มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1406
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1406
“หื้ม?”
ทันใดนั้น ความรู้สึกที่เจ็บปวดรวดร้าวก็ส่งตรงไปถึงส่วนลึกจิตสำนึกของหลัวซิว ความรู้สึกเจ็บปวดเช่นนี้ดุจถูกเข็มเหล็กนับพันเล่มทิ่มแทงร่างกาย ปวดร้าวทุกข์ทรมานอย่างมาก
เลือดเนื้อผิวหนังตามร่างกายเขาเริ่มแตกออก เนื้อหนังมังสาในอดีตถูกทำลายอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การบำรุงของพลังชีวิต เลือดเนื้อผิวหนังที่กำเนิดใหม่พร่างพราวดั่งหยกมันแพะที่งดงาม ดุจผลงานที่ดีเยี่ยมที่สุดของผู้สร้างสรรค์
หลัวซิวทราบอยู่ว่าเป็นการแปรเปลี่ยนจากการกระตุ้นของผู้เป็นอมตะ หลังจากที่ผ่านการแปรเปลี่ยนแล้ว ร่างกายเขาจะลอกคราบใหม่และได้รับพลังที่แข็งแกร่งกว่าอดีต
อย่างไรก็ตามการเกิดใหม่ที่รับรู้ถึงความเจ็บปวดรวดร้าวไปทุกตารางนิ้วบนร่างกายได้อย่างชัดเจนเช่นนี้ กลับไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถอดทนได้ ซึ่งถือเป็นบททดสอบด้านจิตใจที่ยิ่งใหญ่สำหรับตัวนัทยุทธ์เลย
หลังจากเลือดเนื้อและผิวหนังถูกทำลายและได้รับการกำเนิดใหม่อีกครั้ง ถัดจากนั้นก็ต่อด้วยกระดูกและไขกระดูก ความรู้สึกเจ็บปวดเช่นนี้ปวดร้าวยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้เสียอีก ทำให้คนรู้สึกเหมือนตายทั้งเป็น แต่ทว่าภายใต้การคุ้มครองของพลังชีวิต เขามีเพียงจะเจ็บปวดมากยิ่งขึ้น กลับไม่มีทางตาย
ความรู้สึกเจ็บปวดที่น่าเวทนาเช่นนี้ หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นเกรงว่าคงเป็นลมหมดสติไปตั้งนานแล้ว จิตใจไม่สามารถต้านทานความเจ็บปวดที่รุมเร้าเช่นนี้ได้ และทันที่เป็นลมหมดสติไป จิตใจอันแน่วแน่ก็จะยิ่งอยู่ยิ่งอ่อนลง จนกระทั่งท้ายที่สุดอาจตายไปพร้อมกับความเจ็บปวดได้!
ร่างกายของหลัวซิวกำลังสั่นเทาอย่างไม่หยุดหย่อน เขาพยายามฝืนทำจิตให้แน่วแน่ ภายใต้การกระตุ้นความคิด เขาเริ่มโคจรพลังจุติมรณะ พลังที่มากมายมหาศาลพลังหนึ่งปรากฏในร่างกาย พลังดังกล่าวเดี๋ยวก็มีชีวิตชีวา เดี๋ยวก็ซบเซาลง
จนกระทั่งหลังจากผ่านไปนานมาก ๆ แล้ว หลัวซิวถึงจะลืมตาขึ้นกะทันหัน พลังชีวิตที่วนเวียนอยู่รอบกายเขาค่อย ๆ ซึมหายเข้าไปในรูขุมขนตามร่างกาย
บริเวณรอบ ๆ คือทางปริภูมิที่มืดมน แต่ทว่าร่างกายของเขากลับมีรังแสงสีขาวนมเป็นประกาย มีออร่าชีวีที่ยิ่งใหญ่มหาศาลแผ่กระจายออกมา
เขาเปลือยกายล่อนจ้อนทั้งตัว สัดส่วนกล้ามเนื้อบนร่างกายเท่าเทียมกัน ทุกขอบทุกมุมบนร่างกายชัดเจน ทุกตารางนิ้วของผิวหนังและเลือดเนื้อล้วนเหมือนเป็นผลงานชิ้นเยี่ยมของผู้สร้างสรรค์ยังไงอย่างนั้น
เขาสัมผัสการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตนเป็นสิ่งแรก ก่อนที่เขาจะพบว่าแดนผลการฝึกตนและร่างเนื้อไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ยังคงเป็นมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้น 9 ขั้นสูง รวมไปถึงเทพมารขั้น 9 ขั้นสูง
แต่ทว่าเขากลับสัมผัสได้ว่าพลังของตัวเองเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวมาก ภายใต้พื้นฐานเดิมที่แดนไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ แต่ศักยภาพกลับแข็งแกร่งขึ้นเยอะมาก ซึ่งนี่ก็หมายความว่ารากฐานของเขาแข็งขันมากกว่าเดิมแล้ว
เดิมทีรากฐานของหลัวซิวถือว่าแข็งขันถึงขีดจำกัดแล้ว การที่รากฐานแข็งขันถึงขั้นสุดขีดแล้วยังสามารถแข็งขันมากขึ้นนั้น แสดงให้เห็นว่าพรสวรรค์และศักยภาพของเขาได้รับการยกระดับ อนาคตเขามีพื้นที่ที่สามารถเติบโตและแข็งแกร่งได้มากกว่าเดิม
เขาใช้จิตนึกคิด พลังกฎความตายรวมตัวกันบนร่างกายเขาจนกลายเป็นเสื้อผ้าชุดหนึ่ง ลักษณะเสื้อผ้าชุดนี้ดูค่อนข้างแปลก ฝั่งหนึ่งสีดำ ฝั่งหนึ่งสีขาว
“โฮก!”
ศีรษะที่ใหญ่โตดุจภูเขาลูกหนึ่งได้ยื่นออกมาจากท้องฟ้าที่ว่างเปล่า ดวงตาสีแดงเลือดคู่หนึ่งกำลังจ้องเขม็งมาทางเขา
ระหว่างขั้นตอนการฟื้นฟูบาดแผลและสภาพร่างกายที่แปรเปลี่ยนไปของเขา อสูรดูดจิตโบราณคอยรุกล้ำอยู่บริเวณรอบ ๆ มาโดยตลอด เหมือนกำลังปกปักรักษาเขาอยู่ยังไงอย่างนั้น
“ข้ารู้ว่าเจ้าเข้าใจในสิ่งที่ข้าพูด หากเจ้ายินดีที่จะไปพร้อมกับข้าละก็ ข้าจะดูแลเจ้าดุจน้องชายคนหนึ่งของข้า!”
หลัวซิวแหงนหน้าขึ้นไปสบตากับอสูรดูดจิตโบราณ ครั้งนี้การที่เขาสามารถสังหารซือถูเจิ้งเจี้ยนได้นั้น พูดได้เลยว่าอสูรดูดจิตโบราณตัวนี้ช่วยเหลือเขาได้เยอะมาก ๆ
เพื่อเป็นการทำให้อสูรดูดจิตโบราณเชื่อมั่นในตัวเอง หลัวซิวจึงเรียกเกราะเทพเวหากาลออกมา อีกทั้งโคจรพลังอมตะเทพสงครามไร้เทียมทาน รังแสงสีทองที่ดูฮึกเหิมเปล่งปลั่งรอบกาย ดุจเทพเจ้าทองคำ
เขาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่า ดวงตาสีแดงเลือดที่ดูดุดันคู่นั้นของอสูรดูดจิตโบราณค่อย ๆ อ่อนโยนลง ลำตัวที่ดูน่ากลัวและใหญ่โตนั่นของมันค่อย ๆ มุดออกมาจากท้องฟ้าที่ว่างเปล่า เลือดบริสุทธิ์หยดหนึ่งบินออกมาจากร่างกายของมัน
เลือดบริสุทธิ์หยดนั้นปรวนแปรอยู่กลางอากาศ จากนั้นมันก็กลายเป็นสัญลักษณ์ที่ดูลึกลับและมหัศจรรย์สัญลักษณ์หนึ่ง มีพลังออร่าที่โบราณอย่างไร้ขีดจำกัดแผ่กระจายออกมา
ซึ่งนี่คือสัญญาเก่าแก่ของเผ่าอสูรดูดจิตโบราณ มีเพียงอสูรดูดจิตโบราณเต็มใจและยินยอมที่จะทำข้อตกลงกับมนุษย์ ถึงจะสามารถกลายเป็นสหายร่วมรบของมนุษย์ผู้ฝึกยุทธ์
หลัวซิวไม่ทราบเรื่องพวกนี้แต่อย่างใด แต่หงเทียนกลับเข้าใจเยอะมาก ๆ เขาใช้ตัวสำนึกส่งเสียงบอกเล่าเรื่องทั้งหมดนี้ให้กับหลัวซิว