มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 2097
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 2097
ในวิถียุทธ์มีวิถีกระบี่ วิถีหอกและมีวิถีดาบเช่นกัน เช่นนั้นเมื่อใช้วิถีแห่งดาบกระบี่วิวัฒนาการกฎออกมา ฝึกและเลื่อนขั้นถึงขั้นสูงสุด มันก็สามารถกลายเป็นเกณฑ์ได้
วิถียุทธภัณฑ์เป็นวิถีขั้นสูงสุดประเภทหนึ่ง มีเพียงจิตใจและความรู้สึกทั้งหมดจดจ่ออยู่ในหนึ่งอาวุธ ถึงจะมีโอกาสเดินถึงจุดสูงสุดของวิถีนี้
หลัวซิวไม่เคยฝึกวิถียุทธภัณฑ์มาก่อน แต่เขากลับเคยตระหนักรู้ในวรยุทธ์และพลังอมตะในทำนองนี้ ส่วนหมื่นจักรวาลไร้รูปที่เขาริเริ่มนั้น ก็คือต้องใช้วิชาไร้ลักษณ์มาวิวัฒนาการสรรพวิชา เช่นนั้นวิถียุทธภัณฑ์ก็อยู่ในประเภทสรรพวิชาเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
ด้วยเหตุนี้ จากการพยายามและบาดเจ็บสาหัสในทุกครั้ง หลัวซิวก็ใช้หมื่นจักรวาลไร้รูปมาวิวัฒนาการพลังที่เป็นทำนองเดียวกันกับวิถีดาบ
การจำกัดและพันธนาการของแดนทำให้หลัวซิวไม่มีทางวิวัฒนาการเกณฑ์วิถีดาบออกมาได้ แต่ถ้าเกิดแค่วิวัฒนาการกฎวิถีดาบละก็ กลับไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใด
“เวิ่ง!”
มีพลังออร่าที่รวดเร็วดุดันและแข็งกร้าวแผ่กระจายออกมาจากตัวหลัวซิว ราวกับวินาทีนี้เขาได้กลายเป็นดาบเทพเล่มหนึ่ง เป็นผู้ที่มีศักยภาพสูงส่ง เทพขวางสังหารเทพ พระขวางฆ่าพระ
ถึงแม้ระดับของกฎวิถีดาบที่เขาวิวัฒนาการออกมาจะเทียบเคียงกับพลังแห่งเกณฑ์ของรอยดาบในเหวปีศาจไม่ได้ก็ตาม ทว่ากลับเป็นออร่าที่มีความสัมพันธ์ระหว่างทฤษฎีความคิด
ภายในเวลาชั่วพริบตา ราวกับหลัวซิวเกิดความรู้สึกร่วมกับรอยดาบในเหวปีศาจ พลังหนึ่งที่เฉียบคมบินพุ่งออกมาจากรอยดาบนั่นบนกำแพงหิน
นี่จึงทำให้หลัวซิวตกใจจนสะดุ้ง และอยากหลบหลีกโดยสัญชาตญาณ แต่ความเร็วในการเคลื่อนที่ของคมดาบรวดเร็วมากเกินไป ก่อนที่มันซึมหายเข้าไปในร่างกายเขาภายในพริบ
เดิมทีคิดว่าความพยายามในครั้งนี้จะสิ้นสุดลงด้วยความพ่ายแพ้อีกแล้ว ทว่าคมดาบนี้กลับไม่สร้างความเสียหายใด ๆ ให้แก่เขา ในทางตรงกันข้ามมันกลับแฝงอยู่ในร่างกายเขา กลายเป็นรังสีดาบที่เฉียบคมถึงขีดสุด
“การถ่ายทอดสืบสานหรือ?”
ดูเหมือนหลัวซิวจะตระหนักรู้ขึ้นมาได้ภายในพริบตา เมื่อครู่เขาได้ใช้หมื่นจักรวาลไร้รูปวิวัฒนาการออร่าที่มีความสัมพันธ์ระหว่างทฤษฎีความคิดออกมา ด้วยเหตุนี้จึงได้รับการยอมรับ ออร่าที่หลงเหลืออยู่ในรอยดาบกลายเป็นรังสีดาบหนึ่ง หนีหายเข้าไปในร่างกายเขา
หลัวซิวรู้สึกเหมือนตัวเองสามารถควบคุมรังสีดาบนี้ได้ การค้นพบนี้ทำให้บนใบหน้าเขามีรังสีแห่งความแปลกใจปรากฏขึ้นมาอย่างควบคุมไม่ได้
“ดูท่าความลำบากในครั้งนี้ก็มีดอกผลอยู่ ไม่เสียแรงเปล่าที่ข้าถูกเจ้าตัดหัวลงมาตั้งหลายหน”
หลัวซิวสัมผัสกับออร่าของรังสีดาบพลางกระตุกยิ้มมุมปาก เนื่องจากเขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่าทันทีที่เรียกรังสีดาบที่ดูไม่โดดเด่นนี้ออกมา มันต้องเป็นพลานุภาพอันน่ากลัวที่สามารถทำให้เขาข้ามขั้นสังหารจ้าวมหาเทพได้อย่างแน่นอน!
ภายในร่างกายมีรังสีดาบที่ทรงพลังถึงขีดสุดซ่อนอยู่ นี่จึงทำให้หลัวซิวมั่นใจอย่างมาก ดังนั้นจึงมุ่งหน้าลงไปยังส่วนลึกของเหวปีศาจต่อ
ยิ่งลึกลงไปในเหวปีศาจมากเท่าไหร่ ชี่มรณะก็ยิ่งเข้มข้นมากเท่านั้น หลัวซิวสัมผัสได้ถึงจิตสังหารและห้วงดาบที่น่ากลัวมากยิ่งขึ้น บนกำแพงหินในละแวกนี้เต็มไปด้วยรอยดาบลายพร้อย รอยหนึ่งน่ากลัวกว่ารอยหนึ่ง
ซึ่งแตกต่างจากรอยดาบที่เขาพบเจอเมื่อก่อนหน้านี้ ออร่าที่หลงเหลืออยู่ในรอยดาบนั่นอ่อนแอมาก ๆ แล้ว แต่รอยดาบที่อยู่ด้านล่างเหวปีศาจกลับมีจิตสังหารที่ยากที่จะจินตนาการได้แฝงซ่อนอยู่ภายในรอบดาบ หากจิตสังหารเช่นนี้ปะทุออกมาละก็ เกรงว่าทั้งดาราอัมพรเทวต้องได้พังทลายแน่นอน
รังสีดาบที่แฝงอยู่ในร่างกายเขาร้องหึ่ง ๆ ราวกับกำลังเกิดความรู้สึกร่วมกับรอยดาบตามกำแพงหิน เหมือนดั่งเขาได้รับการยอมรับจากรอยดาบที่หนึ่ง ดังนั้นจิตสังหารของรอยดาบจำนวนมากจึงสลายหายไปจากข้างกายเขา ไม่สร้างความเสียหายใด ๆ ให้แก่เขา
นี่จึงทำให้หลัวซิวอกสั่นขวัญหาย เขาไม่สงสัยเลยแม้แต่น้อยว่าถ้าเกิดจิตสังหารของรอยดาบของที่นี่ปะทุออกมา เขาต้องต้านทานไม่ไหวอย่างแน่นอน จะถูกสังหารภายในพริบตา
ทุกอย่างดำเนินการไปตามนี้ หลัวซิวลึกลงไปด้านล่างอย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์ที่น่ากลัวแต่ไม่มีความอันตรายใด ๆ ในขณะเดียวกันเขาก็เอาลูกแก้วความเป็นตายออกมา ดูดซับชี่มรณะที่มากมายอย่างไร้ขอบเขตในเหวปีศาจอย่างไม่หยุดหย่อน ชี่มรณะทั้งหมดนี้รวมตัวกันอยู่ในลูกแก้วความเป็นตาย แล้วจะถูกผันให้กลายเป็นพลังแห่งกฎที่บริสุทธิ์ถึงขีดสุด อนาคตเขาสามารถดูดซับมันขณะที่ฝึกตน ซึ่งประสิทธิผลของมันจะดีกว่ายาเซียนมาก ๆ