มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1796
ต้องท้าวความก่อนว่าตอนนั้นเขาได้ใช้ภัณฑ์ต้องห้ามที่ล้ำค่าชิ้นหนึ่งโดยไม่เสียดายว่าต้องแลกกับอะไร ถึงสามารถตัดหนวดเส้นหนึ่งของอสูรกลืนดาราลงมาได้ หากนำหนวดเส้นนั้นมาภัณฑ์กลั่น ต้องเป็นวัตถุดิบระดับเจ้ายุทธจักร ชั้นสุดยอดอย่างแน่นอน
แต่ทว่าเมื่อนั้นเขายังไม่ทันได้ปลีกตัวออกมาเก็บหนวดของอสูรกลืนดารา หนวดที่ตกลงไปในดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ก็หายวับไปแล้ว เห็นได้ชัดเจนเลยว่าถูกคนของเรืออนัตตาทั้งสองลำแย่งไป
เช่นนั้นในเมื่อไม่อยู่บนเรืออนัตตายอดอัมพรหมายเลข 3 หรือว่าถูกคนของสรรพหมายเลข 6 ได้ไป?
บนสรรพหมายเลข 6 ก็มีผู้อาวุโสชุดคลุมยาวม่วงคอยปกปักรักษาอยู่คนหนึ่งเช่นกัน ซึ่งมีศักยภาพเทียบเท่าเขา หากถูกฝ่ายตรงข้ามได้รับไปจริง ๆ การที่จะขู่เข็ญเอากลับมานั้นก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เช่นกัน
เขาจึงรีบหยิบม้วยหยกออกมาหนึ่งชิ้น ร่ายข่าวคราวหนึ่งเข้าไปภายในม้วนหยกเพื่อสอบถาม
และได้รับการตอบกลับจากฝ่ายตรงข้ามอย่างรวดเร็ว ทว่าเห็นได้ชัดเจนเลยว่าผลของคำตอบไม่สามารถทำให้สวี่เสวียนอานรู้สึกพึงพอใจได้ ดังนั้นเขาจึงขมวดคิ้วแน่นมากยิ่งขึ้น มีชี่โหดเสี้ยวหนึ่งลอยออกมาจากกลางหว่างคิ้ว
หลัวซิวไม่ทราบแต่อย่างใดว่าเนื่องจากเขาเอาหนวดของอสูรกลืนดาราไป จึงส่งผลให้กระตุ้นความขัดแย้งระหว่างผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพสองคน ในส่วนมุมมองของเขานั้น สาเหตุที่หนวดอสูรกลืนดาราร่วงตกลงมาจากห้วงดารานั้น เป็นเพราะผู้แข็งแกร่งจ้าวมหาเทพทั้งสองต่างไม่ถูกใจสิ่งนี้
หลังจากผ่านเรื่องแทรกของดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ไปแล้ว เรืออนัตตาก็บินสุดความเร็ว ระหว่างทางได้เดินทางผ่านโลกะธาตุดาวอีกหลายใบ
ในช่วงเวลานี้ล้วนเงียบสงบมาก ๆ เรื่องที่เขาสังหารผู้ดูแลชุดคลุมยาวเงินก็ไม่ก่อให้เกิดความวุ่นวายอะไรบนเรืออนัตตาเช่นกัน เนื่องจากผู้ดูแลชุดคลุมยาวเงินบนเรืออนัตตามีเยอะมาก การที่เสียชีวิตขณะสำรวจดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์นั้นก็เป็นเรื่องปกติมาก โทษได้เพียงศักยภาพของพวกเขาไม่เพียบพร้อม ระดับสูงของเรืออนัตตาเบื่อที่จะไปตรวจสอบสาเหตุการตายของพวกเขาซะอีก
การออกเดินทางจากโลกะดาราคุนหลุนจนกระทั่งถึงมหาโลกายอดอัมพร กินเวลาไปสามปีแล้ว
มีผังค่ายสีมาเพลาที่หลัวซิวกลั่น ฉียู่หรงฝึกตนจนบรรลุถึงแดนราชาเทพขั้น 9 ในรวดเดียว ผลสำเร็จเช่นนี้เป็นสิ่งที่นางในอดีตไม่กล้าแม้แต่จะคิด ดังนั้นจิตใจนางจึงเปี่ยมล้นไปด้วยความรู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของหลัวซิวมากยิ่งขึ้น
นางเข้าใจดีมาก ๆ ว่าหากไม่มีการช่วยเหลือจากหลัวซิว ภายในระยะเวลาสามปี การที่นางสามารถยกระดับถึงราชาเทพขั้น 8 ได้นั้นก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่เลวมาก ๆ แล้ว
ในส่วนผลการฝึกตนของหนิงหานยู่นั้นกลับยังคงอยู่ที่เจ้านภาขั้นสุดยอด มีการชี้แนะจากหลัวซิวด้วยตนเอง นางแทบจะเข้าใจคัมภีร์วิหารเทวนิรันดร์จนกระจ่างชัด แต่ทว่าเนื่องจากหลัวซิวไม่มีภาคต่อของคัมภีร์วิหารเทวนิรันดร์ ดังนั้นนางจึงไม่บรรลุถึงแดนราชาเทพตลอดมา
แต่ทว่าแม้ผลการฝึกตนจะยังคงเป็นเจ้านภาขั้นสุดยอด แต่ศักยภาพของหนิงหานยู่แทบจะเทียบเท่าฉียู่หรงแล้ว
ซึ่งฉียู่หรงไม่ทราบจุดนี้แต่อย่างใด มิเช่นนั้นละก็นางคงต้องช็อกมากจนพูดไม่ออกแน่นอน
ยิ่งกว่านั้นคือแม้กระทั่งตัวหนิงหานยู่เองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าตนแข็งแกร่งถึงขั้นที่มีศักยภาพก้าวข้ามผ่านหนึ่งแดนใหญ่แล้ว นางทราบแค่เพียงศักยภาพของตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และถึงจุดตีบตันแล้ว
“นี่ต่างหากอัจฉริยะสวรรค์ประทาน”
พรสวรรค์ด้านกฎชีวิตของหนิงหานยู่ทำให้หลัวซิวยังรู้สึกอิจฉาเล็กน้อย หากถ่ายทอดคัมภีร์วิหารเทวนิรันดร์ฉบับสมบูรณ์ครบถ้วนให้นางละก็ โดยส่วนใหญ่แล้วในอนาคตยัยหนูนี่สามารถฝึกถึงแดนจักรพรรดิเทพได้อย่างราบรื่นแน่นอน
ในส่วนของตัวหลัวซิวเองนั้น จุดตันเถียนชี่ไห่ผนึกรวมกฎดาราได้อีกสี่ดวงแล้ว ผลการฝึกตนยกระดับถึงแดนเทพฟ้าขั้น 6
แดนขั้นที่ 2 ของเคล็ดแสงดาวเทียนเต้า จำเป็นต้องผนึกรวมกฎดาราทั้งหมด 18 ดวง ปัจจุบันหลัวซิวผนึกรวมได้ 12 ดวงแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือผนึกรวมกฎดาราการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลาอีกสี่ดวง เช่นนั้นผลการฝึกตนก็ต้องบรรลุถึงเทพฟ้าขั้น 7 อย่างแน่นอน
ทันทีที่บรรลุถึงเทพฟ้าขั้น 7 เช่นนั้นก็ต้องผ่านการล้างบาปจากทัณฑ์สายฟ้าพิโรธอีกครั้ง ศักยภาพจะแข็งแกร่งขึ้นและก้าวเข้าสู่ฟ้าดินที่ใหม่เอี่ยม