มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 2576
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2576
สัมผัสจิตสังหารที่แผ่กระจายออกมาจากร่างหลัวซิวได้ ลาร์และดูดจิตต่างพากันสะดุ้งอย่างควบคุมไม่ได้ เหยียนเยว่เอ๋อร์แะลเหยียนซีโรว่ก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันเช่นกัน จึงกุมมือของหลัวซิวเอาไว้แน่น ๆ
เมื่อสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิที่ส่งตรงมาจากมือพวกนาง หลัวซิวถึงจะตอบสนองกลับมาได้ว่าตัวเองเสียอาการไปหน่อย เมื่อครู่เขาโกรธเกรี้ยวมากเกินไปจริง ๆ ยิ่งกว่านั้นคือเขารู้สึกว่าการสังหารหยูเชียนฮว่าเพียงคนเดียวมันไม่สามารถทำให้ความโกรธในใจเขาหายไปได้
แคว็ก!
ช่องจิตของหยูเชียนฮว่าถูกหลัวซิวบีบจนแตกสลายโดยตรง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป บนโลกใบนี้ไม่มีคนดังกล่าวอีกต่อไป หลังจากจิตญาณสลายสูญสิ้นแล้ว ก็ไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้กลับชาติไปเกิดอีก
“ท่านพี่ ช่างมันเถิด ข้าและซีโรว่ต่างปลอดภัยดี”เหยียนเยว่เอ๋อร์รู้อยู่ว่าหลัวซิวกำลังคิดอะไรในใจ ทว่าสุดท้ายอุปนิสัยของนางก็เมตตามากเกินไป
“โชคดีที่พวกเจ้าไม่เป็นอะไร มิเช่นนั้นละก็ มาตรแม้นว่าข้าสังหารทุกคนในมหาโลกะแสงดาว มันก็ชดเชยเรื่องนี้ไม่ได้”หลัวซิวถอนหายใจเฮือกหนึ่ง เขาก็รู้เหมือนกันว่าต่อให้ตัวเองไปกวาดล้างสำนักของหยูเชียนฮว่า แท้จริงแล้วมันก็ไม่มีความหมายแต่อย่างใด
สุดท้ายแล้ว เรื่องนี้หากจะโทษก็โทษได้เพียงเขา ถ้าเกิดไม่ใช่เพราะเขามองข้ามความรู้สึกในใจเหยียนเยว่เอ๋อร์และเหยียนซีโรว่มากเกินไป แล้วมันจะมีเรื่องประเภทนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร?
เยว่เอ๋อร์และซีโรว่ต่างสามารถสัมผัสความรู้สึกที่จริงใจของหลัวซิวได้ ภายในส่วนลึกของหัวใจจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขใจ
“เราไปกันเถอะ”
หลัวซิวจูงมือพวกนาง แล้วเดินออกไปจากห้องใต้หลังคาแห่งนี้ หลังจากพวกเขาเดินจากไปไกลแล้ว ก็มีมือใหญ่ที่ครอบคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่จุติลงมาจากฟ้า เสียงตู้มดังลั่นขึ้น ทำให้ตำแหน่งที่ตั้งของห้องใต้หลังคากลายเป็นพื้นที่เรียบทันที
……
มหาโลกะแสงดาวแตกต่างจากมหาโลกาอื่น ๆ มหาโลกาใบนี้ไม่มีดาราหลัก สถานที่ที่เป็นศูนย์กลางคือแผ่นดินดาราแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนามว่าแผ่นดินแสงดาว
นี่คือแผ่นดินกว้างขวางขนาดใหญ่ที่ลอยอยู่กลางส่วนลึกของห้วงดารา กองกำลังขั้นสุดยอดทั้งหลายในมหาโลกะแสงดาวล้วนปักหลักปักฐานอยู่ ณ ที่แห่งนี้
ในแผ่นดินแสงดาวมีคูเมืองแห่งหนึ่ง ซึ่งมีนามว่าเมืองตระกูลหยู พอเห็นชื่อก็คิดโยงไปถึงความหมายของมันได้เลย เพราะนี่คือคูเมืองแห่งหนึ่งที่ถูกควบคุมโดยตระกูลหยู ส่วนตระกูลหยูที่อยู่ในแผ่นดินแสงดาวนั้น ก็เป็นรองเพียงการสืบสานขั้นสุดยอดของสำนักจักรพรรดิแสงดาว
ภูมิฐานของตระกูลหยูแข็งแกร่งมาก เล่ากันว่าบรรพบุรุษของตระกูลหยูเป็นผู้แข็งแกร่งที่อยู่ในยุคสมัยเดียวกันกับมหาจักรพรรดิยุทธ์แสงดาว อีกทั้งเป็นมิตรสหายที่มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับมหาจักรพรรดิยุทธ์แสงดาว
ในตระกูลหยูมีผู้แข็งแกร่งแดนจักรพรรดิเทพสามคน แดนจ้าวมหาเทพยิ่งมีสิบกว่าคน สามารถพูดได้เลยว่าในมหาโลกาพันสาม นอกเหนือจากตระกูลสำนักจักรพรรดิแล้ว กองกำลังที่มีผู้แข็งแกร่งจักรพรรดิเทพสามคนคอยปกปักรักษานั้น ถือเป็นกองกำลังที่แข็งแกร่งมาก ๆ แล้ว
สามารถพูดได้เลยว่าในมหาโลกะแสงดาว นอกจากสำนักจักรพรรดิแสงดาว ตระกูลหยูไม่ต้องเกรงกลัวกองกำลังอื่นที่เหลือเลย แต่ทว่าในวันนี้ บรรยากาศทั้งตระกูลหยูกลับดูตึงเครียดมากอย่างเห็นได้ชัด
สาเหตุที่เป็นเช่นนี้นั้น เป็นเพราะบุคคลสำคัญคนหน่ึงในตระกูลหยูได้ดับสลายสูญสิ้นไปแล้ว แม้นผลการฝึกตนของคนใหญ่คนโตนั่นจักไม่ใช่บรรพอาจารย์จักรพรรดิเทพก็ตาม ทว่าตำแหน่งตัวตนของเขากลับไม่ด้อยกว่าจักรพรรดิเทพคนหนึ่งเลย เพราะเขาคือมหาปรมาจารย์ค่ายเทพคนหนึ่ง!
ทั้งมหาโลกะแสงดาวมีมหาปรมาจารย์ค่ายเทพเพียงสองคนเท่านั้น คนหนึ่งอยู่ในสำนักจักรพรรดิแสงดาว ส่วนอีกคนหนึ่งก็คือหยูเชียนฮว่าในตระกูลหยูนั่นเอง
อาศัยตัวตนมหาปรมาจารย์ค่ายเทพ หยูเชียนฮว่าที่อยู่ในตระกูลหยูก็มีตำแหน่งและเกียรติยศที่เทียบเท่าบรรพอาจารย์เช่นกัน
อีกทั้งพรสวรรค์ของหยูเชียนฮว่าดีมาก ๆ ถ้าเกิดไม่แบ่งใจไปตระหนักรู้ในวิถีค่าย เกรงว่าเขาคงกลายเป็นบรรพอาจารย์จักรพรรดิเทพคนที่สี่ของตระกูลไปแล้ว
แต่ผู้แข็งแกร่งที่มีเส้นทางในอนาคตอย่างไร้ขีดจำกัดประเภทนี้ กลับดับสลายสูญสิ้นกะทันหัน ยิ่งกว่านั้นคือขณะที่เขาดับสลายสูญสิ้น เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้ขอความช่วยเหลือจากตระกูล ทำให้ทั้งเบื้องบนและเบื้องล่างของตระกูลหยูต่างสัมผัสได้ถึงความรุนแรงของเรื่องนี้