มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 2419
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2419
อัคคีเทพชีวีของตัวหลัวซิวเอง หากไม่ใช่เพราะกฎไร้ลักษณ์ เมื่อเปรียบเทียบกับพันธุอัคคีไร้เจตน์แล้ว เกรงว่าคงจะแตกต่างราวกับฟ้ากับดินเลย
“ถูกต้อง ในนิรยะเพชฌฆาตนี้มีพันธุอัคคีไร้เจตน์หนึ่งดวง แม้จะด้อยกว่าไผ่เทวดวงครามในเขาผีเก้าหนึ่งระดับ แต่ก็เป็นสมบัติที่หาได้ยากเช่นกัน”ไป๋เฟยชิงผงกหัวพลางตอบกลับ
“แต่ทว่าพันธุอัคคีไร้เจตน์อยู่ภายในเขตเปลวไฟม่วง ข้าไม่มั่นใจที่จะลุยคนเดียว เจ้าร่วมมือกับข้าครั้งหนึ่งเป็นอย่างไร?”ไป๋เฟยชิงเป็นฝ่ายเสนอความเห็นก่อน
“พันธุอัคคีมีแค่ดวงเดียว จะร่วมมือกันอย่างไร? หากได้มาแล้วมันจะตกเป็นของเจ้าหรือของข้า?”หลัวซิวยิ้มพลางถาม
สำหรับคำพูดนี้ของหลัวซิวนั้น ไป๋เฟยชิงกลับไม่ได้ใส่ใจมากนัก ก่อนจะค่อย ๆ ตอบกลับ “ข้าทราบตำแหน่งที่แม่นยำของพันธุอัคคีไร้เจตน์ หากไม่ทราบตำแหน่งที่แม่นยำละก็ ต่อให้ผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิยุทธ์ค่อย ๆ ตามหาอย่างไร้เป้าหมายก็ยืนหยัดได้ไม่นานเช่นกัน”
ไป๋เฟยชิงบอกแต้มต่อของตนเองออกมา นางทราบตำแหน่งที่แม่นยำของพันธุอัคคีไร้เจตน์ ดังนั้นตนจึงเป็นฝ่ายยึดกุมอำนาจมากกว่าเล็กน้อย
ในส่วนของเรื่องที่นางมีผลการฝึกตนจักรพรรดิเทพช่วงปลายนั้น นางกลับไม่พูดถึงเลย เนื่องจากนางทราบอยู่ว่าหลัวซิวนี่สามารถบุกเข้าไปในเขตแสงม่วงในเขาผีเก้า อีกทั้งสามารถออกมาได้อย่างปลอดภัย เขาก็ต้องมีอุบายที่เก่งกาจอย่างแน่นอน ซึ่งไม่ด้อยกว่าตนมากเท่าไหร่นัก
แม้นดูจากลักษณะภายนอกผลการฝึกตนของเขาจะเป็นมกุฎเทพ แต่นางก็ทราบเช่นกันว่ามีเคล็ดวิชาบางอย่างสามารถอำพรางผลการฝึกตนที่แท้จริง
“ข้ายังคงยืนยันคำเดิม จะแบ่งพันธุอัคคีไร้เจตน์อย่างไร?”หลัวซิวถามอย่างเรียบนิ่ง
ไป๋เฟยชิงลังเลใจตอบคำถามนี้เล็กน้อยเช่นกัน เนื่องจากไม่มีทางที่จะแบ่งพันธุอัคคีไร้เจตน์ออกมาเป็นสองส่วนได้แน่นอน เช่นนั้นระหว่างทั้งสองคน ต้องมีคนหนึ่งที่ไม่ได้รับอัคคีเทพดวงนี้
“ข้ามีสองแบบแผน เจ้าลองฟังดูก่อน”
ไป๋เฟยชิงไตร่ตรองหยุดพักหนึ่ง ก่อนจะพูด “แบบแผนแรกคือพันธุอัคคีไร้เจตน์ตกเป็นของเจ้า แต่กรองแก้วนภาอัคคีม่วงที่เป็นส่วนเสริมของพันธุอัคคีไร้เจตน์ตกเป็นของข้าหมด ในขณะเดียวกันเจ้าก็ต้องชดเชยให้ข้าเล็กน้อยด้วย เนื่องจากเมื่อเปรียบเทียบกับมูลค่าของพันธุอัคคีไร้เจตน์แล้ว กรองแก้วนภาอัคคีม่วงก็เล็กน้อยมาก ๆ”
“แบบแผนที่สองก็คือกลับกัน พันธุอัคคีไร้เจตน์ตกเป็นของข้า กรองแก้วนภาอัคคีม่วงเป็นของเจ้า แล้วข้าจะชดเชยให้เจ้า”
พูดได้เลยว่าทั้งสองแบบแผนที่ไป๋เฟยชิงกล่าวมานั้นค่อนข้างสมเหตุสมผลเลย กรองแก้วนภาอัคคีม่วงคือสมบัติประเภทหนึ่งที่เป็นส่วนเสริมของอัคคีเทพที่ยิ่งใหญ่ สามารถทำให้อัคคีเทพหลายประเภทใช้เลื่อนระดับ และสามารถอาศัยพลังธาตุไฟที่แฝงซ่อนอยู่ภายในชุบร่างเนื้อได้เช่นกัน หรือสามารถนำมาฝึกกฎธาตุไฟ
“หากข้ายกพันธุอัคคีไร้เจตน์ให้เจ้า เจ้าจะชดเชยอะไรให้ข้าหรือ?”หลัวซิวถาม
สำหรับพันธุอัคคีไร้เจตน์นั้น หลัวซิวยังไม่ถึงขั้นต้องครอบครองมันให้ได้ เมื่อมีกรองแก้วนภาอัคคีม่วงและเปลวไฟสีดำม่วงจำนวนมากที่เขาดูดซับได้ การที่อัคคีเทพซิวหลัวจะเลื่อนขั้นขึ้นไปถึงระดับห้านั้นเป็นเรื่องที่เอาอยู่แน่นอน
ในส่วนของหลังจากยกระดับถึงระดับห้าแล้ว ยังมีวิธีการอื่น ๆ อีกมากมายสำหรับการเลื่อนระดับ ใช่ว่าจะต้องดูดกลืนพันธุอัคคีไร้เจตน์เสมอไป
“เจ้ายินดียกพันธุอัคคีให้ข้าหรือ?”ไป๋เฟยชิงตื่นเต้นดีใจเล็กน้อย ระดับวรยุทธ์กลั่นร่างที่นางฝึกไม่ต่ำ ภายในก็มีเคล็ดวิชาที่อาศัยอัคคีเทพมาชุบยกระดับผลการฝึกตน หากนางสามารถได้รับพันธุอัคคีไร้เจตน์ เช่นนั้นนางก็มีความมั่นใจสูงมาก ๆ ที่จะบรรลุขึ้นไปถึงแดนเทพมารระดับหก
“หากข้าได้รับพันธุอัคคีไร้เจตน์ ข้าสามารถมอบโอสถแก่นแท้ระดับห้า 20 ล้านเม็ดให้แก่เจ้า หรือเจ้าจะเอายาประเภทอื่นก็ได้เช่นกัน”ไป๋เฟยชิงตอบกลับอย่างตื่นเต้น
“เจ้าเอาโอสถแก่นแท้ให้ข้า 10 ล้านเม็ดก็พอแล้ว หากเจ้ามียาเซียนระดับสี่เป็นต้นไป นำยาเซียนที่มีมูลค่าเท่าโอสถแก่นแท้ 10 ล้านเม็ดให้ข้าก็ได้”หลัวซิวตอบกลับ
“ได้เลย!”
ไป๋เฟยชิงตอบตกลงโดยไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อย นี่จึงทำให้หลัวซิวรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย หรือว่าสตรีนางนี้ยังเป็นนักกลั่นยาคนหนึ่งด้วย? มิเช่นนั้นละก็ หากไม่ใช่นักกลั่นยา แล้วบนตัวจะมียาเซียนระดับสูงพกติดตัวมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร?
ต้องท้าวความก่อนว่ายาเซียนที่มีมูลค่าเทียบเท่าโอสถแก่นแท้ 10 ล้านเม็ดนั้น มันไม่ใช่จำนวนน้อย ๆ เลยนะ
หลัวซิวไม่ทราบแต่อย่างใดว่าอดีตไป๋เฟยชิงเคยได้รับโอกาสบางอย่าง เจอแดนหลิงจื๋อแห่งหนึ่งที่คงอยู่มาตั้งแต่ยุคดึกดำบรรพ์ ทำให้ได้รับยาเซียนจำนวนมาก
อย่างไรเสียในโลกหล้านี้ มีโชคโอกาสที่นับไม่ถ้วน สิ่งที่หลัวซิวสามารถได้รับ ผู้อื่นก็มีบุพเพสันนิวาสได้รับโชคและโอกาสที่เป็นของตัวเองเช่นกัน……