มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1810
ยกตัวอย่างเช่นยาเซียนระดับ 9 เพียงเม็ดเดียวก็เป็นยาที่นักยุทธ์ราชาเทพช่วงปลายจำนวนมากหายากมาก ๆ แล้ว ทว่ากลับปรากฏในโลกาชั้นฟ้าเป็นจำนวนมาก เริ่มประมูลตั้งแต่หนึ่งร้อยเม็ดเป็นต้นไป
สามารถใช้ยามายกระดับผลการฝึกตน อิงจากพรสวรรค์ปัญญาที่แตกต่างกันออกไปตามบุคคล จำนวนยาที่ต้องการในการบรรลุหนึ่งแดนก็แตกต่างเช่นกัน
หากพรสวรรค์ปัญญาของคนคนหนึ่งดีเยี่ยมมาก ๆ เช่นนั้นต้องการยาเซียนระดับ 9 เพียงสองสามร้อยเม็ดก็สามารฝึกจนบรรลุถึงราชาเทพขั้น 9 แล้ว แต่ถ้าหากเป็นคนที่ปัญญาไม่ดี เช่นนั้นต่อให้ทุ่มด้วยยาเซียนระดับ 9 ที่มากเพียงใด ก็ฝึกจนบรรลุถึงแดนราชาเทพระดับ 9 ได้ยากมาก ๆ
ทว่าอัจฉริยะที่พรสวรรค์ปัญญายอดเยี่ยมนั้น ไม่ว่าจะอยู่ในโลกามนุษย์หรือโลกาชั้นฟ้า ล้วนเป็นกลุ่มคนที่จำนวนน้อยมาก ๆ ดังนั้นสมบัติอย่างยาเซียนระดับ 9 จึงเป็นที่ต้องการมาก ๆ คนจำนวนมากต่างพากันประมูล ภายในงานร้อนระอุอย่างยิ่ง
เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วระดับของสมบัติที่ปรากฏในช่วงแรก ๆ ของงานจะค่อนข้างต่ำ มียาเซียนระดับ 9 วัตถุดิบในการหลอมอาวุธระดับ 9 ผังค่ายระดับ 9 ต่าง ๆ นานา และมีม้วนหยกที่มีพลังอมตะจารึกอยู่ภายในปรากฏบ้างเป็นครั้งคราว
หลังจากช่วงแรกของงานประมูลเสร็จสิ้นไปแล้ว ก็เข้าสู่ช่วงกลางของงานประมูล และพบกับช่วงที่เด็นที่สุดของงานในทันที สมบัติที่ปรากฏ ณ วินาทีนี้บรรลุถึงระดับมกุฎแล้ว
สมบัติระดับมกุฎที่หมายถึงนั้น ไม่ใช่ว่ามีเพียงผู้แข็งแกร่งมกุฎเทพเท่านั้นถึงสามารถใช้งานได้ ในจำนวนสมบัติทั้งหมด มีสมบัติบางส่วนที่มีทั้งราคาและมีประโยชน์ต่อราชาเทพสูงมาก ๆ เช่นกัน ยิ่งกว่านั้นคือมีโอกาสทลายประตูแห่งกฎเกณฑ์ บรรลุสู่แดนมกุฎเทพได้ด้วย
“อัคคีเทพเพลิงดารา!”
การปรากฏของสมบัติระดับมกุฎชิ้นแรก ก็ก่อให้เกิดเสียงอุทานไม่น้อยในงานประมูลทันที
เปลวไฟที่ถูกหล่อเลี้ยงโดยกฎฟ้าดินจะกลายเป็นภูตอัคคีก่อน ต่อมาหลังจากผ่านการเปลี่ยนแปลงและวิวัฒนาการจากกาลเวลาที่ยาวนานแล้ว ถึงจะสามารถกลายเป็นอัคคีเทพได้
มีเพียงกฎฟ้าดินดั้งเดิมที่สมบูรณ์แบบมากกว่าอย่างมหาโลกาพันสาม ถึงจะสามารถหล่อเลี้ยงอัคคีเทพพรสวรรค์ออกมาได้
อัคคีเทพพรสวรรค์แบ่งออกเป็น ฟ้า ดิน ดำ เหลือง สี่ระดับ ในทุก ๆ ระดับก็แบ่งออกเป็นล่าง กลาง สูงและระดับสี่ชั้น
บัดนี้อัคคีเทพเพลิงดาราที่ปรากฏในงานประมูลดาราจันทรา คืออัคคีเทพพรสวรรค์ระดับดำชั้นกลางหนึ่งดวง
“อัคคีเทพเพลิงดาราระดับดำชั้นกลาง มูลค่าของมันอยู่ที่เท่าไหร่นั้น คิดว่าข้าไม่ต้องกล่าวทุกท่านก็น่าจะทราบกันดี ราคาขั้นต่ำคือแก้วเทวชั้นสูงหนึ่งล้านชิ้น การประมูลในทุก ๆ ครั้งราคาที่ประมูลต้องไม่ต่ำกว่าหนึ่งแสน!”
สมบัติระดับมกุฎเป็นสิ่งที่ไม่สามารถใช้แก้วเทวชั้นกลางมาประมาณค่าได้ แค่ราคาขั้นต่ำของมันก็เท่ากับแก้วเทวชั้นสูงหนึ่งล้านชิ้นแล้ว ซึ่งเทียบเท่าแก้วเทวชั้นกลางหนึ่งพันล้าน
เสียงของนักประมูลสาวยังไม่ทันได้จบลง ราคาก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ขึ้นถึงแก้วเทวชั้นสูงสี่ล้านชิ้นอย่างรวดเร็ว!
ก่อนหน้านี้ ของขลังอาวุธสงครามสิบกว่าชิ้นนั่นของหลัวซิวล้วนถูกประมูลไปแล้ว มูลค่าทั้งหมดรวมกันสามารถแลกเปลี่ยนเป็นแก้วเทวชั้นสูงในงานประมูลได้เพียงหนึ่งล้านชิ้นเท่านั้น
ภายในห้องที่นั่งพิเศษห้องหนึ่งที่ลอยอยู่กลางนภางานประมูล ตรงมุมปากของเซียวเฟยมีรอยยิ้มที่สุภาพอ่อนโยนปรากฏ
“หงเฟย อัคคีเทพพรสวรรค์ดวงนี้ถือว่าไม่เลวเลย จากระดับความเข้ากันในกฎเพลิงอัคคีของเจ้า น่าจะสามารถกลั่นแปรมันได้อยู่”เซียวเฟยยิ้มพลางพูดกับหงเฟยที่อยู่ข้างกาย
แววตาของหงเฟยสั่นไหวเล็กน้อย นางต้องการอัคคีเทพดวงนี้มากจริง ๆ อัคคีเทพพรสวรรค์ระดับดำชั้นกลาง มาตรแม้นว่าราชาเทพขั้น 9 หรือกึ่งมกุฎเทพที่ฝึกกฎเพลิงอัคคี ก็แทบจะไม่มีโอกาสสามารถกลั่นแปรมันสำเร็จได้เลย
ทว่านางไม่เหมือนคนเหล่านั้น ระดับความเข้ากันของนางที่มีต่อกฎเพลิงอัคคีนั้นสูงมาก ๆ อ้างอิงจากคำพูดของอาจารย์นาง ราวกับว่าเนื่องจากนางปลุกตื่นสายเลือดโบราณของเทพหงส์โบราณบางอย่าง ถึงแม้ผลการฝึกตนของนางจะเพิ่งบรรลุถึงราชาเทพได้ไม่นาน แต่ก็มีโอกาสกลั่นแปรอัคคีเทพดวงนี้ได้สูงมาก ๆ เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว ผลการฝึกตนและศักยภาพของนางต้องสามารถก้าวทะยานภายในระยะเวลาที่สั้นมากได้แน่นอน