มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1310
เนื่องจากถึงแม้เขาจะเข้าไปในโลกเซียนเสวียนเทียน ผลการฝึกตนก็ถูกกดอัดลงไปที่มหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นสูงเช่นกัน
แต่วินานี้นึกไม่ถึงเลยว่าสำนักเต๋าเสวียนเทียนจะปรากฏอยู่ในมือของผู้น้อยมหาจักรพรรดิยุทธ์คนหนึ่ง ซึ่งนี่ก็หมายความว่าเมื่ออยู่ในแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์เหมือนกันแล้ว ตัวเองก็เทียบเคียงกับหมอนี่ไม่ได้เลยมิใช่หรือ?
อยู่ในแดนเดียวกันยิ่งแข็งแกร่ง ศักยภาพและพื้นที่ที่จะเติบโตในอนาคตก็ยิ่งมาก เขาคือราชาเทพ แต่เมื่ออยู่ในแดนเดียวกันแล้วเขากลับเทียบเคียงกับฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ หรือจะพูดอีกอย่างว่าหากหมอนี่ไม่ดับสลายสูญสิ้น อนาคตเขาจะมีโอกาสอยู่เหนือตัวเองสูงมาก ๆ!
“มันจำเป็นต้องตาย!”ซือถูเจิ้งเจี้ยนสัมผัสได้ถึงภัยคุกคาม
มาตรแม้นว่าเขาจะเข้าใจดีมาก ๆ ว่าราชาเทพไม่ได้เป็นง่ายขนาดนั้น ถึงแม้จะมีพรสวรรค์และศักยภาพที่มากพอ แต่ถ้าหากไม่มีโอกาสที่เพียงพอในอนาคต ก็ไม่สามารถบรรลุขึ้นมาถึงระดับราชาเทพได้อยู่ดี แต่ทว่าซือถูเจิ้งเจี้ยนเป็นคนที่ละเอียดรอบคอบมาก เขาจะไม่ยอมปล่อยให้ปัจจัยที่อาจเป็นภัยคุกคามต่อตัวเองคงอยู่
“หึ ถึงแม้เจ้าจะได้ครอบครองสำนักเต๋าเสวียนเทียนแล้วอย่างไร? ประตูบานนี้ก็เป็นเพียงสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่งเท่านั้น ซึ่งมันไม่มีผลอะไรต่อข้า!”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนยื่นมือใหญ่ข้างหนึ่งออกไป ก็มีพลังกฎรวมตัวกันที่ปลายนิ้ว แสงสีดำสาดส่องออกไปบริเวณรอบ ๆ พุ่งตรงไปยังสำนักเต๋าเสวียนเทียน
ในขณะเดียวกัน มังกรดำที่กลายมาจากวิญญาณมรณะก็คำรามอย่างโกรธเกรี้ยว อยากจะบินออกไปจากสำนักเต๋า
อย่างไรก็ตามภายในสำนักเต๋ากลับมีพลังแห่งโซนที่น่าสยดสยองอย่างมากแฝงซ่อนอยู่ ทำให้วิญญาณมรณะถูกกดอัดอย่างแน่นหนา มีเพียงศีรษะเท่านั้นที่สามารถยื่นออกมาจากตัวประตูได้ แต่ทว่าส่วนลำตัวยังคงอยู่ภายในประตูสำนักเต๋า ไม่สามารถหลุดพ้นจากการถูกขัง
“พลังแปรเสวียนเทียน เทพสงครามไร้เทียมทาน!”
หลัวซิวโคจรมหาอิทธิฤทธิ์ทั้งสอง ภายใต้สถานการณ์ที่ผลการฝึกตนเพิ่มพูนขึ้น เขาจึงใช้อำนาจเรียกใช้สำนักเต๋าเสวียนเทียน
มองดูพลังฝ่ามือที่น่าสยดสยองคว้าจับเข้ามา วิญญาณมรณะตกใจจนสะดุ้ง ก่อนที่มันจะรีบหดศีรษะเข้าไปภายในสำนักเต๋า
“โครม!”
เมื่อประตูสำนักเต๋าปิดลง จากการกระตุ้นของหลัวซิวมันก็บินลอยขึ้นไปพร้อมกับเสียงดังสะเทือนเลื่อนลั่น มีพลังออร่าที่น่าสยดสยองระเบิดออกมา ปะทะเข้ากับมือใหญ่ของซือถูเจิ้งเจี้ยน
“ฟึ่บ!”
เสี้ยววินาทีที่พลังฝ่ามือขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับสำนักเต๋าเสวียนเทียน ฝ่ามือของซือถูเจิ้งเจี้ยนก็ถูกพลังแห่งโซนที่น่าสยดสยองฉีกจนแตกสลาย เลือดที่แดงสดพุ่งกระฉูด
“นี่มันเป็นไปได้อย่างไร?”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนตกตะลึงมากจนหน้าถอดสี สำนักเต๋าเสวียนเทียนเป็นเพียงสมบัติวิเศษกระจอก ๆ เหตุใดถึงมีพลานุภาพที่ทรงพลังเช่นนี้ได้?
หลังจากกลืนกินตำหนักจื่อเซียวที่ไม่สมบูรณ์ไป สำนักเต๋าเสวียนเทียนก็วิวัฒนาการกลายเป็นอัญเทพฟ้า จากผลการฝึกตนของหลัวซิว มาตรแม้นว่าจะโคจรมหาอิทธิฤทธิ์ทั้งสองอย่างพลังเสวียนเทียนและเทพสงครามไร้เทียมทาน ก็สามารถกระตุ้นได้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ผลการฝึกตนก็จะสูญเสียไปเยอะมาก ๆ
สีหน้าของเขาขาวซีดเล็กน้อย เรียกสำนักเต๋ากลับเข้ามาในหว่างคิ้วใหม่อีกครั้ง
“สำนักเต๋านี้ไม่ใช่สมบัติวิเศษอีกต่อไปแล้ว แต่เป็นอัญเทพฟ้า!”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนตอบสนองกลับมาได้แล้ว เขาจ้องเขม็งไปตรงหว่างคิ้วของหลัวซิว อดไม่ได้ที่จะชำแหละร่างหลัวซิวเพิ่มเอาสำนักเต๋านั่นออกมา!
“ช่างน่าทึ่งมากจริง ๆ เจ้าเป็นเพียงผู้น้อยมหาจักรพรรดิยุทธ์กระจอก ๆ คนหนึ่ง แต่กลับสามารถฝึกเซ่นสำนักเต๋าที่เป็นสมบัติวิเศษชิ้นหนึ่ง ให้วิวัฒนาการกลายเป็นสมบัติระดับอัญเทพฟ้าอย่างนั้นหรือ!”
“และสิ่งที่ทำให้ข้ารู้สึกทึ่งมากกว่าคือ เมื่อระเบิดพลานุภาพทั้งหมดของสำนักเต๋าเสวียนเทียนระดับอัญเทพฟ้าออกมาแล้ว มันทรงพลังยิ่งกว่าศัสตราวุธแห่งราชาเสียอีก!”
“การที่มีสมบัติเช่นนี้อยู่ในมือเจ้า มันเป็นการทำลายคุณค่าของมันชัด ๆ มีเพียงอยู่ในกำมือข้าถึงจะเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง!”
ซือถูเจิ้งเจี้ยนหัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดังลั่น ราวกับมองว่าสำนักเต๋าเสวียนเทียนเป็นของของตัวเองไปแล้ว
“จากผลการฝึกตนของเจ้า การกระตุ้นสำนักเต๋าเสวียนเทียนระดับอัญเทพฟ้าหนึ่งครั้งนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ยากมาก ๆ เจ้าไม่มีผลการฝึกตนที่มากพอเพื่อมากระตุ้นมันเป็นครั้งที่สองแล้ว เจ้าไม่มีทางต้านทานการโจมตีอีกครั้งหนึ่งของข้าได้แน่นอน!”
เลือดเนื้อฝ่ามือของซือถูเจิ้งเจี้ยนที่ถูกสำนักเต๋าโจมตีจนแตกสลายกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นมืออีกข้างหนึ่ง ยังคงกลายเป็นพลังฝ่ามือขนาดใหญ่อีกเช่นเคย แล้วคว้าจับไปทางหลัวซิว
เขาจะบีบร่างหลัวซิวให้ระเบิดแตกในครั้งเดียว จากนั้นเขาก็จะได้ครอบครองสำนักเต๋าที่ซ่อนอยู่ในห้วงจักรหยั่งรู้ของหลัวซิว!