มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1315
การทำเช่นนี้เหมือนการขี่ช้างจับตั๊กแตน แต่ทว่าซือถูเจิ้งเจี้ยนจะไม่ยอมปล่อยให้มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นอีก เขาจะทุ่มสุดกำลังสามารถ ไม่ให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสพลิกตัวได้อีก
เขาเป็นราชาเทพที่กำเนิดจากโลกาอสูรฟ้า จึงสามารถออกคำสั่งให้ทุกคนในใต้หล้านี้ได้!
แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกกองกำลังในโลกาอสูรฟ้าจะอยู่ภายใต้การควบคุมของเขา ยกตัวอย่างเช่นหุบเขาปีศาจเก้า เมืองปีศาจสงครามรวมไปถึงชนเผ่าใหญ่ขั้นสุดยอดหนึ่งถึงสองชนเผ่าของเผ่าปีศาจ ก็ไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของเขาเช่นกัน
หลังจากที่ผ่านไปสักพัก มีเงาดำร่างหนึ่งปรากฏตรงหน้าซือถูเจิ้งเจี้ยน แล้วก้มคำนับอย่างนอบน้อม“กราบคารวะท่านราชาเทพขอรับ!”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนมองไปข้างหน้า คนดังกล่าวก็คือจ้าวนภาปีศาจนรกนั่นเอง หลังจากที่ได้รับข่าวจากซือถูเจิ้งเจี้ยนแล้ว เขาก็มุ่งหน้าตรงมาในทันที
ซือถูเจิ้งเจี้ยนพยักหน้า“เจ้าไปยืนรอข้าง ๆ ก่อน”
ไม่นานนัก ผู้แข็งแกร่งจำนวนมากก็ทยอยมาถึง นอกจากจ้าวนภาปีศาจนรกแล้ว ยังมีเจ้านภาจากเผ่าปีศาจเขาเดียวด้วย นอกเหนือจากนี้แล้วยังมีเทพฟ้าอีกสี่คน
“ท่านราชาเทพ ไม่ทราบว่าที่เรียกพวกเราผู้ใต้บังคับบัญชามารวมตัวกันเพราะเหตุใดหรือขอรับ?”จ้าวนภาปีศาจนรกถามอย่างเคารพนอบน้อม
“พวกเจ้าไปสังหารคนคนหนึ่งพร้อมกับข้า”ซือถูเจิ้งเจี้ยนไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก
……
ตำแหน่งที่ตั้งของหุบเขาปีศาจเก้าอยู่ห่างไกลจากเหวมรณะมาก ๆ เดิมทีหลัวซิวคิดว่าการที่ตัวเองจะหลบหนีไปถึงหุบเขาปีศาจเก้าได้นั้นคงจะทำได้ยากมาก ๆ แต่กลับนึกไม่ถึงเลยว่าซือถูเจิ้งเจี้ยนจะไม่ไล่ตามมา และไม่ได้รอลอบสังหารเขากลางทางเช่นกัน
“ข้าตัดทางหนีทีไล่ของมัน และแย่งใจแห่งศุภรกับเศษใจแห่งศุภรของมันมา แต่นึกไม่ถึงเลยว่ามันจะอดกลั้นต่อเรื่องเช่นนี้ได้อย่างนั้นหรือ?”
หลัวซิวขมวดคิ้วลงเล็กน้อย หากเป็นเช่นนี้จริง ๆ ละก็ อย่างนั้นซือถูเจิ้งเจี้ยนก็เป็นบุคคลที่น่ากลัวมาก ๆ
หากเปลี่ยนเป็นตัวเขาเอง เขาต้องไม่มีทางแบกรับความเสียหายเช่นนี้ไหวแน่นอน สิ่งแรกที่เขาจะทำก็คือตามไล่ล่าคนที่แย่งทุกอย่างไปจากตน
เมื่อเงาร่างของหลัวซิวปรากฏอยู่เหนือนภาหุบเขาปีศาจเก้า เซียวจื่อเจี้ยนที่ลงมือบังคับบัญชาหุบเขาปีศาจเก้าอยู่ในตำหนักปีศาจก็สัมผัสได้ทันที
“ยังมีชีวิตอยู่อย่างนั้นหรือ?”
เซียวจื่อเจี้ยนลุกพรวดขึ้นมา ในแววตามีทั้งความตะลึงและความดีใจ
“ไอ้หมอนี่ เหวมรณะเป็นสถานที่ที่อันตรายและน่ากลัวเช่นนั้น มันอยู่ภายในนั้นไปนานกว่าครึ่งปี แต่ยังสามารถออกมาได้อีกหรือ เก่งกาจกว่ากูเสียอีก!”
เงาร่างของเซียวจื่อเจี้ยนกระพริบ หายวัยไปในตำหนักปีศาจ วินาทีต่อไปเขาก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าหลัวซิวเป็นที่เรียบร้อย
“ผู้อาวุโสขอรับ”
หลัวซิวไม่ได้รู้สึกประหลาดใจต่อการปรากฏตัวของเซียวจื่อเจี้ยน เพราะคนดังกล่าวเป็นเทพฟ้าที่ยึดกุมกฎปริภูมิดั้งเดิม
“เจ้านี่มันเป็นปีศาจน้อยจริง ๆ กินอาหารสัตว์ประเภทใดโตมาเนี่ย?”เซียวจื่อเจี้ยนกวาดตามองหลัวซิวตั้งแต่หัวจรดเท้า เดาะลิ้นพลางกล่าวชื่นชมความมหัศจรรย์ของเขา“ข้ากับท่านพี่ทั้งแปดตามหาเจ้าอยู่ในเหวมรณะมากว่าครึ่งปีแต่ก็ไม่เจอตัวเจ้าเลย นึกไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะกระโดดโลดเต้นออกมาได้ด้วย”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลัวซิวก็รู้สึกตื้นตันใจเล็กน้อย เขานึกไม่ถึงเลยว่าเซียวจื่อเจี้ยนจะนำกำลังคนไปตามหาตัวเอง นี่จึงทำให้เขารู้สึกสะเทือนอารมณ์อยู่ไม่มากก็น้อย
“ผู้อาวุโส ข้า……”หลัวซิวเอ่ยปากกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
“เจ้าไม่ต้องพูด!”ซือถูเจิ้งเจี้ยนโบกมือตัดบทเขาไปก่อน“ข้าทราบอยู่ว่าการที่เจ้าสามารถกระโดดโลดเต้นออกมาจากเหวมรณะได้นั้น เจ้าต้องไปรับผลดีอะไรบางอย่างกลับมาแน่นอน หากเจ้าอยากมอบบางอย่างให้แก่ข้าเพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณก็เอาออกมาได้เลย ไม่ต้องพูด!”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลัวซิวก็หัวเราะออกมาอย่างอดไม่ได้ หนังหน้าของเซียวจื่อเจี้ยนนี่ยังคงหนาถึงขั้นที่น่าทึ่งอยู่เช่นเคยเลยนะ หากเขาทราบว่าตัวเองหนีกลับมาที่นี่เพราะหลบการไล่ล่าจากราชาเทพคนหนึ่ง ก็ไม่ทราบเช่นกันว่าเขาจะคิดอย่างไร
“น้องเก้า พาเขามา”
และในตอนนี้เอง ก็มีเสียงที่เรียบนิ่งเสียงหนึ่งดังเข้ามาในหูเซียวจื่อเจี้ยน
“เจ้าหนูตามข้ามา ท่านพี่ใหญ่อยากพบเจ้า ไม่แน่วันนี้เจ้าอาจจะได้กลายเป็นปีศาจที่อายุน้อยที่สุดที่อยู่ด้านล่างข้าก็เป็นได้ ถึงครานั้นอย่าลืมมอบสมบัติดี ๆ ให้พี่เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณล่ะ!”เซียวจื่อเจี้ยนยิ้มตาหยีพลางพูด
ภายนอกของหมอนี่เหมือนจะดูหนุ่ม แต่ในความเป็นจริงเขามีอายุมานานเกือบแสนปีแล้ว แต่กลับไม่มีลักษณะท่าทางที่ดูเป็นคนสุภาพเรียบร้อยเลยแม้แต่น้อย อุปนิสัยแปลกประหลาด เดาความคิดเขาไม่ออก