มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1514
หลัวซิวเน้นให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิ์ในการมุ่งไปสู่โลกะอัมพรเทว เพื่อทำความเข้าใจกับทุก ๆ ด้านให้มากยิ่งขึ้น
ศึกการช่วงชิงสิทธิ์ที่ว่านั้น กองกำลังใหญ่ราชาเทพทั้งห้าต่างส่งคนเข้าร่วมสามคน กองกำลังใหญ่ทั้งห้าล้วนเป็นรองเพียงผู้แข็งแกร่งราชาเทพเท่านั้น ทุกคนล้วนเป็นกึ่งราชาเทพ
เนื่องจากศึกสงครามครั้งยิ่งใหญ่เมื่อหลายปีที่ผ่านมาจนนับไม่ถ้วนในอดีต ทำให้ค่ายวาร์ฟล่องหนได้รับความเสียหายอย่างมาก ค่ายวาร์ฟจะถูกเปิดในรอบร้อยปี ทุก ๆ ครั้งจะส่งคนมุ่งไปสู่โลกะอัมพรเทวได้เพียง 58 คน
จำนวนทั้ง 58 คนนี้ ต้องช่วงชิงอันดับในหมู่ผู้แข็งแกร่งทั้งหมด 15 อันดับ
ผู้ที่ได้รับการรับอันดับ 1 จะได้รับสิทธิ์ในการมุ่งไปยังโลกะอัมพรเทว 20 สิทธิ์ อันดับ 2 ได้รับ 15 สิทธิ์ อันดับ 3 ได้รับ 10 สิทธิ์ ส่วนอันดับที่ 4 นั้นจะได้รับเพียงสองสิทธิ์เท่านั้น ส่วนอีก 14 คนที่จะได้รับเพียงคนละสิทธิ์เท่านั้น
ศึกการช่วงชิงสิทธิ์ สามารถแสดงให้เห็นถึงกำลังรบระดับชั้นยอดของสำนักราชาเทพ และเป็นตัวการที่แสดงให้เห็นเช่นกันว่ากองกำลังใหญ่ราชาเทพทั้งห้า กองกำลังใดแข็งแกร่งกองกำลังใดอ่อนแอ
มีเพียงการได้รับอันดับหนึ่งถึงสาม ถึงจะได้รับผลประโยชน์ที่ดีที่สุด ทว่าอย่างแย่สุดก็ได้รับสามสิทธิ์อยู่
โดยทั่วไปแล้วการจัดสรรสิทธิ์นั้น จะประทานให้แก่อัจฉริยะที่มีพรสวรรค์และศักยภาพดีที่สุด เช่นนี้เมื่อมุ่งหน้าไปสู่โลกะอัมพรเทวแล้ว ถึงจะมีโอกาสก้าวข้ามขึ้นไปสู่แดนที่สูงขึ้น เมื่อมีผลสำเร็จที่แน่นอน หลังจากที่ผลการฝึกตนเริ่มเลื่อนขึ้นยาก ค่อยย้อนกลับมายังสำนักของตนในโลกาดาราอุดร
เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไปยังโลกะอัมพรเทวแล้วไม่กลับมาอีก สิทธิ์จึงจะถูกจัดสรรให้แก่ศิษย์ที่จงรักภักดีต่อสำนักมากที่สุด คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางได้รับเลย
ในฐานะที่เป็นเค่อชิง ความรู้สึกของการที่อยากย้อนกลับสำนักนั้นต้องมีไม่มากเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว ด้วยเหตุนี้ในฐานะที่เป็นเค่อชิง จึงจำเป็นต้องฝ่าฟันขึ้นไปถึงอันดับหนึ่งในสี่ให้ได้ ถึงจะได้รับสิทธิ์ในการมุ่งไปยังโลกะอัมพรเทว มิเช่นนั้นหากมีเพียงสิทธิ์เดียวละก็ ผู้อาวุโสเค่อชิงจะไม่ได้รับสิทธิ์นั้นแน่นอน
ผลการฝึกตนของท่านโกวบรรลุถึงกึ่งราชาเทพ เดิมทีเขากะจะใช้โอกาสในครั้งนี้ ได้รับโอกาสในการมุ่งไปยังโลกะอัมพรเทว ทว่ากลับนึกไม่ถึงเลยว่าการปรากฏตัวของหลัวซิวจะทำให้เขาต้องรอคอยอีกร้อยปี!
ระยะเวลาร้อยปีดูเหมือนจะไม่ยาวนาน แต่ทว่าสำหรับผู้แข็งแกร่งที่อายุไขใกล้จะสูญสิ้น มันกลับเป็นช่วงเวลาที่ล้ำค่าอย่างหาที่สุดไม่ได้
ยกตัวอย่างเช่นคนอย่างท่านโกว
หลังจากกลายเป็นผู้อาวุโสเค่อชิงแล้ว หลัวซิวก็ได้รับถ้ำแห่งหนึ่งบนเขากงเผิง สถานที่ดังกล่าวมีค่ายกลรวมทิพย์จัดวางอยู่ ชี่ทิพย์จึงเข้มข้นอย่างมาก ซึ่งเหมาะกับการเพ็ญตน
หลังจากท่านโกวนั่นพ่ายแพ้อย่างย่อยยับปนปี้ เขาก็ฝึกตนปิดขังมาโดยตลอด
ระยะเวลาก่อนถึงศึกการช่วงชิงสิทธิ์ยังเหลืออีกสามปี เดิมทีผู้ที่ถูกกำหนดให้เข้าร่วมการช่วงชิงนั้นคือท่านเจิ้ง ท่านโกวรวมไปถึงจินหลิงหยุน
ภายในวังกระบี่แห่งหนึ่ง ท่านเจิ้งที่ใบหน้าดุจชายวัยกลางคนกำลังมองดูม่านแสงที่สะท้อนออกมาจากม้วนหยกชิ้นหนึ่ง และสิ่งที่ปรากฏให้เห็นด้านบนก็คือภาพที่หลัวซิวและท่านโกวต่อสู้กัน
“อย่างน้อยสุดกำลังรบของคนดังกล่าวก็อยู่ที่กึ่งราชาเทพ ยิ่งกว่านั้นคือเขาอาจอยู่ช่วงกลางก็เป็นได้!”
ผู้อาวุโสทั้งสามแห่งตระกูลโจวเป็นรองเพียงราชาเทพ ซึ่งท่านเจิ้งเป็นผู้ที่ศักยภาพแข็งแกร่งมากที่สุด
กึ่งราชาเทพนั้นเป็นแดนพิเศษที่อยู่ระหว่างเจ้านภาชั้นยอดและราชาเทพ แต่ทว่าเมื่ออยู่ในแดนดังกล่าว ศักยภาพก็มีการแบ่งแข็งแกร่งและอ่อนแอเช่นกัน อิงจากระดับความสูงต่ำของแดนกฎดั้งเดิม เมื่อความแข็งแกร่งและอ่อนของเคล็ดวิชาพลังอมตะที่ฝึกต่างกัน ศักยภาพก็จะแตกต่างกันอย่างมาก
ดังนั้นจึงมีการแบ่งออกเป็นขั้นปฐมภูมิ ช่วงกลาง ช่วงปลายและขั้นสูงสี่ระดับ ซึ่งไม่ละเอียดดั่งทั้ง 9 ขั้นในแดนใหญ่
“หากเป็นช่วงปลาย เช่นนั้นก็พอมีสิทธิ์ฝ่าฟันถึงอันดับหนึ่งถึงสี่อยู่”ชายที่ดูข้างหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างกายท่านเจิ้งยิ้มพลางพูด
ผู้อาวุโสทั้งสามแห่งตระกูลโจว ท่านเหวินคือคนแก่ ท่านเจิ้งคือวัยกลางคน มีเพียงท่านฮั่วผู้นี้เท่านั้นที่ดูหนุ่ม
การที่เป็นเช่นนี้นั้นไม่ได้หมายความว่าช่วงอายุของพวกเขาแตกต่างกันมาก แต่เป็นเพราะวรยุทธ์พลังอมตะที่ฝึกนั้นแตกต่างกัน
ในผู้อาวุโสทั้งสาม ผลการฝึกตนของท่านเจิ้งสูงที่สุด กำลังรบแข็งแกร่งที่สุด เป็นผู้แข็งแกร่งกึ่งราชาเทพขั้นสูง
ส่วนท่านเหวินและท่านฮั่วนั้นก็อยู่ในกึ่งราชาเทพช่วงปลายเช่นกัน มิเช่นนั้นพวกเขาไม่มีทางนั่งอยู่บนตำแหน่งผู้อาวุโสทั้งสามได้มั่นคงแน่นอน
นอกเหนือจากพวกเขาทั้งสามแล้ว ภายในสำนักเทียนเจี้ยนก็เหลือเพียงจินหลิงหยุนผู้เดียวเท่านั้นที่เป็นกึ่งราชาเทพ แต่ทว่าช่วงเวลาที่จินหลิงหยุนบรรลุเป็นกึ่งราชาเทพนั้นค่อนข้างสั้น อยู่กึ่งราชาเทพขั้นปฐมภูมิ แต่ศักยภาพของเขากลับสามารถเทียบทัดกับกึ่งราชาเทพช่วงกลางได้