มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1478
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1478
หลัวซิวสามารถมองเห็นได้ลาง ๆ ว่าทอร์นาโดสีดำที่อยู่ภายในกำลังพัดโหมกระหน่ำอย่างรุนแรง และมีสายฟ้าสีดำผ่าสลับไปมาอยู่เป็นระยะ มีพลังออร่าที่ทำให้จิตใจผู้คนหวาดกลัวแผ่กระจายออกมา
ในบรรดากฎทั้งหลายของจักรวาลดั้งเดิม กฎที่หลัวซิวไม่กลัวมากที่สุดก็คือกฎชีวิตและกฎความตาย เสี้ยววินาทีที่พบเห็นเขตพื้นที่ดังกล่าว ก็มีความคิดที่กล้าหาญความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวเขา
บางทีเขาอาจจะสามารถอาศัยข้อดีของเขตพื้นที่แห่งนี้มาจัดการเจ้าเมืองเมืองฟ้าเยือกอย่างจี้เฟิงก็เป็นได้!
สำหรับผู้อื่นแล้ว ที่แห่งนี้เป็นเขตต้องห้ามที่อันตรายและน่ากลัวถึงขีดสุด แต่ทว่าเขากลับเหมือนดังกระดี่ได้น้ำ ไม่ถูกกฎความตายที่อยู่ภายในกระทบ
และหากจี้เฟิงเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ ศักยภาพของเขาก็จะถูกกระทบ ถูกจำกัดในทุก ๆ ด้าน บางทีนี่อาจเป็นโอกาสอันดีเยี่ยมที่เขาสามารถจัดการจี้เฟิงได้
ทันใดนั้นรูม่านตาของหลัวซิวก็หดลง เนื่องจากเขาสัมผัสได้ถึงพลังออร่าที่ยิ่งใหญ่และมากมายมหาศาลพลังหนึ่ง กำลังพุ่งใกล้เข้ามาทางนี้ด้วยความเร็วที่รวดเร็วมาก ๆ
เขาไม่ต้องคิดก็รู้แล้วว่าเจ้าของพลังออร่าดังกล่าว ต้องเป็นราชาเทพจี้เฟิงอย่างแน่นอน!
“ดูจากสิ่งที่บันทึกบนม้วนหยกที่ข้าได้รับครั้นเมื่ออยู่ในเมืองฟ้าเยือก ในเขตพื้นที่ที่ดาวมรณะเหล่านี้รวมตัวกัน ต่อให้เป็นจี้เฟิง เขาก็ไม่กล้าย่างกรายเข้ามาง่าย ๆ อย่างแน่นอน เพียงพอที่จะทำให้เห็นแล้วว่าที่แห่งนี้อันตรายมากเพียงใด……”
ความคิดนี้กระพริบผ่านไปในหัวหลัวซิว หลัวซิวเก็บอสูรดูดจิตโบราณกลับเข้าไปในโลกาจุดลมปราณ จากนั้นเขาก็ใช้ความเร็วที่เร็วที่สุดของปีกเทพมังกรครามยักษ์ บินตรงไปยังสถานผนึกดารามรณะ
“ฆ่าศิษย์ข้า ไม่ว่าเจ้าจะเป็นผู้ใด ก็ต้องตาย!”
เสียงของจี้เฟิงดังสนั่นปานฟ้าร้อง เขาอยู่ในชุดสีดำ หนวดเคราและเผ้าผมปลิวลอย พลังออร่ารอบกายมากมายมหาศาล
เขาเห็นเองกับตาเลยว่าหลัวซิวบินตรงไปยังสถานผนึกดารามรณะ บนใบหน้าจึงมีรอยยิ้มอันเยือกเย็นที่ดูเหยียดหยามปรากฏ“เจ้าคิดว่าหลบหนีเข้าไปในที่แห่งนั้น แล้วจะปลอดภัยอย่างนั้นหรือ?”
เงาร่างของจี้เฟิงกระพริบ และไล่ตามเข้าไป
“โครม! โครม! โครม! ……”
เสี้ยววินาทีที่ทั้งสองเข้าไปในสถานผนึกดารามรณะตามลำดับ กฎความตายที่มหาศาลก็ระเบิดออกมา ก่อเป็นทอร์นาโดและสายฟ้าที่น่ากลัว
ภายใต้การซัดกระหน่ำอย่างรุนแรงของสายฟ้าและทอร์นาโด มาตรแม้นว่าหลัวซิวจะไม่เกรงกลัวการกัดกร่อนจากกฎความตาย แต่ทว่าเขาก็เลือดอาบท่วมตัวเช่นกัน ถูกพลังที่เกะกะระรานโจมตีจนบาดเจ็บ
ในวันทั่วไปที่นี่จะเงียบสงบมาก ๆ และทันทีที่มีอสูรจิตเข้าไปภายใน พลังทั้งหมดก็จะระเบิดออกมา อีกทั้งนักยุทธ์ที่ผลการฝึกตนยิ่งสูง แรงระเบิดจากกฎความตายก็ยิ่งมาก
ด้วยเหตุนี้หลังจากที่จี้เฟิงเข้ามาแล้ว ทอร์นาโดมรณะและอัสนีมรณะที่ซัดกระหน่ำเข้ามาหาเขา จึงมีมากกว่าทางหลัวซิวมาก ๆ!
บนตัวจี้เฟิงมีเกราะนักยุทธ์สีเขียวปรากฏ ถึงแม้เขาก็เกรงกลัวสถานผนึกดารามรณะเล็กน้อย เขากลับมีศักยภาพในการคุ้มกันชีวิตตัวเองอยู่
ทว่าวินาทีต่อไป สีหน้าของจี้เฟิงก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เนื่องจากเขานึกไม่ถึงเลยว่าหลัวซิวที่อยู่ข้างหน้าไม่ได้หลบหนีต่อ แต่เป็นการหันหน้ากลับมา กำหอกที่อยู่ในมือโจมตีเข้ามาทางเขา
“เจ้าสามารถต้านทานทอร์นาโดมรณะและอัสนีมรณะของที่นี่ได้อย่างนั้นหรือ?”
จี้เฟิงรู้สึกตะลึงงันเล็กน้อย วินาทีนี้แม้ร่างหลัวซิวจะเลือดอาบท่วมตัว แต่ในความเป็นจริงทั้งหมดล้วนเป็นเพียงแผลภายนอกเท่านั้น ซึ่งเขาสามารถมองข้ามไม่สนใจได้โดยสิ้นเชิง
“นัดเดียวนิพพาน!”ทุ่มสุดกำลังสามารถในการโจมตีเดียว ด้านหลังมีดวงดาวสามดวงเป็นประกายระยิบระยับ ดวงหนึ่งอยู่ด้านล่าง อีกสองดวงอยู่ด้านบน แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
ในขณะเดียวกัน เขาก็โคจรสองมหาอิทธิฤทธิ์อย่างเทพสงครามไร้เทียมทานและพลังแปรเสวียนเทียนพร้อมกันด้วย เพื่อเพิ่มพลานุภาพของการโจมตีนี้
“ทักษะกระจอกงอกง่อย”
จี้เฟิงดูถูกอย่างมาก ถึงแม้หอกนี้ของหลัวซิวจะอัดแน่นไปด้วยพลังที่มากมายมหาศาล แต่ออร่ากฎที่แผ่กระจายออกมากลับเป็นเพียงกฎดั้งเดิมขั้น 2 เท่านั้น
ส่วนเขานั้นเป็นผู้แข็งแกร่งราชาเทพ แดนกฎดั้งเดิมบรรลุถึงขั้น 4 ซึ่งทั้งสองแตกต่างกันราวกับฟ้าและดิน!
เขาสวมใส่เกราะนักยุทธ์สีเขียว ยกมือขึ้นมาจับทีเดียว ก็ทำให้แสงหอกของหลัวซิวถูกบีบจนแตกสลาย ลบล้างการโจมตีที่หลัวซิวภาคภูมิใจไปได้อย่างง่ายดาย
“นะนี่……”
หลัวซิวก็รู้สึกช็อกเป็นอย่างมากเช่นกัน เขาเข้าใจดีมาก ๆ ว่านัดเดียวนิพพานเมื่อครู่นี้ของเขาเพียงพอที่จะสังหารเจ้านภาขั้นสุดยอดได้แล้ว แต่ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าจี้เฟิง มันกลับเหมือนเด็กเล่นพ่อแม่ลูกยังไงอย่างนั้น น้อยนิดจนไม่มีค่าพอที่จะให้พูดถึง