มหายุทธ์ สะท้านภพ - บทที่ 1276
มหายุทธ์ สะท้านภพ บทที่ 1276
เขาปั้นโอสถเซียนเทียนสุนขึ้นมาเม็ดหนึ่ง และกำยาเซียนเอาไว้ในมือ ไม่ได้ไม่กลั่นแปรโดยการทานลงไปโดยตรง แต่ได้ขับเคลื่อนวรยุทธ์เพื่อค่อย ๆ ดูดพลังงานออกมาจากยาเซียน โดยผ่านทางการสัมผัสของร่างกาย
สาเหตุที่ทำเช่นนี้ แต่กลับเป็นเพราะว่าพลังงานที่มีอยู่ในยาเซียนระดับสี่นั้นรุนแรงและแข็งแกร่งจนเกินไป ร่างยุทธ์ระดับเทพมารของเขาไม่อาจทนรับได้ และไม่มีผลการฝึกตนในระดับเทพฟ้าที่สามารถควบคุมได้ หากทานลงไปโดยพลการ คงจะมีจุดจบเพียงแค่ร่างกายระเบิดและสิ้นชีพเท่านั้น
มีเพียงค่อย ๆ ดูดซับพลังงานจากยาเซียน ถึงจะทำให้ไม่ผิดพลาดได้ แม้ว่าเช่นนี้จะทำให้พลังงานของยาเซียนสูญเสียไปถึงสี่ส่วน แต่ประสิทธิภาพก็ยังดีกว่าทานยาเซียนระดับสามมากนัก
หลัวซิวไม่คิดว่าทำแบบนี้เป็นการสิ้นเปลืองทรัพยากร เขาจะต้องเพิ่มระดับความแข็งแกร่งของตนให้สูงขึ้นโดยเร็ว ถึงจะสามารถได้รับทรัพยากรที่มากขึ้น ไม่อย่างนั้นละก็หรือว่าเขาจะต้องรอจนผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนเทพฟ้าแล้วค่อยใช้ยาเซียนระดับสี่อย่างนั้นหรือ?
ต่อให้เป็นสมบัติที่ล้ำค่าเพียงใด จะต้องสามารถใช้ประโยชน์ในการพัฒนาความแข็งแกร่งได้โดยตรงถึงจะนับว่าเป็นของดี ไม่เช่นนั้นละก็มีไว้ในมือก็เหมือนกับซี่โครงไก่ ซึ่งไร้ประโยชน์ใด ๆ
“ปิดขังฝึกตนในครั้งนี้ ไม่รู้ว่าผลการฝึกตนของข้าจะสามารถบรรลุได้ถึงแดนไหน?” แววตาของหลัวซิวลึกล้ำเหมือนดั่งท้องฟ้าในยามราตรี เต็มไปด้วยความคาดหวัง
ภายในถ้ำที่เงียบสงบ มีค่ายกลป้องกันและหลบซ่อนอยู่มากมาย หลัวซิวปิดขังตนอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ
พลังงานที่มีอยู่ในโอสถเซียนเทียนสุนถูกเขาดูดซับเข้าสู่ร่างกายเพื่อกลั่นแปร ระยะเวลาเพียงแค่ไม่ถึงเดือน ผลการฝึกตนของเขาก็ได้บรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นหกอย่างราบรื่น
จนกระทั่งพลังงานของโอสถเซียนเทียนสุนถูกใช้จนหมด ผลการฝึกตนของหลัวซิวก็ยังคงอยู่ที่แดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นหก มีเพียงพลังจิตแท้ที่บริสุทธิ์และทรงพลังยิ่งขึ้นมาบ้าง
เขาไม่ได้ลังเลเลยสักนิด จากนั้นก็ได้ล้วงเอายาเซียนเม็ดต่อไปออกมา ขณะเดียวกันนั้นก็ขับเคลื่อนวิทยายุทธ์ดูดซับพลังแห่งกฎของแก้วเทวชั้นกลางนับล้านก้อนอย่างต่อเนื่อง ให้ผลการฝึกตนของตนอยู่ในสภาพที่เพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา
บนโลกต่างว่ากันว่าในโลกของการฝึกยุทธ์นั้นมีทั้งหมดเก้าแดนใหญ่ แต่ในความจริงแล้วเจ้ายุทธจักรและมหาจักรพรรดิยุทธ์ต่างก็จัดอยู่ในแดนที่เก้า หากแยกจากกัน ก็จะกลายเป็นทั้งหมดสิบแดนใหญ่
แดนเจ้ายุทธจักรเป็นขีดสุดในโลกยุทธ์ของคนธรรมดา ในแดนใหญ่นี้เป็นการสร้างเสถียรภาพให้กับร่างกายของตัวเอง ค่อย ๆ ก้าวเข้าสู่เทพมารทีละเก้า
ในทุก ๆ แดนใหญ่ ระหว่างสามแดนเล็กนั้นจะมีประตูเกณฑ์อยู่บานหนึ่ง ส่วนเกณฑ์ที่หลัวซิวอยู่ในตอนนี้นั้น ก็คือมหาจักรพรรดิยุทธ์ขั้นหกถึงขึ้นเจ็ด
การเพิ่มระดับของผลการฝึกตนในโลกยุทธ์ ไม่ใช่เพียงแค่ดูดซับพลังงานเพียงอย่างเดียวก็จะสามารถบรรลุได้ ทรัพยากรในการฝึกตนนั้นก็เป็นอีกอย่างหนึ่ง สติปัญญาในการฝึกตนรวมทั้งแดนแห่งกฎในโลกยุทธ์ ความตั้งใจ ปณิธานของคนคนหนึ่ง ล้วนแล้วแต่เป็นสิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง
ในจักรวาล อัจฉริยะนั้นเยอะเหมือนดั่งเม็ดทราย มีอยู่จำนวนมากที่ได้แสดงพรสวรรค์ของตนเองออกมาตั้งแต่แรกเริ่ม แต่พอผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนใดแดนหนึ่ง ก็จะไม่สามารถก้าวรุดหน้าได้อีก ไร้พรหมลิขิตก้าวสู่ขั้นที่สูงยิ่งกว่า
ยกตัวอย่างโดยง่ายที่สุด เฟิ่งหวูซินจ้าวนภาที่อายุน้อยที่สุดของโลกเสวียนเทียน เขาฝึกตนจนบรรลุถึงแดนเจ้านภาเมื่ออายุสามหมื่นปี พูดได้ว่าเป็นยอดอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะ ถูกขนานนามว่าเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของโลกเสวียนเทียนตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน!
แต่หลังจากที่เขาบรรลุถึงแดนเจ้านภา กลับหาโอกาสที่จะบรรลุเป็นราชาเทพไม่ได้ อยู่ในแดนนี้ เขาได้หยุดอยู่ตรงนี้มาหมื่นกว่าปีแล้ว พบว่าโอกาสที่จะบรรลุเป็นราชาเทพนั้นนับวันยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ
บางทีอาจจะมีสักวันที่เขามีโอกาสได้กลายเป็นเจ้านภาอันดับหนึ่งของโลกเทียนเสวียน แต่อย่างมากแสนกว่าปีให้หลัง ก็ยังคงต้องแก่เฒ่าละสังขารไปอยู่ดี สุดท้ายก็กลายเป็นความว่างเปล่า
หลังจากที่ผลการฝึกตนบรรลุถึงแดนมหาจักรพรรดิยุทธ์ หลัวซิวเองก็ค่อย ๆ รับรู้ได้ถึงความยากลำบากในการเพิ่มระดับผลการฝึกตน ดูเหมือนว่าเขาได้ใช้เวลาฝึกตนมานับสิบปี แต่ในความเป็นจริงแล้วเมื่อนับรวมเวลาในโลกาศุภร เวลาฝึกตนที่แท้จริงของเขานั้นนานกว่านี้อีก