มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The Great Mage Returns After 4000 Years - ตอนที่ 12 ความสามารถที่เปิดเผยต่อโลก (3)
- Home
- มหาจอมเวทย์ผู้กลับมาอีกครั้งหลัง 4000 ปี The Great Mage Returns After 4000 Years
- ตอนที่ 12 ความสามารถที่เปิดเผยต่อโลก (3)
เหล่าโจรสลัดเลือดปิดระยะห่างระหว่างพวกเขากับคอร์เตซอย่างรวดเร็ว
ทุกๆคนพยายามรักษาชีวิตแทนที่จะวิ่งหนีบางทีพวกเขาอาจจะรู้ว่าจะไม่สามารถหลบหนีได้
หมู่เกาะออสการ์เป็นที่อยู่อาศัยของพวกโจรสลัดเลือดและพิจารณาขนาดของเรือแล้วเรือของโจรสลัดเลือดนั้นเร็วกว่ามาก
ความจริงที่ว่าเขาไม่ต้องทำการไล่ล่าที่น่ารำคาญทำให้คุนสต์รู้สึกดีขึ้น
หลังจากโจรสลัดเข้าใกล้คอร์เตซมากพอพวกเขาก็โยนไม้กระดานและเชือกเพื่อเชื่อมต่อเรือและบางคนก็กระโดดขึ้นไปบนเรือโดยไม่ต้องปีนข้ามไม้กระดาน
คุนสต์มองไปรอบๆ และหัวเราะเสียงดัง
“ คุคุคุ…ช่างมหัศจรรย์”
เขาไม่ได้ความคาดไว้หวังสูงนักเพราะมันไม่ใช่เรือไนติลัส แต่เรือลำนี้ก็มีนักเรียนอยู่จำนวนไม่น้อย
ดูเหมือนจะมีอย่างน้อย 40 คน
นักเรียนส่วนใหญ่ในสถาบันการศึกษาเป็นลูกของขุนนาง
เนื่องจากพวกเขาให้ความสำคัญกับสายเลือดพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมรับทุกข้อเสนอที่เขามอบให้แม้ว่ามันจะไร้สาระก็ตาม
‘ถ้ามันผ่านฉลุยในครั้งนี้ฉันจะมีรายได้มากพอที่กินดีอยู่ดีไปตลอดชีวิต’
จากนั้นชายวัยกลางคนที่มีใบหน้านิ่งเฉยก็เดินมาข้างหน้า
นั้นคือแม็คกัปตันของคอร์เตซ
เขาตระหนักได้อย่างรวดเร็วว่าคุนสต์เป็นหัวหน้ากลุ่มโจรสลัดดังนั้นแม็คจึงพูดกับเขาโดยตรง
“ คุณรู้ไหมว่าเรือลำนี้คือเรืออะไร?”
“แน่นอนฉันรู้ มันคือเรือสมบัติที่จะทำให้พวกข้าร่ำรวยไง คูฮาฮา!”
“ คูฮาฮ่า!”
โจรสลัดที่อยู่ข้างหลังเขาก็หัวเราะเช่นกัน
แม็คตระหนักว่าพวกเขาเจอกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดแล้ว
โจรสลัดเหล่านี้ตั้งใจโจมตีคอร์เตซ
เขารู้แก่ใจว่าอาจจะเกิดเรืองไม่ดีเมื่อเรือรบที่มาคุ้มกันพวกเขาถูกทำลายลง แต่เขาก็ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าพวกโจรสลัดกล้าที่หาเรืองกับเรือรบของจักรวรรดิแบบนี่
หอกน้ำแข็งได้ทำลายเรือคุ้มกันทั้งสองลำในทันที
‘โจรสลัดมีพ่อมดเช่นนั้นได้อย่างไร?’
ท้องฟ้าดูเหมือนจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
เมื่อเหล่านักเวทย์ต้องเสียชีวิตอย่างน่าสยดสยองโดยเปล่าประโยชน์แม็คก็รู้ว่าคงไม่มีอะไรที่เขาจะทำหรือพูดได้
“ ไอ้โจรสลัดสกปรก…แกเลือกคู่ต่อสู้ผิดคนละ”
นักเรียนคนหนึ่งลุกขึ้นจากที่นั่งของเขา
ทันทีที่เขาเห็นสีหน้าโกรธของนักเรียนแม็คก็ลุกลี้ลุกลน
เขารีบหันไปหานักเรียน
“ อย่า! ”
“หุบปากในฐานะลูกชายของครอบครัวกิลาสซิออนฉันไม่สามารถทนต่อการกระทำของพวกขยะในลักษณะนี้ได้อีกต่อไป”
นักเรียนชายที่พูดแบบนั้นหลับตาลงและเริ่มร่ายมนตร์
ช่วงเวลาที่นักเรียนคนนั้นพยายามร่าย
หวด…..
ปุก
“ กั๊ก”
กริชเล่มหนึ่งบินออกมาจากไหนไม่รู้แทงไปที่คอของนักเรียน
นักเรียนคนนั้นคว้าคอของเขาเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่นานเลือดก็ไหลออกมาจากริมฝีปากของเขา
“ กู่ กุก…กุก…”
นักเรียนหายใจไม่ทั่วท้องล้มลงกับพื้น ไม่นานก็หยุดเคลื่อนไหว
เขาตายไปแล้ว
“ ค๊าา!”
“ ฮี่ๆๆๆ”
นักเรียนทุกคนกรีดร้องด้วยความสยดสยอง
พวกเขาทั้งหมดเป็นลูกของขุนนางชั้นดีซึ่งเชื่อกันว่าพวกเขาอยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร แต่เมื่อครู่หนึ่งในพวกเขาเองถูกฆ่าตายอย่างนองเลือดต่อหน้าต่อตาซึ่งทำให้พวกเขากรีดร้องด้วยความหวาดกลัว
เสียงกรีดร้องของนักเรียนทำให้โจรสลัดหัวเราะดังขึ้นอย่างสนุกสนาน
“ ปูฮาฮา! แกคิดว่าจะมีใครให้เวลาแกร่ายมนตร์?”
“ แกเดาว่าพวกแกทุกคนยังไม่ได้ตระหนักถึงสถานการณ์ของพวกแก ถ้าใครต้องการใช้เวทมนตร์พวกแกก็ควรทำก่อนที่พวกฉันจะมาถึงที่นี่สิ”
กัปตันโจรสลัดหัวเราะเสียงดัง
แน่นอนว่าหากพวกเขาร่ายเวทย์ก่อนที่พวกโจรสลัดจะขึ้นเครื่องมันก็คงไม่ได้สร้างความแตกต่างอะไรมากนัก
นักเรียนคนหนึ่งทรุดตัวลงและฉี่รดตัวเอง
แน่นอนว่าพวกโจรสลัดจะไม่พลาดกับสิ่งที่น่าขำขันเช่นนี้
“ คุคุ แกไอ้ตัวน่าขยะแขยง เหม็นด้วย”
“อา! ฉันว่าจับมันโยนเขาลงทะเลเพื่อที่มันจะได้ทำความสะอาด”
“ วะอาห์!”
“ ว็ากกกก!”
นักเรียนคนนั้นตกใจมากที่แม้ว่าโจรสลัดตาเดียวจะเข้าหาเขาอย่างช้าๆ แต่เขาก็ไม่มีแรงที่จะต้านทานได้
โจรสลัดตาข้างเดียวโยนนักเรียนคนนั้นลงทะเลและนักเรียนดูเหมือนว่าเขาไม่รู้วิธีว่ายน้ำขณะที่เขากำลังดิ้นไปมา ภาพนี่มันช่างเหมือนปลาที่กำลังขึ้นจากน้ำ
นักเรียนเหวี่ยงมือพยายามหาอะไรบางอย่างที่จะคว้าได้ อย่างไรก็ตามเศษชิ้นส่วนจากเรือที่แตกนั้นอยู่ห่างจากเขาค่อนข้างมาก
“ พุ๊บ…! ช่วยด้วย…! ชะ – …ช่วยฉันด้วย .. !”
ในที่สุดนักเรียนก็เหนื่อยและจมลงไปในน้ำเย็นที่มืดมิดและไม่มีใครเห็นอีกเลย
สำหรับนักเรียนบนเรือดูเหมือนว่าเขาถูกฝังอยู่ในความมืด
“ โอ..โอ้คตายไปแล้ว…”
“ ฉันไม่เชื่อเลย เขาเป็นพ่อมดระดับ 2 ดาว”
พ่อมด 2 ดาวสามารถจัดการกับผู้ชายธรรมดาๆสิบคนได้ด้วยตัวเอง
อย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่นักเรียนถูกชักจูงให้เชื่อ
อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะทำอะไรได้มีนักเรียนสองคนเสียชีวิตไปแล้ว
ความไร้ประโยชน์และความกลัวของพวกเขาห่อหุ้มพวกเขาอย่างช้าๆ
พวกนักเรียนไม่เคยเจอกับสถานการณ์เช่นนี้และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไร
มีเพียงไม่กี่คนในกลุ่มเท่านั้นที่สามารถจัดการแก้ไขปัญหาได้
ส่วนที่เหลือกำลังกอดกัน
และนั่นคือสิ่งที่คุนสต์ต้องการให้เกิดขึ้น
นักเรียนแต่ละคนเป็นสมบัติล้ำค่า แต่เขาได้ฆ่าพวกเขาสองคนเพื่อกำจัดโอกาสในการก่อกบฏที่จะนำมาสู่ความน่ารำคาญ
เขายิ้มและก้าวไปข้างหน้า
“ ท่านกัปตันตอนนี้ เป็นเวลาที่ดีแล้วที่เราจะเจรจาธุรกิจกัน”
“ …ฉันเป็นแค่พนักงาน”
“ฉันรู้ ถึงกระนั้นก็ไม่มีเด็กคนไหนที่มีสติพอจะคุยกับฉันได้”
“ …”
แม็คอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคนๆ หนึ่งที่ดูเหมือนจะไม่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ แต่ไม่นานก็ส่ายหัวและก้าวไปข้างหน้า
มันเป็นช่วงเวลานั้น
เงาดำปรากฏขึ้นด้านหลังของคุนสต์และเริ่มก่อตัวเป็นรูปร่างที่เป็นลางไม่ดี
แม็คตกใจกับการปรากฏตัวของมัน
“ ละ..ลิช? พวกแกจับมือกับพวกอันเดด?”
“ ฉันก็แค่ได้รับความช่วยเหลือจากท่านผู้นี้”
“ นี่แกบ้าไปแล้วหรอ! พวกอันเดดมันไม่สนใจพวกเราที่มีชีวิตหรอก! พวกเราไม่ต่างไปจากของเล่นสำหรับพวกมัน!”
“ฮะ? นั่นเป็นเพียงเรื่องไร้สาระโดยพวกที่โง่เขลาบางคน”
แม็คขบฟัน
ตอนนั้นเองที่เขาตระหนักได้ว่าทำไมจอมเวทย์ระดับ 4 ดาวทั้งสองจึงพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว
จากพลังของมันลิชต้องมีอย่างน้อยในระดับ 5 ดาว
‘ไม่ใช่แค่โจรสลัดเท่านั้น มันอันตรายกว่าที่ฉันคิดไว้อีก’
คุนสต์ไม่เข้าใจว่าอันเดดนั้นอันตรายแค่ไหน
แม็ครีบเปิดปากอีกครั้ง แต่ถูกลิชขัดขวาง
[ออกมา]
เสียงของเขาน่ากลัวฟังดูเหมือนปีศาจกรีดร้อง
นักเรียนบางคนตัวสั่นเมื่อได้ยินเสียง
[ฉันรู้ว่านายซ่อนตัวอยู่ที่นี่ ถ้านายไม่ออกมาฉันจะฆ่าพวกเขาทีละคน]
ตีง!!!!
ในขณะนั้นเองมีน้ำแข็งแหลมปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของนักเรียนหลายร้อยอัน
หากลิชเคลื่อนไหวนักเรียนหลายสิบคนจะต้องตาย
ชิ!!
จากนั้นมีคนยืนขึ้นจากหมู่นักเรียน
ดวงตาสีแดงของลิชเปล่งประกายเจิดจ้า
[โห…นายเองหรอ…ที่หยุดเวทมนตร์ของฉันได้]
แม็คจำใบหน้าของคนๆ นั้นได้แต่ไม่สามารถช่วยอะไรได้นอกจากการแสดงสีหน้าเป็นกังวล
เขาเป็นคนที่สำคัญที่สุดในคอร์เตซและเขาคือคนที่แม็คเชื่อว่าเป็นพ่อมดที่เก่งที่สุดบนเรือ
แม็คไม่ต้องการให้เกิดอะไรขึ้นกับเขาเพราะเขาอาจมีค่ามากกว่านักเรียนคนอื่นๆ ทั้งหมดที่รวมกัน
อย่างไรก็ตามบุคคลนั้นก็เงยหน้าขึ้นและพูดด้วยน้ำเสียงเป็นธรรมชาติ
“ถูกตัอง”
[นามของเจ้า?]
คำตอบของชายคนนั้นหนักแน่นพอๆ กับการแสดงออกของเขา
“ ชื่อของฉันคือเพเรียนจุน”