มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 317 ต่อสู้กับผู้อาวุโสเสวียนหยาง
“พรึ่บ!”
เปลวไฟพลุ่งพล่านแผดเผาอยู่รอบตัวของเธอ ทำให้บริเวณโดยรอบแผดเผาจนบิดเบี้ยวไปหมด ชั่วขณะหนึ่ง ก็แผดเผากรงทองที่จะครอบหลัวซิว ไหม้เกรียม
ตามด้วย เหยียนเยว่เอ๋อร์เคลื่อนตัว กลายเป็นลำแสงเปลวไฟ มือดั่งหยกของเธอกำหมัด เคล้าไปด้วยความเหี้ยมโหด พุ่งตรงไปยังศีรษะของผู้อาวุโสเสวียนหยาง
“จักรพรรดิยุทธ์?”
การเปลี่ยนแปลงกะทันหันทำให้ทุกคนตกตะลึง ผู้หญิงคนนี้สามารถทำลายการโจมตีของผู้อาวุโสเสวียนหยางได้ เห็นชัดว่าเป็นระดับเดียวกัน
สัมผัสได้ถึงการโจมตีที่เหี้ยมโหดของเหยียนเยว่เอ๋อร์ ผู้อาวุโสเสวียนหยางพุ่งฝ่ามือออกไปเหมือนกัน ตามด้วยเสียงดังก้อง ปะทะเข้ากับหมัดของเหยียนเยว่เอ๋อร์ พลังจิตเปลวไฟและลำแสงสีทองทั้งสองต่อสู้กัน ระเบิดพลังจิตแท้ออกมา
หลัวซิวอยู่ใกล้ที่สุด เขาปลิวออกไปเพราะพลานุภาพที่ระเบิดออกมาของจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสอง
ร่างกายของเขาหมุนและถอยหลัง ถูกโจมตีบนอากาศไม่หยุด พลังรอบตัวระเบิดออกมาทั้งหมด หยุดยืนด้วยความมั่นคงได้ในรัศมีห่างออกไปสิบเมตร
คนอื่นๆไม่มีความสามารถระดับเขา แต่ละคนปลิวไปไกลราวกับเกี๊ยวซ่า ร่างกายตกลงมาจากบนอากาศ มุมปากกระอักเลือด ภายในร่างกายได้รับการกระทบกระเทือน
สีหน้าของผู้อาวุโสเสวียนหยางเคร่งขรึม สายตาของเขาจับจ้องไปยังเหยียนเยว่เอ๋อร์ที่อยู่ตรงหน้า พูดหัวเราะด้วยความเยือกเย็น:”ที่แท้ก็คือจักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่งหนึ่งในสิบจักรพรรดิยุทธ์ของประเทศเทียนหวู ดูเหมือนว่าบาดแผลเทพจิตของเธอจะฟื้นฟูกลับมาแล้ว”
หลังจากนั้นก็มองไปยังหลัวซิวที่อยู่ไกลออกไปในรัศมีสิบเมตรซึ่งรอบตัวปกคลุมด้วยเปลวไฟดำ “ไอ้เด็กฝึกจิตขั้น9คนนี้ น่าจะเป็นหลัวซิว ถ้าอย่างนั้นศิษย์ของฉันเผยชิ่งเฟยนายเป็นคนสังหาร? อีกทั้งนายก็เป็นคนทำลายตระกูลเผย?”
“ใช่แล้วยังไง?” หลัวซิวพูดด้วยสีหน้าเยือกเย็น
“ถ้าอย่างนั้นแกก็ไปตายซะ!” ผู้อาวุโสเสวียนหยางพูดเสียงเหี้ยม พระอาทิตย์สีทองปรากฏขึ้นตรงท้ายทอยของเขา แผ่ซ่านลำแสงสีทองออกมา คมราวกับดาบและกระบี่ เผยเสียงโลหะ
ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ผนึกรวมเทพจิต สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงท้ายทอยของผู้อาวุโสเสวียนหยาง คือวรยุทธ์ผนึกเทพจิตจินหยาง
สำนักเสวียนหยางสืบทอดวรยุทธ์ระดับ9 ชื่อว่า《วิชาหยางเสวียนโลหะ》 ฝึกตนวรยุทธ์นี้พลังจิตแท้ธาตุโลหะ จะมีธาตุของพระอาทิตย์
แปลงกายเป็นเทพจิต คือลางบอกว่าผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์จะสู้สุดกำลัง
“วี๊ด!”
เสียงหวีดร้องดังก้อง อยู่เหนือศีรษะของเหยียนเยว่เอ๋อร์ ร่างเสมือนของหงส์เพลิงขนาดยาสิบกว่าเมตรปรากฏตัวขึ้น ตนที่แปลงกายเป็นเทพจิตหงส์เพลิง
ตึ้ง!
ชั่วขณะหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสองสู้กันอย่างดุเดือด ต่างมีทักษะยุทธ์ระดับสูง โจมตีกันไม่หยุด เทพจิตหงส์เพลิงและจินหยางทั้งสองต่างปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ ต่อสู้กัน ตาต่อตาฟันต่อฟัน
การต่อสู้ระดับนี้ ด้วยความสามารถของหลัวซิวในตอนนี้ยากที่จะยื่นมือเข้าไปยุ่ง ด้วยเหตุนี้เขาจึงจับจ้องสายตาไปยังคนอื่นๆของสำนักเสวียนหยาง
นอกจากผู้อาวุโสเสวียนหนางที่เป็นผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์แล้ว เจ็ดคนที่เหลือของสำนักเสวียนหยาง ล้วนเป็นแดนฝึกจิต
เพื่อป้องกันไม่ให้คนของสำนักเสวียนหยางใช้วิธีต่างๆเอาเรื่องที่เกิดขึ้นทางนี้ไปบอกผู้แข็งแกร่งคนอื่นๆของสำนักเสวียนหยาง หลัวซิวหยิบธงขลังสรรพสิ่งออกมาจากแหวนเก็บของทันที แล้วรีบสร้างค่ายกลเอาไว้โดยรอบ
ในรัศมีหนึ่งร้อยเมตร จวงหย้าเฟยและซ่งช่าวหยวนพร้อมพวกล้วนมองสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยความตกตะลึง
จวงหย้าเฟยคิดไม่ถึงว่าในทีมของตนคนที่มาพร้อมกับหลัวซิว จะเป็นจักรพรรดิยุทธ์ อีกทั้งยังเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในสิบจักรพรรดิยุทธ์ จักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่ง!
จักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่งมีความสง่างามที่ไม่อาจเทียบได้ ฝึกตนแค่สามร้อยกว่าปีก็ติดหนึ่งในสิบจักรพรรดิยุทธ์ ถือเป็นตัวอย่างของนักยุทธ์หนุ่มสาวทุกคน
มองซ่งช่าวหยวนซึ่งกำลังตกตะลึงที่อยู่ไม่ไกล จวงหย้าเฟยอดไม่ได้ที่จะหัวเราะเยือกเย็น แต่ภายในใจก็รู้สึกเป็นกังวล เพราะไม่ว่าผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิยุทธ์ทั้งสองคนนี้ใครจะชนะ สุดท้ายของดีในร่องถ้ำ ก็ไม่ตกอยู่ในมือของเขากับซ่งช่าวหยวน
ในเวลานี้เอง จวงหย้าเฟยสังเกตเห็นว่า ซ่งช่าวหยวนหยิบกล่องส่งเสียงออกมาจากแหวนเก็บของ
เมื่อเห็นภาพนี้ จวงหย้าเฟยอุทานในใจว่าแย่แล้ว เห็นชัดว่าอีกฝ่ายจะส่งข่าวเรื่องนี้ให้เบื้องบนของสำนักเสวียนหยาง ถ้าหากเจ้าสำนักเสวียนหยางมาด้วยตนเอง หรือว่าอาจารย์มกุฏยุทธ์ลับคนนั้นมาด้วยตนเอง ไม่สามารถต่อสู้ได้แม้แต่น้อย
ระยะห่างของทั้งสองมีมากถึงหนึ่งร้อยเมตร จวงหย้าเฟยพุ่งตัวไปหาเขาด้วยความเร็วสูงสุด อยากจะห้ามซ่งช่าวหยวนไม่ให้ส่งข่าวออกไป
ทว่าถึงแม้จวงหย้าเฟยจะเคลื่อนไหวเร็วแค่ไหน แต่ซ่งช่าวหยวนก็เปิดกล่องส่งเสียงแล้ว ลำแสงส่องสว่างออกมาจากกล่องส่งเสียง
มองจวงหย้าเฟยที่พุ่งตัวทะยานมาก ซ่งช่าวหยวนหัวเราะเยือกเย็น “รอให้เจ้าสำนักของพวกฉันมา พวกแกใครหน้าไหนก็อย่าคิดจะมีชีวิตรอด ต่อให้แกจะหนีกลับตระกูลจวงเมืองไห่หยุน ก็ไม่มีประโยชน์!”
“ซ่งช่าวหยวน ไอ้สารเลว!” จวงหย้าเฟยโมโหอย่างมาก เขารู้ผลลัพธ์นี้เป็นอย่างดี ตระกูลจวงต้องถูกทำลายเพราะเรื่องนี้ และไม่สามารถกลับมาผงาดได้อีก
เวลานี้เขาอดไม่ได้ที่จะเสียใจว่าทำไมตนถึงโลภอยากจะได้โอกาสดีและของล้ำค่าในร่องถ้ำ ถ้ำที่เหลือทิ้งเอาไว้ตั้งแต่สมัยโบราณ ไม่ใช่สิ่งที่คนอย่างเขาสามารถเข้าไปข้องเกี่ยวได้
“นายดีใจเร็วเกินไปแล้ว”
ในเวลานี้เอง เสียงเยือกเย็นดังขึ้นกะทันหัน
ซ่งช่าวหยวนมองไป เห็นชายชุดคลุมสีดำ ปรากฏตัวอยู่ด้านหลังห่างจากตนประมาณสิบกว่าเมตร กำลังมองตาด้วยรอยยิ้มเยือกเย็น
คนที่มาพร้อมกับซ่งช่าวหยวน วางตัวราวกับศัตรูตัวฉกาจบุกมาทันที
เพราะชายชุดคลุมสีดำตรงหน้าถึงแม้จะอายุแค่สิบเจ็ดปี แต่เป็นคนที่เหี้ยมโหดมาก เคยฆ่าผู้แข็งแกร่งฝึกจิตมามากมายไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ แม้จะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับราชายุทธ์ เท่าที่รู้ก็ตายด้วยฝีมือของเขาสี่ห้าคนแล้ว
“หลัวซิว ฉันรู้ว่านายเก่งมาก แต่ฉันส่งข่าวไปบอกเจ้าสำนักแล้ว รอให้เจ้าสำนักและอาจารย์มาด้วยตนเอง ต่อให้นายมีจักรพรรดิยุทธ์เทียนเฟิ่งคอยช่วยเหลือ ก็ตายแน่นอน!”
ซ่งช่าวหยวนมองหลัวซิว พูดเสียงเคร่งขรึม “แต่ว่าด้วยพรสวรรค์ในการฝึกตนของนาย ย่อมได้รับคำชื่นชมจากเจ้าสำนักของพวกเรา ขอเพียงนายเข้ามาอยู่สำนักเสวียนหยาง นายก็จะมีทางรอด”
เขารู้ดีว่าตนและพวกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลัวซิว ดังนั้นจึงคิดจะควบคุมเจ้าคนอันตรายคนนี้ให้อยู่หมัดก่อน
“ข้อเสนอของนายไม่เลว แต่น่าเสียดายที่ฉันไม่สนใจ”
หลัวซิวหัวเราะเล็กน้อย ร่างของเขาหายไปทันที
“ทุกคนระวังตัว!” รูม่านตาของซ่งช่าวหยวนหดเล็ก พูดเสียงดัง
เสียงของเขายังไม่ทันหายไป ร่างของหลัวซิวก็ปรากฏตัวอยู่ตรงกลางพวกเขาเจ็ดคน หลัวซิวยืนอยู่ตรงกลางเปลวไฟสีแดงน้ำตาล เปลวไฟปะทุขึ้นมา ปกคลุมรัศมีหนึ่งร้อยเมตร
ปรมาจารย์ยุทธ์ฝึกจิตขั้น7ที่นำโดยซ่งช่าวหยวน ถูกเปลวไฟแผดเผาทันที เสียงร้องโอดครวญดังขึ้น ดังตรงนี้ทีตรงนั้นที