มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1505
ดวงดาวทั้งเก้าดวงลอย ๆ ขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่ภายในวงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพลอยอยู่หลังศีรษะ หอกยุทธ์มังกรดำลอยอยู่ข้างกาย
ภายใต้การชุบจากพลังทัณฑ์สายฟ้า วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพแตกสลายติดต่อกันหลายครั้ง แต่ทว่าทุกครั้งที่แตกสลายและผนึกรวมกันใหม่ พลังออร่าของมันก็จะยิ่งใหญ่และลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
ดวงดาวทั้งเก้าดวงก็กำลังอาบอยู่ในแสงอัสนีเช่นกัน แสงอัสนีทั้งหมดลอยวนเป็นเกลียวขึ้นไปอยู่รอบดวงดาว ต่างกำลังผ่านการล้างบาปโดยทัณฑ์สายฟ้าเช่นกัน
ซึ่งนี่คือแรงบันดาลใจที่ได้จากดวงโบราณที่จ้าวมหาเทพแสงดาวทิ้งไว้ จ้าวมหาเทพแสงดาวนั่นนำดาราชีวีทั้ง 18 ดวงในเคล็ดแสงดาวเทียนเต้ามากลั่นเป็นสมบัติ หลัวซิวก็ใช้วิธีแบบเดียวกัน ปล่อยให้ดาราชีวีและร่างตนฝ่าฟันทัณฑ์สายฟ้าพร้อม เติบโตพร้อมกัน
นอกเหนือจากนี้แล้ว แม้เนื้อแท้ของดวงดาวที่ผนึกรวมได้จากเคล็ดวิชาจุดลมปราณ จะแตกต่างจากดวงดาวที่ผนึกรวมได้จ้าเคล็ดแสงดาวเทียนเต้า แต่ทว่าหลักการของวิชาทั้งสองเชื่อมโยงถึงกัน ภายใต้การชุบจากทัณฑ์สายฟ้า พลังแห่งโลกาก็รัดกุมและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ในส่วนของระฆังเทพฟ้ากำหนดนั้น มันกลับไม่สามารถต้านทานทัณฑ์สายฟ้าระดับนี้ได้ด้วยซ้ำ จึงไม่เกิดประสิทธิผลด้านการชุบ
วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพแบกรักกฎการเวียนว่ายตายเกิด ดาราชีวีแบกรับผลการฝึกตนและร่างเนื้อ หอกยุทธ์มังกรดำคืออาวุธสงครามของเขา วิถียุทธ์ของหลัวซิวยังขาดสิ่งที่ใช้สำหรับแบกรับกฎห้วงเวลา
อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับกฎการเวียนว่ายตายเกิดแล้ว กฎห้วงเวลาจะคาดคะเนได้ยากมากกว่า การที่จะหาสิ่งของวัตถุเพื่อมาแบกรับกฎห้วงเวลานั้น ยังต้องมีจังหวะและโอกาสด้วย
ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธทำให้นักยุทธ์ต่างเกรงกลัวดุจเสือ ทั้ง ๆ ที่คนจำนวนมากต่างมีผลการฝึกตนและศักยภาพในการทำลายประตูแห่งกฎเกณฑ์แล้ว ทว่ากลับไม่กล้าบรรลุสักที ต้องเตรียมสมบัติที่ใช้สำหรับการข้ามผ่านทัณฑ์ให้พร้อมก่อนถึงจะกล้าบรรลุ
อัตราการข้ามผ่านทัณฑ์ของนักยุทธ์ไม่สูงอย่างแน่นอน อีกทั้งยิ่งผลการฝึกตนสูงเท่าไหร่ อัตราการข้ามผ่านทัณฑ์สำเร็จก็ยิ่งต่ำมากเท่านั้น
จากเจ้ายุทธจักรถึงมหาจักรพรรดิยุทธ์ หากบอกว่าจากเจ้ายุทธจักรทั้งหมดหนึ่งร้อยคน มีจำนวนคนครึ่งหนึ่งที่สามารถบรรลุสำเร็จ เช่นนั้นในมหาจักรพรรดิยุทธ์ร้อยคนที่สามารถกลายเป็นเทพมารได้นั้น จะมีเพียงประมาณสามส่วนเท่านั้น
จนกระทั่งถึงช่วงปลาย จำนวนเทพฟ้าขั้นสูงร้อยคน ก็เป็นการยากมากที่คนคนหนึ่งจะบรรลุสู่แดนราชาเทพได้
และตั้งแต่โบราณกาลจวบจนปัจจุบัน ทัณฑ์สายฟ้าพิโรธที่ขึ้นชื่อว่าข้ามผ่านยากมากที่สุด ก็คือทัณฑ์มหาจักรพรรดิยุทธ์
ในดาราจักรวาล หนึ่งล้านล้านปีถึงจะกำเนิดจักรพรรดิเทพองค์หนึ่ง เท่านี้ก็เพียงพอที่จะทำให้เห็นแล้วว่าการจะข้ามผ่านทัณฑ์มหาจักรพรรดิยุทธ์นั้นมันยากลำบากมากเพียงใด
สำหรับหลัวซิวแล้ว ทัณฑ์มหาจักรพรรดิยุทธ์ยังห่างไกลจากเขามากอย่างหาที่สุดไม่ได้ ทัณฑ์แห่งเทพมารขั้น 4 ในวินาทีนี้กลับไม่เป็นปัญหาสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อย สามารถข้ามผ่านไปได้อย่างสบาย ๆ
หลังจากผ่านการชุบโดยทัณฑ์สายฟ้าแล้ว ดวงดาวทั้งเก้าก็รัดกุมมากยิ่งขึ้น ผิวภายนอกของดวงดาวมีลายเส้นที่พิเศษสลักอยู่ มีความลี้ลับของกฎฟ้าดินซ่อนอยู่
วงล้อชีวิตแห่งเหล่าเทวเทพแตกสลายแล้วกลับมาผนึกรวมกัน ผนึกรวมกันแล้วกลับไปแตกสลายอีก เหมือนดั่งวัฏสงสารระหว่างการเกิดและการตาย ความลึกซึ้งที่ไม่อาจคาดคะเนได้ ส่งสัญญาณว่าเริ่มเข้าใกล้แดนกฎดั้งเดิมขั้น 3 แล้วยังไงอย่างนั้น
ปัจจุบันตัวต้องห้ามของหอกยุทธ์มังกรดำถูกปลดผนึกแล้ว บรรลุถึงระดับอัญเทพฟ้า เดิมทีมีเพียงธาตุใหญ่ทั้งสองธาตุอย่างความตายและปริภูมิเท่านั้น แต่ปัจจุบันมันกลับถูกหลัวซิวใช้วิถีของตนสลักลงไป ครอบคลุมทั้งการเวียนว่ายตายเกิดและห้วงเวลา
ครั้นเมื่อเขาได้รับหอกเล่มนี้มาใหม่ ๆ มันเป็นเพียงของขลังพรสวรรค์ที่อยู่เคียงข้างเส้นทางการเติบโตของเขา
นี่คือศาสตราวุธชิ้นหนึ่งที่สามารถวิวัฒนาการได้เชียวนะ ทุกครั้งจะมีต้องห้ามขั้นเก้าปรากฏ หลังจากปลดผนึกตัวต้องห้ามทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ก็จะมีต้องห้ามขั้นเก้าปรากฏอีก ส่งผลให้พลานุภาพของมันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
และปัจจุบันบนหอกก็มีต้องห้ามขั้นเก้าปรากฏขึ้นมาอีก แต่ทว่ากลับต้องใช้แดนกฎดั้งเดิมขั้น 4 ถึงจะสามารถปลดผนึกตัวต้องห้ามได้
ทันทีที่ปลดผนึกสำเร็จ หอกยุทธ์มังกรดำก็จะแปรเปลี่ยนอีกครั้ง กลายเป็นราชาแห่งศัสตราวุธ!
คนจำนวนมากต่างสัมผัสได้ถึงพลังออร่าของหลัวซิวที่มั่นคงถึงขีดสุด เหมือนดั่งเหวลึกมหาสมุทร ลึกซึ้งมากจนไม่อาจคาดเดาได้
“ทุกคนแยกย้ายกันเถอะ”
จินหลิงหยุนค่อย ๆ เอ่ยปากพูด บนตัวเขามีความน่าเกรงขามที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าของผู้แข็งแกร่งกึ่งราชาเทพซ่อนอยู่