มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 401 ลูกแก้วอัสนีพัน
“ลู่เจิ้งเซี๋ยง ข้าไป๋หลิงเซวียนมันใช่เศษสวะอย่างเจ้าหรือ แม่นางเหยียนช่วยข้าหนึ่งชีวิต ข้าไป๋หลิงเซวียนจะตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นหรือ? ข้ารอวันนี้มานานมากแล้ว ข้าต้องการล้างแค้นให้หลู่เหว่ย”
“คิดไม่ถึงว่านางแพศยาอย่างเจ้าจะรู้นานแล้ว ไปตายซะเถอะ!”
ลู่เจิ้งเซี๋ยงโกรธจัด ยกมือขึ้นปลดปล่อยสายฟ้าที่มีขนาดเท่าหัวแม่นิ้วมือพุ่งตรงเข้าหาไป๋หลิงเซวียน
การที่ไป๋หลิงเซวียนสามารถทำให้ลู่เจิ้งเซี้ยงได้รับบาดเจ็บ นั่นเป็นเพราะนางใช้ประโยชน์จากการลอบโจมตี บวกกับลู่เจิ้งเซี้ยงไม่ได้ระวังนาง
ภายใต้การโจมตีด้วยความโกรธของลู่เจิ้งเซี๋ยง นางต้านทานไม่ไหวทันที โดนสายฟ้าระเบิดจนลอยกระเด็นออกไปในพริบตาเดียว มีเลือดกระอักออกมาจากปาก
แต่ก่อนที่จะโดนระเบิดจนลอยกระเด็นออกไป ไป๋หลิงเซวียนได้บดขยี้ยันต์สีม่วงแผ่นหนึ่ง ปลดปล่อยแสงสีม่วงสายหนึ่งออกมา
“ยันต์ขั้นเจ็ด?” สีหน้าของลู่เจิ้งเซี๋ยงเปลี่ยนไปทันที เขาคิดไม่ถึงว่าไป๋หลิงเซวียนที่มีผลการฝึกตนเพียงแดนจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสี่จะมีของวิเศษแบบนี้
เขาอัญเชิญเสื้อเกราะและนักรบดินขั้นกลางออกมาพยายามต้านทานอย่างเต็มกำลัง แต่กลับไม่สามารถต้านทานแสงสีม่วงที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากยันต์ เนื่องจากนี่เป็นการโจมตีของยันต์ขั้นเจ็ด ซึ่งเทียบเท่ากับการโจมตีของผู้แข็งแกร่งระดับมงมกุฏยุทธ์
สำหรับผู้แข็งแกร่งแดนจักรพรรดิยุทธ์ ยันต์ขั้นเจ็ดเป็นของวิเศษระดับชั้นฟ้า
มีราชายุทธ์ไม่น้อยสามารถหายันต์ขั้นหกมาไว้ในครอบครอง แต่การที่ผู้แข็งแกร่งแดนจักรพรรดิยุทธ์จะหายันต์ขั้นเจ็ดมาไว้ในครอบครองกับเป็นเรื่องที่ยากมาก
เพราะปรมาจารย์ค่ายกลขั้นเจ็ดหายากยิ่งกว่าปรมาจารย์ค่ายกลขั้นหกไปเยอะมาก บวกกับหยกสีม่วงที่ใช้กลั่นหลอมยันต์ยิ่งเป็นของล้ำค่า
การต่อสู้เริ่มต้นขึ้นอย่างรวดเร็ว และจบลงอย่างรวดเร็ว
ในเวลาเพียงแค่พริบตาเดียว การป้องกันของลู่เจิ้งเซี๋ยงพังทลาย ถูกแสงสีม่วงพุ่งทะลวงเสื้อเกราะดินขั้นกลางจนเกิดเสียงดังฉึก ยิ่งไปกว่านั้นยังทะลวงจุดตันเถียนของเขาโดยที่อานุภาพไม่ลดลงแม้แต่นิดเดียว
หลัวซิวได้ยินเสียงแควกดังออกมาจากในร่างกายของลู่เจิ้งเซี๋ยง ยาชีวีของเขาแตกสลายตอนที่ถูกแสงสีม่วงทะลวงจุดตันเถียน!
“นางแพศยาไป๋หลิงเซวียน! ถึงข้าต้องตายก็ไม่มีทางปล่อยให้เจ้าอยู่อย่างเป็นสุข!”
ลู่เจิ้งเซี๋ยงกระอักเลือดออกมากองใหญ่ พลิกมือเรียกลูกแก้วสีน้ำเงินลูกหนึ่งออกจากแหวนเก็บของ แล้วโยนมันออกไป
มีสายฟ้าสีน้ำเงินร่ายรำอยู่บนลูกแก้วลูกนี้ ปลดปล่อยกลิ่นอายทำลายล้างและแรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวออกมา
“เวรเเล้ว นั่นมันลูกแก้วอัสนีพัน! เจ้าหนูหลัวรีบหนีเร็ว!” เสียงของจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำดังออกมาจากจุดวิญญาณหยั่งรู้ของหลัวซิว
หลัวซิวไม่รู้ว่าลูกแก้วอัสนีพันคืออะไร แต่เขาสามารถสัมผัสได้ถึงความตื่นตระหนกของจักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำอย่างชัดเจน ต้องเป็นของที่ไม่ธรรมดา มีพลังทำลายล้างสูงแน่นอน
เขากระชากเหยียนเยว่เอ๋อร์ลุกขึ้น ปีกทิพย์ไร้มลทินกลางออกจากแผ่นหลังอย่างไม่ลังเล ยิ่งไปกว่านั้นยังใช้พลังกฎเบญจธาตุ แสงศักดิ์สิทธิ์ห้าสีส่องสว่าง เพียงแค่พริบตาเดียวไปปรากฏตัวขึ้นนอกรัศมีหนึ่งพันสองร้อยเมตร
บูม!
ทันทีที่ลูกแก้วอัสนีพันระเบิด หลัวซิวได้พาเหยียนเยว่เอ๋อร์หนีออกนอกรัศมีสองพันสี่ร้อยเมตรแล้ว
การระเบิดที่น่าสะพรึงกลัวครอบคลุมพื้นที่รัศมีโดยรอบพันเมตร มีประกายสายฟ้ามากมายฟาดประสาน ทำลายทุกสิ่งที่อยู่บริเวณโดยรอบ
การระเบิดครั้งนี้ถึงขั้นสะเทือนไปถึงหุบเขาจิตนภา หลัวซิวสังเกตเห็นแผ่นศิลาแตกหักที่อยู่ตรงทางเข้าหุบเขาจิตนภา ปลดปล่อยแสงสีเงินออกมา ต้านทานการจู่โจมของสายฟ้านับไม่ถ้วน
“พลังทำลายล้างสูงขนาดนี้เลย?”
หลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์หันกลับไปมอง ถึงกับลืมตาอ้าปากค้าง รู้สึกเสียวสันหลังวูบ
ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากที่ผ่านประสบการณ์ครั้งนี้ หลัวซิวก็เข้าใจแล้ว ทุกคนที่สามารถฝึกฝนจนกลายเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ ล้วนแต่เป็นบุคคลที่ดูถูกไม่ได้เด็ดขาด
เหยียนเยว่เอ๋อร์ก็เช่นกัน นางมีสายเลือดหงส์โบราณ ส่วนไป๋หลิงเซวียนมียันต์ขั้นเจ็ด ลู่เจิ้งเซี๋ยงมีลูกแก้วอัสนีพัน
ในการต่อสู้ที่เกี่ยวพันถึงความเป็นความตาย มันใช่ว่าเจ้ามีผลการฝึกตนที่สูงกว่า แล้วเจ้าจะสามารถสังหารคู่ต่อสู้จนได้รับชัยชนะ บางทีผู้ที่อ่อนแอกว่าอาจจะมีไพ่ตายที่ร้ายกาจซ่อนอยู่ สามารถพลิกแพ้ให้เป็นชนะ
แม้กระทั่งหลัวซิวก็เช่นกัน หากมีคนมองเขาเป็นเพียงผู้อ่อนแอที่มีผลการฝึกตนราชายุทธ์ขั้นสาม จะต้องเสียใจอย่างสุดซึ้งแน่นอน
สถานการณ์เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ไป๋หลิงเซวียนลงมือกับลู่เจิ้งเซี๋ยนอย่างกะทันหัน เรื่องนี้ถือว่าอยู่เหนือความคาดหมายของหลัวซิวและเหยียนเยว่เอ๋อร์
เห็นได้ชัด ไป๋หลิงเซวียนเป็นคนรู้จักแยกแยะบุญคุณความแค้น เหมือนนางและลู่เจิ้งเซี๋ยงได้บรรลุข้อตกลงอย่างใดอย่างหนึ่งตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่กลับเป็นเพราะเหยียนเยว่เอ๋อร์ได้ช่วยชีวิตของนางในหุบเขาจิตนภา จึงเปลี่ยนทิศทางหันมาลงมือฆ่าลู่เจิ้งเซี๋ยงแทน
แน่นอนว่าสิ่งนี้ไม่ได้ตัดความเป็นไปได้ที่ไป๋หลิงเซวียนมีแผนร้ายอยู่ในใจ ต้องการฆ่าลู่เจิ้งเซี๋ยงรับผลประโยชน์แต่เพียงผู้เดียว
“อัสนีพันเป็นของวิเศษประเภทหนึ่ง จะปรากฏขึ้นในสถานที่เต็มไปด้วยสายฟ้าโหมกระหน่ำ ลูกแก้วที่ไม่ได้ดูสะดุดตา แต่กลับรวบรวมพลังของสายฟ้านับพันสายไว้ด้วยกัน เพราะเหตุนี้จึงได้ชื่อนี้มา” จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำพูด
ตามที่จักรพรรดิยุทธ์เสวียนดำพูด อานุภาพการทำลายล้างของลูกแก้วอัสนีพันเพียงพอที่จะสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อมงกุฎยุทธ์จนถึงขั้นจักรพรรดิยุทธ์ เมื่อไหร่ที่จมอยู่ภายใต้พลังของลูกแก้วอัสนีพัน โดยพื้นฐานต้องพบกับจุดจบของความตายเท่านั้น
พลังระเบิดของลูกแก้วอัสนีพันกินเวลานานถึงสิบห้านาที จึงค่อยๆสงบลงทีละนิด
ตรงทางเข้าหุบเขาจิตนภา ทั่วทุกที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อ และพื้นดินจมลงไปลึกอย่างน้อยสองถึงสามเมตรกลายเป็นหลุมขนาดใหญ่
บนพื้นยังคงมีประกายสายฟ้าสว่างวาบอยู่ตลอดเวลา ส่วนเงาของไป๋หลิงเซวียนและลู่เจิ้งเซี๋ยงก็หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
หลัวซิวปลดปล่อยตราสำนึกของตนเอง ไม่นานก็พบกับร่างของศพสีดำร่างหนึ่งจากจุดที่ไกลออกไป เขาสังเกตเห็นจุดตันเถียนของศพร่างนี้ถูกทะลวงจนทะลุ นึกย้อนถึงภาพเมื่อกี้ เขามั่นใจว่าน่าจะเป็นศพของลู่เจิ้งเซี๋ยง
“หลัวซิว มานี่!”
ในตอนนั้นเอง เหยียนเยว่เอ๋อร์ที่อยู่ไม่ไกลตะโกนอย่างกะทันหัน
หลัวซิวยื่นมือออกไปถอดแหวนเก็บของบนมือของลู่เจิ้งเซี๋ยง ออกแรงเล็กน้อย นิ้วมือของศพสีดำที่ไหม้เกรียมแตกละเอียดทันที
ไม่นานเขาเดินมาถึงข้างกายของเหยียนเยว่เอ๋อร์ สังเกตเห็นร่างของผู้หญิงคนหนึ่งที่ไหม้เกรียม นอนหมอบอยู่ท่ามกลางเถ้าธุรี
“นางยังมีชีวิต แต่อาการสาหัสมาก ตันเถียนแตกแล้ว” เหยียนเยว่เอ๋อร์ประคองนางลุกขึ้นตรวจสอบอาการบาดเจ็บ
“ผู้หญิงคนนี้ดวงแข็งมาก” หลัวซิวพูดด้วยความประหลาดใจ พลังทำลายล้างที่น่าสะพรึงกลัวเมื่อกี้ทำให้ลู่เจิ้งเซี๋ยงตายในทันที ไป๋หลิงเซวียนคนนี้กลับสามารถรอดมาได้ ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์ยิ่งนัก
แต่เมื่อนึกย้อนกลับไป ตอนที่ลู่เจิ้งเซี๋ยงปลดปล่อยลูกแก้วอัสนีพัน จุดตันเถียนถูกทะลวง ยาเทพจิตแตกสลาย ยังไงก็ต้องตายอย่างไม่มีข้อสงสัย
ในเมื่อไป๋หลิงเซวียนมียันต์โจมตีขั้นเจ็ดติดตัว ไม่แน่อาจจะมียันต์ป้องกันขั้นเจ็ดก็ได้ เพราะอาศัยพลังของยันต์จึงสามารถปกป้องชีวิตเอาไว้ได้
เพียงแต่อานุภาพทำลายล้างของลูกแก้วอัสนีพันสูงมาก ถึงจะเป็นยันต์ป้องกันขั้นเจ็ดก็แค่สามารถปกป้องชีวิตเอาไว้ได้ การบาดเจ็บสาหัสเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม การที่สามารถกำจัดลู่เจิ้งเซี๋ยงก็หนีไม่พ้นความดีความชอบของไป๋หลิงเซวียน ไม่เช่นนั้น เผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ขั้นหกคนหนึ่ง หลัวซิวเพียงแค่มั่นใจว่าสามารถปกป้องตนเองได้ด้วยการอาศัยปีกทิพย์ไร้มลทิน ถึงจะใช้พลังของกฎเบญจธาตุ ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของลู่เจิ้งเซี๋ยงแน่นอน
“ป้อนยาเม็ดนี้ให้นาง” หลัวซิวพลิกมือเรียกขวดหยกออกมาส่งให้เหยียนเยว่เอ๋อร์
ในขวดหยกเป็นยาเสวียนจือหนึ่งเม็ด เป็นยาระดับหกที่สามารถฟื้นฟูความเสียหายของจุดตันเถียน
หลังจากกลืนยาเสวียนจือ อาการบาดเจ็บของไป๋หลิงเซวียนเริ่มคงที่ แต่เนื่องจากเส้นเลือดและอวัยวะภายในได้รับความเสียหายอย่างหนัก ชั่วขณะจึงไม่มีทางที่จะได้สติ
ในแหวนเก็บของของลู่เจิ้งเซี๋ยง หลัวซิวพบม้วนหยกโบราณหนึ่งม้วน สิ่งที่บันทึกอยู่ในม้วนหยกโบราณคือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหุบเขาจิตนภา