มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 2458
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2458
“ต้องมองท่านชายหลัวด้วยมุมมองใหม่แล้วจริง ๆ”สายตาของชีชียังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความแปลกใจอยู่เช่นเคย ในหมู่วัยรุ่นยุคใหม่ในโลกมหาศักดิ์ทั้งแปด นางคือสตรีผู้มีความรู้ความสามารถเป็นหนึ่งสมคำกล่าวขาน แต่เมื่อได้พบหลัวซิวในโลกามนุษย์ กลับทำให้นางปฏิเสธไม่ได้เลยว่าตนเทียบเคียงกับหลัวซิวไม่ได้จริง ๆ
“คำพูดที่ไม่มีประโยชน์เช่นนี้ ทั้งสองไม่จำเป็นต้องพูดให้มันมากความหรอกกระมัง? การลงมือในเมื่อครู่นี้ทำเอาข้าตกใจจนสะดุ้ง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องเอาสิ่งของชดเชยให้ข้าหน่อยหรือเปล่า?”หลัวซิวยิ้มอ่อนพลางพูด
“เอ่อคือสหายหลัว ข้าและชีชียังมีธุระนิดหน่อย ขอตัวก่อนล่ะ!”
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำพูดของหลัวซิว ก่อนจะกลายร่างเป็นแสงกลดวงหนึ่งแล้วหายวับไป
ชีชีก็ต้องจากไปตามกันอยู่แล้ว เห็นได้ชัดเจนเลยว่าไม่อยากนำของล้ำค่าที่ได้รับจากตำหนักเทียนหย่งออกมา
สำหรับการจากไปของทั้งสองนั้น หลัวซิวก็ไม่ได้ลงมือหยุดยั้งแต่อย่างใด หากหนึ่งต่อหนึ่ง เขามั่นใจว่าตนสามารถจัดการพวกเขาใครคนใดคนหนึ่งได้ ทว่าหากลิ่งฮู๋จื่อเซวียนและชีชีร่วมมือกันละก็ หลัวซิวก็ทราบเช่นกันว่าตนทำอะไรพวกเขาไม่ได้
แต่พวกเขาทั้งสองคนต้องได้รับของดี ๆ ในตำหนักไท่ซ่างเทียนหย่งไม่น้อยแน่นอน ถึงแม้จักรพรรดิเทพเทียนหย่งจะนำสมบัติล้ำค่าส่วนมากทิ้งไว้ในตระกูล แต่ของบางอย่างที่นางพกติดตัวนั้น ก็ถือเป็นสมบัติที่ไม่สามารถประมาณค่าสำหรับจอมยุทธ์แดนจ้าวมหาเทพแล้ว
แต่ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับอะไร ก็ไม่มีทางล้ำค่ากว่าสิ่งที่หลัวซิวได้รับแน่นอน หินบรรพไท่ชูหนึ่งก้อนไม่ว่า เศษใจแห่งศุภรทั้งห้าชิ้นที่นำมาเปิดประตูใหญ่ ก็ล้วนถูกเขาเก็บไปขณะจะจากไป
ลิ่งฮู๋จื่อเซวียนและชีชีก็ต้องเคยคิดหาวิธีเอาเศษศุภรไปเช่นกัน แต่ในตำหนักเทียนหย่งมีตัวต้องห้ามเยอะมาก ๆ หลัวซิวสามารถเคลื่อนไหวอยู่ภายในได้อย่างราบรื่น พวกเขาทั้งสองกลับทำเช่นนี้ไม่ได้
หลังจากหลอมรวมเศษใจแห่งศุภรทั้งห้าชิ้นแล้ว มันก็กลายเป็นลูกแก้วหนึ่งลูก เหมือนดั่งใจแห่งศุภรขนาดเล็ก
ในภพชาติของไท่ซ่างฉิง เขาเคยเห็นใจแห่งศุภรที่แท้จริงอยู่ แม้นพลังออร่าที่ไหลเวียนอยู่บนใจแห่งศุภรขนาดเล็กที่อยู่ในมือเขาจะไม่สมบูรณ์ครบถ้วน แต่ก็สามารถเทียบทัดอาวุธเทพระดับเจ็ดชั้นยอดได้แน่นอน
……
ถึงแม้โลกะดาราอัมพรเทวจะเป็นห้วงดาราระดับล่าง แต่ก็ยังมีผู้แข็งแกร่งระดับกึ่งจ้าวมหาเทพอยู่ สาเหตุที่ช่าจื่อเยียนเดินทางมาที่นี่นั้น เพราะอยากตามหาสถานที่ที่เสี่ยวเจียงหมิงผูกติดอยู่ เนื่องจากหลัวซิวไม่ได้บอกรายละเอียดสถานที่กับนาง ฉะนั้นการที่นางอยากจะตามหานั้น ก็ไม่มีต้นสายปลายเหตุเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตามสิ่งที่ทำให้ช่าจื่อเยียนคาดไม่ถึงคือ ทันทีที่นางมาถึงโลกะดาราอัมพรเทวได้ไม่นาน ก็ก่อให้เกิดปัญหาบางอย่างเลย เนื่องจากนางเที่ยวไปสืบเสาะข่าวคราวของแดนปริศนาต่าง ๆ และจะหยิบสมบัติที่หาพบได้ยากในโลกะดาราอัมพรเทวออกมาเป็นครั้งคราว จึงถูกผู้อื่นหลายตาไว้เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
ตอนแรกเริ่มช่าจื่อเยียนไม่ได้นำเรื่องนี้มาใส่ใจ ขอแค่มีคนกล้ามารุกรานนาง นางก็จะลงมืออย่างไร้ความปราณี แต่จากการที่ผู้คนที่มาหาเรื่องนางยิ่งอยู่ยิ่งมาก ยิ่งอยู่ยิ่งแข็งแกร่ง ในที่สุดช่าจื่อเยียนก็เข้าใจสักทีว่าเหมือนปัญหาที่รุมเร้าเข้ามาจะยิ่งใหญ่ไปหน่อย
สมบัติทรัพยากรต่าง ๆ ที่นางพกติดตัวมานั้น ไม่ถือเป็นสมบัติที่ล้ำค่าในมหาโลกายอดอัมพร ทว่าเมื่ออยู่ในสถานที่อย่างโลกะดาราอัมพรเทว กลับเพียงพอที่จะทำให้ทุกคนหวั่นไหวได้แล้ว อย่างไรเสียทรัพยากรการฝึกตนในโลกะดาราอัมพรเทวก็เหือดแห้งกว่ามหาโลกายอดอัมพรมาก ๆ
โดยเฉพาะนางสังหารผู้ที่มีนามว่าจ้าวเทียนฉีคนหนึ่ง ตอนแรกเริ่มนางไม่ทราบแต่อย่างใดว่าฝ่ายตรงข้ามคือผู้ใดกันแน่ มีครั้งหนึ่งที่บังเอิญพบหน้ากัน จ้าวเทียนฉีเห็นนางใช้ยาเซียนระดับมกุฎค้าขายกับผู้อื่น ดังนั้นจิตใจจึงเกิดความโลภ
ไม่เพียงแค่นี้เท่านั้น หลังจากจ้าวเทียนฉีพบว่านางก็เป็นสตรีที่งดงามคนหนึ่งแล้ว เขาก็ไม่เพียงจะแก่งแย่งสมบัติของนาง และยิ่งมีความคิดที่ชั่วร้ายต่อนางด้วย