มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1966
ซึ่งวิถียุทธ์ของเขาก็คือหมื่นจักรวาลไร้รูป ใช้วิชาไร้ลักษณ์วิวัฒนาการสรรพวิชาในจักรวาลฟ้าดิน กฎตรีภพและร่างเทวนี้ก็ต้องอยู่ในสรรพวิชาจักรวาลอยู่แล้ว อยู่ภายในขอบข่ายที่หมื่นจักรวาลไร้รูปวิวัฒนาการ
โอรสสวรรค์โชคลาภยังไม่ทันได้แสดงอาการตะลึงต่อร่างเทวอลวนที่หลัวซิวเปิดเผย ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของทั้งสองคนก็เข้าสู่การปะทะที่เรียบง่ายที่สุดโดยตรง!
แรงฮึดแตกกระจาย ร่างยุทธ์ร่างเนื้อของทั้งสองต่างเกะกะระรานถึงขีดสุด ทำให้อนัตตาถูกโจมตีจนแตกสลาย
เสียงกระดูกแตกร้าวดังก้องขึ้นมา ร่างกายของโอรสสวรรค์โชคลาภถูกโจมตีจนกระเด็นออกไปภายในพริบตา พร้อมกับกระอักเลือดออกมาอย่างบ้าคลั่ง
“มึง…..มึงก็เป็นร่างเทวอลวนอย่างนั้นหรือ?”โอรสสวรรค์โชคลาภตอบสนองกลับมาได้แล้ว ไม่มีเวลาไปสนใจเลือดสดที่ท่วมเต็มปาก ใช้นิ้วชี้ไปทางหลัวซิวพร้อมกับความรู้สึกที่ตะลึงอย่างยิ่ง
เคล็ดตรีภพโกลาหล เป็นเคล็ดวิชาที่ตระกูลหงไม่ถ่ายทอดสู่ผู้คนภายนอก เป็นวรยุทธ์เคล็ดเซียนเพียงหนึ่งเดียวในดาราจักรวาลที่สามารถฝึกร่างเทวอลวนมออกมาได้ หลัวซิวเป็นนักยุทธ์คนหนึ่งที่ไม่ใช่คนในตระกูลหง จะมีทางครอบครองร่างเทวอลวนได้อย่างไร?
“แค่ใช้กฎตรีภพชุบร่างเนื้อก็สามารถกลายเป็นร่างเทวอลวนแล้ว สิ่งที่เคล็ดตรีภพโกลาหลในตระกูลหงของพวกมึงสามารถทำได้ ไม่ได้หมายความว่าผู้อื่นจะทำไม่ได้เสมอไป”
หลัวซิวใช้ความเร็วของปีกเทพไร้มลทินไล่ตามโอรสสวรรค์โชคลาภทันภายในพริบตา ก่อนจะปล่อยหมัดออกไป กำปั้นที่เหมือนดั่งภูเขาเทพที่สูงใหญ่กดอัดจนปริภูมิพังทลายสูญสิ้น
สีหน้าของโอรสสวรรค์โชคลาภเปลี่ยนไปกะทันหัน เขาทราบอยู่ว่าร่างเนื้อของตัวเองเทียบฝ่ายตรงข้ามไม่ติด จึงรีบกวัดแกว่งฟาดฟันกระบี่ตรีภพออกไป
เนื่องจากทั้งสองอยู่ใกล้กันมาก ๆ ความเร็วในการออกกระบี่ของโอรสสวรรค์โชคลาภก็รวดเร็วมาก ๆ เช่นกัน ด้วยเหตุนี้การที่อยากจะหลบกระบี่ในครั้งนี้นั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก
แต่ทว่าสิ่งที่ทำให้ผู้คนไม่คาดคิดคือหลัวซิวไม่ได้ใช้หอกมังกรแดงมืดมาต้านทานกระบี่นี้แต่อย่างใด อย่างไรก็ตามเขากลับดึงกำปั้นกลับมา ใช้มือทั้งสองข้างกำหอกเอาไว้แล้วทิ่มแทงไปกลางหว่างคิ้วโอรสสวรรค์โชคลาภ
“ไม่ประมาณตน!”
เมื่อเห็นกิริยาท่าทางดังกล่าวของหลัวซิว จึงมีรอยยิ้มที่ดุร้ายปรากฏบนใบหน้าโอรสสวรรค์โชคลาภ เขาเป็นฝ่ายฟันกระบี่ออกไปก่อน จากนั้นฝ่ายตรงข้ามถึงจะแทงหอกออกมา กระบี่ของตนต้องตัดสับฝ่ายตรงข้ามได้ก่อนโดยไม่ต้องสงสัยเลย จากพลานุภาพของกระบี่ผงาดตรีภพ ทันทีที่ถูกโจมตีเข้า หากไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตแน่นอน
“ไปตายซะเถอะ!”โอรสสวรรค์โชคลาภตะคอกเสียงดังลั่น ที่เขาร่วมมือกับพระโอรสจ้านเทียนนั้นก็เพื่อวางแผนแย่งชิงหินนิรันดร์ที่อยู่บนตัวคนดังกล่าว ทันทีที่เขาได้รับหินนิรันดร์ ก็เท่ากับยึดกุมสมบัติล้ำค่าสองชิ้นในแดนเทวนิรันกาล อนาคตเขาต้องกลายเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ผู้ไร้เทียมทานที่แข็งแกร่งที่สุดในจักรวาลฟ้าดินแน่นอน!
ฟึ่บ!
ร่างกายของหลัวซิวไม่มีการหลบหลีกเลยแม้แต่น้อย แค่เอียงหัวหลบ ปล่อยให้กระบี่ตรีภพตัดสับลงบนร่างกายตัวเองเต็มที่
ร่างยุทธ์ร่างเนื้อที่เกะกะระรานอย่างเขา เมื่อเผชิญหน้ากับกระบี่ผงาดตรีภพก็ไม่มีกำลังแรงแม้แต่จะต้านทานเช่นกัน ถูกตัดออกเป็นสองท่อนคาที่ เลือดสีแดงสดพุ่งกระฉูด!
อย่างไรก็ตามรอยยิ้มอันดุร้ายบนใบหน้าโอรสสวรรค์โชคลาภก็แข็งทื่อลงไปภายในพริบตาเช่นกัน เนื่องจากหอกมังกรแดงมืดของหลัวซิวยังคงทิ่มแทงเข้ามากลางหว่างคิ้วเขาอย่างไม่หยุดหย่อน ราวกับว่ากิริยาท่าทางและปฏิกิริยาของเขาถูกทำให้ช้าลง ถูกพันธนาการไว้ยังไงอย่างนั้น
กฎห้วงเวลา!
ฉึก!
หอกมังกรแทงทะลุกะโหลกของโอรสสวรรค์โชคลาภภายในพริบตา ศีรษะแหลกละเอียดเป็นชิ้น ๆ เหมือนลูกแตงโมที่ระเบิดแตก อัคคีเทพซิวหลัวและเพลิงทมิฬมรณาลุกโชนขึ้นมาพร้อมกัน ทำให้ร่างกายของเขาถูกแผดเผาจนกลายเป็นฝุ่นผงภายในพริบตา!
“ปัญญาอ่อน!”
หลัวซิวแสยะยิ้มอย่างเยือกเย็นพลางยื่นมือออกไปจับร่างกายอีกท่อนหนึ่งของตัวเองเอาไว้ มีพลังแห่งเกณฑ์โคจรอยู่ในหินนิรันดร์ ซึ่งสามารถเสริมกับร่างอมตะของเขาได้เด่นชัดอย่างยิ่ง ใช้เพียงเวลาสั้น ๆ ร่างเนื้อที่ถูกผ่าออกก็สามารถสมานกันแล้ว
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลล้วนอยู่ในแผนการที่เขาวางไว้
โอรสสวรรค์โชคลาภถูกสังหาร ผลลัพธ์เช่นนี้ล้วนอยู่เหนือการคาดหมายของทุกคน
“ช่างเป็นแผนการที่โหดเหี้ยมยิ่งนัก!”
คนจำนวนไม่น้อยอย่างพากันซี๊ดปาก นอกจากเรื่องที่โอรสสวรรค์โชคลาภถูกสังหารทำให้ผู้คนตกตะลึงแล้ว สิ่งที่ผู้คนยิ่งรู้สึกตะลึงมากกว่าคือดาวร้ายชุดคลุมยาวดำที่ถูกกระบี่ผงาดตรีภพตัดสับจนร่างกายขาดออกเป็นสองท่อนยังไม่ตายอย่างนั้นหรือ!