มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 2426
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2426
แม้ตระกูลหลี่ที่อยู่ในโลกจักรภพจะไม่นับเป็นกองกำลังใหญ่อะไร ทว่าเมื่ออยู่ในโลกามนุษย์กลับแตกต่างโดยสิ้นเชิง
ในสรรพมหาโลกา ทั้งดาวเทียนเชี่ยนล้วนเป็นอาณานิคมของตระกูลหลี่ อีกทั้งเนื่องจากตระกูลหลี่มาจากโลกมหาศักดิ์ กองกำลังจำนวนมากที่อยู่บริเวณรอบ ๆ ล้วนไม่กล้ารุกรานตระกูลหลี่ง่าย ๆ
ในมหาโลกาพันสาม มีกองกำลังที่เป็นทำนองเดียวกันกับตระกูลหลี่ที่ย้ายมาจากโลกมหาศักดิ์อยู่ไม่น้อย ทว่าสำหรับกองกำลังในมหาโลกาพันสามแล้ว การที่จะย้ายจากที่นี่เพื่อมุ่งหน้าไปใช้ชีวิตในโลกมหาศักดิ์นั้น กลับเป็นเรื่องที่ทำได้ยากเย็นมาก
อสูรดูดจิตบินเข้าไปในดาวเทียนเชี่ยนโดยตรง ก่อนจะมีแสงกลดวงหนึ่งพุ่งปะทะเข้ามาอย่างรวดเร็ว ซึ่งแสงกลดังกล่าวก็คือจอมยุทธ์แดนราชาเทพคนหนึ่งของตระกูลหลี่นั่นเอง
“เจ้าเป็นผู้ใด มาทำอะไรในดาวเทียนเชี่ยน?”จอมยุทธ์ราชาเทพคนดังกล่าวกวาดตามองหลัวซิวตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้นอสูรดูดจิตจะหดลำตัวให้เล็กลงแล้วก็ตาม แต่ชี่มหากาฬไร้รูปที่แผ่กระจายออกมาก็เพียงพอที่จะทำให้จอมยุทธ์ราชาเทพทุกคนเกรงกลัวได้แล้ว
“ข้าน้อยมาเที่ยวสอบถามหาสหายเก่าในดาวเทียนเชี่ยน ซึ่งเป็นผู้คนในตระกูลหลี่ของเจ้ามีนามว่าหลี่ยู่”หลัวซิวเป็นฝ่ายเอ่ยปากพูดก่อน ไม่มีลักษณะท่าทีที่เผด็จการเลยแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินหลัวซิวบอกว่าจะมาตามหาหลี่ยู่ เห็นได้ชัดเจนเลยว่าสีหน้าของจอมยุทธ์ราชาเทพคนดังกล่าวเปลี่ยนไปเล็กน้อย ลักษณะท่าทีก็เย็นชาขึ้นมา ก่อนที่เขาจะถอยหลังกลับไปหนึ่งก้าวแล้วตอบกลับ: “ตระกูลหลี่ของเราไม่มีคนดังกล่าว เจ้าเชิญกลับเถิด”
“ไม่มีคนดังกล่าว?”หลัวซิวขมวดคิ้วลง สัญชาตญาณบอกกับเขาว่าดูเหมือนตระกูลหลี่แห่งดาวเทียนเชี่ยนจะประสบเรื่องราวที่ไม่คาดคิด
อสูรดูดจิตสามารถสัมผัสอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของหลัวซิวได้ จึงมีชี่ฉกรรจ์ที่รวดเร็วและเฉียบคมทะลุออกมาจากดวงตาที่แดงเถือกคู่นั่น อำนาจบารมีหนึ่งตลบฟุ้งออกมา ทำให้จอมยุทธ์ราชาเทพแห่งตระกูลหลี่คนนั้นหายใจลำบาก และมีเหงื่อผุดออกมาบนหน้าผาก
หลัวซิวไม่ได้ใส่ใจเรื่องเหล่านี้ ก่อนจะไต่ถามต่อ “แล้วหลี่เฟยเฉินอยู่หรือไม่?”
“หลี่เฟยเฉินคืออดีตผู้อาวุโสของตระกูลหลี่เรา ทว่าปัจจุบันไม่ใช่อีกต่อไปแล้ว ตระกูลหลี่ของเราไม่ต้อนรับเจ้า เชิญเจ้ากลับไปเถอะ!”
ถูกอำนาจบารมีของอสูรดูดจิตแผ่คลุม น้ำเสียงของจอมยุทธ์ราชาเทพคนนี้จึงอ่อนโยนขึ้นมาเยอะมาก ๆ แต่ก็ยังไม่ยอมเปิดเผยเรื่องอะไรอยู่ดี
สีหน้าของหลัวซิวเยือกเย็นลง เขามีความทรงจำของหลี่ยู่โดยสมบูรณ์ ไม่ว่าอย่างไรหลี่เฟยเฉินก็เป็นพ่อแท้ ๆ ของเขาเมื่อภพชาติก่อน แม้นความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกจะดำเนินการไปเพียงสิบกว่าปี แต่ความสัมพันธ์นี้เป็นสิ่งที่ลบอย่างไรก็ลบไม่ออก
“บอกข้ามา เกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตระกูลหลี่กันแน่?”มีอำนาจบารมีหนึ่งแผ่กระจายออกไปจากร่างหลัวซิวเช่นกัน สีหน้าของจอมยุทธ์ราชาเทพที่อยู่ฝั่งตรงข้ามขาวเผือกลงไปในทันที
ฝ่ายตรงข้ามอ้าปากค้าง ทว่ายังไม่ทันได้พูดอะไร จู่ ๆ ก็มีเสียงที่เยือกเย็นสะท้อนมา
“เจ้ามีความสัมพันธ์อะไรกับพ่อลูกหลี่เฟยเฉิน? แล้วจุดประสงค์ในการมาดาวเทียนเชี่ยนคืออะไร?”
ขณะที่เสียงสะท้อนมา ก็มีแสงกลดวงหนึ่งบินมา ก่อนจะมีเงาร่างของสตรีนางหนึ่งปรากฏ แล้วเพ่งมองหลัวซิวด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร
“กราบคารวะผู้อาวุโสขอรับ”จอมยุทธ์ราชาเทพนั่นรีบก้มคำนับทำความเคารพ
สายตาของหลัวซิวก็ร่วงลงบนร่างสตรีนางนี้เช่นกัน นางมีผลการฝึกตนมกุฎเทพขั้นปฐมภูมิ เมื่อพูดจากภูมิฐานของตระกูลหลี่แล้ว แดนมกุฎเทพก็สามารถขึ้นมาดำรงตำแหน่งผู้อาวุโสได้แล้วจริง ๆ
“ในเมื่อเจ้าเป็นผู้อาวุโสในตระกูลหลี่ เช่นนั้นเจ้าก็บอกกับข้าเลยว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่”หลัวซิวพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
สตรีที่อยู่ฝั่งตรงข้ามขมวดคิ้วลงเล็กน้อย สามารถพูดได้เลยว่าตระกูลหลี่เป็นผู้มีอิทธิพลในอาณาจักรดาราแห่งนี้ คนดังกล่าวไม่ได้ตอบกลับคำถามของนาง แต่กลับซักถามนางด้วยน้ำเสียงตำหนิติเตียน นี่จึงทำให้นางที่เป็นผู้อาวุโสมกุฎเทพรู้สึกไม่ค่อยพอใจเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
“ไอ้คนวิกลจริตช่างโอหังยิ่งนัก บังอาจไม่เคารพผู้อาวุโสตระกูลหลี่ของข้าอย่างนั้นหรือ?”จอมยุทธ์ราชาเทพนั่นสังเกตสีหน้าเก่งมาก ๆ เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสไม่พอใจ จึงเสนอหน้าออกมาตำหนิหลัวซิว