวก็ทุ่มเทอย่างมากเพื่อทำความเข้าใจในวิชาฝึกจิตไท่เสวียน วิชาสังหารไท่เสวียน และวิชาล่องหนไท่เสวียน
ระดับของทั้งสามวิชายิ่งเลิศสูงมาก ในบรรดาวิชายิ่งเลิศ ก็ถือว่าอยู่ในรายการวิชายิ่งเลิศขั้นสูง เมื่อเทียบกับวิชายิ่งเลิศพลังแปรเสวียนเทียนและวิชายิ่งเลิศวิชาท่าร่างบรรลุมังกรเขียวแล้ว ทั้งสามวิชานั้นแข็งแกร่งกว่ามาก
หากสามารถฝึกวิชายิ่งเลิศทั้งสามได้สำเร็จ วิชาฝึกจิตไท่เสวียนจะสามารถดูดซับการกลั่นแปรพลังงานมหาศาลระหว่างฟ้าดินได้ เมื่อสำแดงออกมาเรียกได้ว่าเกราะป้องกันไร้เทียมทาน การโจมตีส่วนใหญ่ของฝ่ายตรงข้ามต่างก็สามารถใช้วิชายิ่งเลิศกลั่นแปรดูดซับได้
วิชาสังหารไท่เสวียนโดดเด่นในเรื่องการปราบปรามและเข่นฆ่า รุนแรงดุร้าย แข็งแกร่งไร้เทียมทาน
และวิชาล่องหนไท่เสวียน หากหลังจากฝึกสำเร็จแล้ว ความเร็วของเทเลพอร์ตล่องหน จะเร็วยิ่งกว่าวิชาท่าร่างบรรลุมังกรเขียว
ไม่เพียงเท่านั้น การครอบครองพลังแห่งโซน ในแง่ของการโจมตีและสังหาร ยังมีกลวิธีอันลึกลับและคาดเดาไม่ได้ ซึ่งเป็นการยากที่จะป้องกัน
วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพไหลเวียนอยู่ภายในร่างกาย หลัวซิวกำหินตรีภพไว้ในมือ พลังแห่งตรีภพเส้นแล้วเส้นเล่าแผ่กระจายออกมาจากหิน ได้ถูกเขาดูดซับเข้าไปในร่างกายในทันที
พลังแห่งตรีภพบาง ๆ นั้นประกอบดด้วยพลังมหาศาลที่น่ายำเกรง ไม่ช้าหลัวซิวก็รู้สึกได้ว่าตนเพิ่งจะบรรลุผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้นหก และการเพิ่มขีดจำกัดที่รวดเร็วทำให้เขาบรรลุถึงราชายุทธ์ขั้นหกขั้นสูง เพียงแค่มีจิตใจแน่วแน่ ก็จะสามารถบรรลุถึงได้ตั้งแต่ราชายุทธ์ช่วงกลาง ไปจนถึงราชายุทธ์ช่วงปลาย
จากนั้น เวลาผ่านไปแค่เพียงชั่วครู่ กระแสพลังหนึ่งได้พลุ่งพล่านไปทั่วร่างกาย ผลการฝึกตนพัฒนาขึ้นไปอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่มีสิ่งใดเป็นอุปสรรคแม้แต่น้อย ในที่สุดก็บรรลุถึงราชายุทธ์ขั้นเจ็ด!
ความเร็วเช่นนี้ มันเร็วเสียจนทำให้ผู้คนต้องอ้าปากค้าง เรียกได้ว่าน่ากลัวจนถึงขีดสุด!
ในสถานการณ์ปกติ ส่วนมากราชายุทธ์ขั้นหกหากต้องการบรรลุถึงขั้นเจ็ด ต่อให้พรสวรรค์จะสูงมากเพียงใดก็ตาม ก็ต้องใช้เวลาหลายปีเพื่อฝึกตนอย่างหนัก ถึงจะสามารถเข้าใจว่าการฝึกนั้นได้มาถึงคอขวดแล้ว อีกทั้งยังไม่สามารถบรรลุได้สำเร็จ คนมากมายจำเป็นต้องลองหลายครั้ง
แต่หลัวซิว กลับใช้เวลาเพียงช่วงสั้น ๆ ก็สามารถก้าวมาถึงจุดนี้ได้!