มหากาพย์ดาบเทวะ! - ตอนที่ 113
ตอนที่ 113 ไปเจียง
ศีรษะของชายชุดดํากระเด็นออกไปอย่างฉับพลัน ทําให้ทั้งสตรีด้านข้าง และชายชุดดําอีกคนตกตะลึง เมื่อหายจากอาการตกใจ นางมองไปที่หยางเย่อย่างประหลาด นางรู้สึกว่าประเมิณค่าเขาต่ำเกินไป เพราะความเร็วของดาบเมื่อกี้นั้น ไม่ใช่สิ่งที่ยอดฝีมือขั้นปราณสวรรค์จะบรรลุได้โดยง่าย!
ชายชุดดําอีกคนหนึ่งที่เพิ่งหายจากอาการตกตะลึงเช่นกัน เขามองไปที่หยางเย่ด้วยความหวาดผวา ไม่ว่าจะโง่เพียงใด เขาก็ทราบดีว่าได้ไปกระตุกหนวดเสือเข้าให้แล้ว
พวกเขาทั้งสองมักจะปล้นสะดมคนที่มาแถวนี้บ่อยครั้ง และมักจะมองหาคนที่มีจุดอ่อนอย่างเช่นขั้นปราณพลังแบบหยางเย่
ไม่ต้องสงสัยแม้แต่น้อยที่หยางเย่และสตรีชุดเงินเป็นเป้าหมายของพวกเขา แต่ความเป็นจริง
ขณะมองไปที่หยางเย่ด้วยแววตาหวาดผวา ชายชุดดําไม่ลังเลที่จะหันหลังหนีไป
“สู้กับหยางเย่งั้นหรือ? ต้องบ้าเท่านั้น!? สตรีชุดเงินนึกในใจ เขาแทบไม่เห็นว่าหยางเย่ทําอะไรกับชายร่างสูงด้วย! ดังนั้นเขาจะไปสู้กับชายหนุ่มคนนี้ได้อย่างไร? ในตอนนี้เขาต้องการเพียงกล้ามเนื้อขาที่ใหญ่โตเพื่อให้หนีได้เร็วขึ้น
ทันทีที่เขาหันกลับมา คมดาบด้านหลังได้ส่องประกาย ชายชุดดําเหมือนจะสังเกตเห็นบางอย่างจนตาเปิดกว้าง “ไว้…”
เสียงร้องโหยหวนถูกขัดจังหวะอย่างไม่ทันตั้งตัว ปราณดาบทะลุผ่านหน้าอกเขาไปอย่างรวดเร็ว และอวัยวะภายเขาถูกทําลายจากการโจมตีนั้น
หยางเยเก็บดาบเข้าผักก่อนจะหันไปมองบ้านหินพร้อมกล่าวอย่างเย็นเยือก ”เจ้ายังไม่คิดจะปรากฏตัวอีกงั้นหรือ?”
อันที่จริงเขาทราบมานานแล้วว่ามีคนแอบสะกดรอยตาม ชายชุดดําสองคนนี้เป็นเพียงสมุนที่ถูกส่งไปทดสอบฝีมือหยางเย่และสตรีชุดเงิน คนผู้นี้ซ่อนตัวได้อย่างดีเยี่ยม แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าสหายตัวจ้อย การซ่อนตัวของเขาเป็นเพียงเรื่องตลกเท่านั้น
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สตรีชุดเงินมองไปที่หยางเยด้วยแววตาสงสัย นางเองก็ทราบมานานแล้วเช่นกันว่ามีคนติดตามอยู่ แต่ที่สงสัยคือชายหนุ่มคนนี้ทราบได้ยังไง เพราะหยางเย่อยู่เพียงขั้นปราณมนุษย์!
แน่นอนว่าทันที่ที่กล่าวจบ ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบปีเดินออกมาจากบ้านหินพร้อมแววตาที่ดุดันชายหนุ่มมองไปที่ศพชุดดําทั้งสองด้วยประกายเย็นเยือกก่อนจะหันไปมองหยางเยีและสตรีชุดเงินด้วยท่าทีไม่ปกติ
สายตาเขาหยุดไปที่สตรีชุดเงินก่อนจะจบลงที่หยางเย่ “ดาบของเจ้าช่างรวดเร็วนัก เจ้าเป็นศิษย์สํานักดาบราชันงั้นหรือ?”
หยางเย่ไม่ตอบสิ่งใด เขายื่นมือชี้ไปที่สตรีชุดเงินแทนพร้อมกล่าว “เจ้าชื่นชอบนางใช่หรือไม่?”
ทั้งชายหนุ่มและสตรีชุดเงินชะงัก พวกเขาไม่ทราบว่าหยางเย่ต้องการจะสื่ออะไร
หยางเย่ยิ้มเยาะพร้อมกล่าวต่อ “ไม่ใช่ว่าเจ้าชื่นชอบนางบําเรอของข้าแต่ก็ตระหนักถึงความแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงส่งทั้งสองคนนี้ทดสอบฝีมือมางั้นหรือ? ตอนนี้เจ้าคงมีคําตอบที่ดีแล้วสินะ?”
แววตาอํามหิตปรากฏผ่านดวงตาชายหนุ่มขณะที่หยางเย่กล่าวอย่างไม่อ้อมค้อม แต่มันก็กลับเป็นปกติในไม่ช้า เขาเผยรอยยิ้มก่อนจะเอ่ย”เจ้าคิดมากเกินไป ข้ามีนามว่าไปเจียง ข้าเห็นว่าพวกท่านยังเป็นพวกหน้าใหม่ในโบราณสถานราชวงศ์ชาง และข้าเห็นพี่ชายชุดดําทั้งสองติดตามเจ้ามา ข้าจึงคิดจะเข้าไปช่วยพวกท่านต่างหาก… แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เป็นอะไรแล้ว”
“เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ?” หยางเย่แสยะยิ้ม “หากเป็นเช่นนั้นพวกเราได้จัดการคนทั้งสองเรียบร้อย เชิญพี่ชายไปได้แล้ว!”
รอยยิ้มไปเจียงแข็งที่อ หลังจากผ่านไปชั่วครู่เขารีบกล่าวอีกครั้ง “พวกท่านยังไม่คุ้นเคยที่นี่เหตุพวกเราไม่มารวมกลุ่มกันล่ะ?”
ถึงแม้จะสนทนากับหยางเย่ แต่สายตาของเขาก็มองไปยังสตรีชุดเงิน
หยางเย่มองไปที่นางพร้อมกล่าว ” ดูเหมือนเขากําลังชักชวนท่านนะ ท่านคิดเห็นเช่นไร? จะร่วมมือกันหรือไม่?”
สตรีชุดเงินมองไปที่ไปเจียงก่อนจะยื่นมือไปกอดแขนหยางเย่ นางเผยรอยยิ้มยั่วยวนพร้อมเอ่ย “ข้าตั้งใจจะไปกับสามีเท่านั้น”
หยางเย่ยักไหล่มองไปเจียง “พี่ชายไป ท่านไปได้แล้ว!”
ไปเจียงเริ่มกําหมัดอย่างช้า ๆ เขาติดตามทั้งสองมานาน และทราบดีว่าทั้งสองไม่ใช่คู่รักแบบสามีภรรยา เหตุผลที่สตรีชุดเงินเรียกหยางเย่ว่าสามีคงเพราะหวังให้เขาปกป้อง เพราะสถานที่เช่นนี้ไม่มีกฎ และทุกสิ่งขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งเท่านั้น และเป็นไปได้ยากที่สตรีอ่อนแอเช่นนางจะเอาชีวิตรอดคนเดียว
แน่นอนว่ามันไม่ใช่ประเด็นหลัก ประเด็นหลักคือไปเจียงชื่นชอบสตรีตรงหน้า สตรีผู้นี้รูปร่างทรวดทรงยอดเยี่ยมกว่าสตรีนับร้อยที่เขาเคยนอนด้วย และเหตุผลที่เขาส่งชายชุดดําทั้งสองไปก็เพื่อจัดการกับหยางเย่ แต่ไม่คาดคิดว่าหยางเย่จะแข็งแกร่งจนสามารถสังหารลูกน้องได้ในพริบตา
สิ่งนี้ทําให้เขารู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา
” หรือว่าพี่ไปคิดจะยึดนางจากข้างั้นหรือ?” หยางเย่กล่าวพร้อมรอยยิ้มเมื่อเห็นเขายังไม่จากไป เนื่องจากเขาสามารถสั่งการยอดฝีมือขั้นปราณสวรรค์ได้ แสดงว่าสถานะหรือตัวตนของเขาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เขาสังหารชายชุดดําทั้งสองอย่างไม่ลังเล แต่คงไม่โง่พอที่จะสังหารชายหนุ่มตรงหน้าเพื่อสตรีด้านข้างแน่
หากชายหนุ่มผู้นี้คิดจะลงมือกับเขา หยางเย่เองก็ไม่ลังเลที่จะส่งชายหนุ่มลงนรก
สตรีชุดเงินเผยรอยยิ้มแปลกประหลาดขณะมองไปที่ไปเจียง เพราะนางต้องการให้เขาลงมือ แน่นอนว่าไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย นางสนใจในความแข็งแกร่งของหยางเย่มากกว่า แม้จะเคยประมือกับเขามาครั้งหนึ่ง แต่ก็ไม่สามารถทราบถึงความสามารถที่แท้จริงของชายที่มีนามว่า “เย่หยาง” นี่คือเหตุผลที่นางปกปิดขั้นพลังไว้ ไม่ใช่เพื่อไล่ผู้ที่จ้องจะเข้ามาขโมยแหวน แต่นางทําเพื่อทดสอบความสามารถหยางเย่ (***เรียนผู้อ่าน ในตอนก่อนหน้าผมแปลผิดไปนิด อันที่จริงหยางเย่แนะนําตัวเองต่อหน้าผู้หญิงว่าชื่อ เย่หยาง เพราะไม่ต้องการให้ทราบชื่อจริง ตอนแรกนึกว่าต้นฉบับเขียนผิด สรุปคือในมุมของผู้หญิงนางคิดว่าหยางเย่ชื่อเย่หยางนะครับ)
ขณะมองไปที่รอยยิ้มบนใบหน้าหยางเย่ ไปเจียงลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะหยุดคิดที่จะลงมือ ไปเจียงไม่สามารถทราบพลังที่แท้จริงขอหยางเย่ และยังดูสงบเกินไป เพราะเขาเป็นถึงยอดฝีมือขั้นปราณสวรรค์ระดับเจ็ด! แต่ชายหนุ่มตรงหน้าแทบไม่แสดงอาการหวาดกลัวแม้แต่น้อย เขารู้สึกว่าชายหนุ่มมีไพ่ตายบางอย่างแน่นอน
เมื่อนึกได้เช่นนั้น ไปเจียงทําได้แค่ฝืนยิ้ม ” น้องชายเจ้าต้องล้อข้าเล่นแน่ ข้า ไปเจียงหาได้เป็นคนเช่นนั้นไม่ เมื่อเจ้าไม่ตั้งใจจะร่วมกลุ่มกับข้า เช่นนั้นก็คงต้องกล่าวคําลา และให้ข้าแนะนําเจ้าสักหน่อย เป็นการดีที่จะถ่อมตัวสักหน่อยนะ!”
ทันทีที่กล่าวจบ เขามองอย่างเย็นเยือกไปที่หยางเย่ก่อนจะหันหลังจากไป
“ถ่อมตัวงั้นหรือ?” หยางเย่ส่ายหัวพร้อมยิ้มก่อนจะหันไปมองสตรีชุดเงิน ”ข้าเป็นคนยโสขนาดนั้นเลยหรือ?”
“สามีช่างดูมีอํานาจเหนือสิ่งใด มันทําให้ข้าใจเต้นรัว!” สตรีชุดเงินกล่าวอย่างเขินอายเล็กน้อย
หยางเย่ยังคงท่าทีเช่นเดิมไว้ก่อนจะเอ่ย ” จุดประสงค์ของการกระทําเช่นนี้คืออะไร?”
“ข้าสนใจในตัวเจ้ามาก เหตุใดถึงยังไม่เชื่อข้า?” สตรีชุดเงินกล่าวด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดเล็กน้อย
” หยุด!” หยางเย่สะบัดมือพร้อมกล่าว “เลิกพล่ามเรื่องไร้สาระเสียที ข้าบอกท่านแล้วว่าพวกเราจะแยกกันทันทีที่มาถึง ตอนนี้ก็ควรแยกกันได้แล้ว หากมีโอกาสไว้เจอกันใหม่ ไม่สิ อย่าเจอเลยดีกว่า!”
ทันทีที่กล่าวจบ หยางเย่หันหลังจากไป เพราะเขาไม่มีสิ่งใดต้องเสียเวลากับนางอีก
หลังจากเดินไปไม่กี่ก้าว หยางเย่สูดหายใจลึกพร้อมหันไปมองสตรีชุดเงินที่ยังตามมา จากนั้นเขาขมวดคิ้วพร้อมเอ่ย ” ท่านคิดว่าข้าจะไม่ลงมืองั้นหรือ?”
” ข้า”
“ช่วยกล่าวด้วยน้ำเสียงปกติเสียที” หยางเย่ขัดจังหวะ
ท่าทีของนางกลับเป็นปกติเมื่อได้ยิน นางใช้สายตามองไปที่ดวงตาหยางเยโดยตรง ”เจ้ายอมรับไหมว่าเมื่อกี้ได้ขโมยจูบข้า?”
ริมฝีปากหยางเย่กระตุก ” มันเป็นเพราะท่านที่ใช้ข้าก่อน!”
นางกล่าวอย่างจริงจัง ”ความบริสุทธิ์ของข้าถูกทําลายด้วยน้ำมือเจ้า”
“ท่านล้อข้าเล่นงั้นหรือ?” หยางเย็โกรธจนถึงขั้นที่จะกระทืบพื้น ”ข้าเพียงแค่จูบท่านเท่านั้นหาได้ทําสิ่งอื่นไม่ เช่นนั้นท่านอย่ากระทําตัวไร้ยางอายได้หรือไม่?”
”เจ้ายังไม่ทราบตัวตนของข้าสินะ” สตรีชุดเงินกล่าวต่อ “ข้าเป็นน้องสาวขององค์จักรพรรดิแห่งจักรวรรดิต้าฉิน ดังนั้นข้าจึงเป็นองค์หญิงของจักรวรรดิต้าฉิน ถึงแม้ข้าจะเป็นองค์หญิงที่ไม่ค่อยคิดอะไรมาก แต่ยังไงก็เป็นองค์หญิง เจ้าเข้าใจสิ่งที่ข้าจะบอกหรือไม่?”
” ท่านคิดจะใช้อํานาจของจักรวรรดิต้าฉินมาบังคับข้างั้นหรือ?” หยางเย่หรี่ตาลงขณะเอ่ยคํา
สตรีชุดเงินส่ายหัว “โอ้น้องชาย ทําไมเจ้ายังไม่เข้าใจอีก? ตั้งแต่ที่เราหนีมาด้วยกัน ทั้งจักรวรรดิต้าฉินและอาณาจักรสัตว์อสูรก็ไม่ยอมปล่อยพวกเราไปแล้ว ไม่มีความสัมพันธ์ใดกับพวกเราและยังพบกันโดยบังเอิญ แต่พวกเขาจะเชื่อมั้นหรือ?
“อันดับแรกข้าทําให้แผนการขององค์จักรพรรดิพัง เช่นนั้นเขาต้องไปปล่อยข้าไปแน่นอน อันดับที่สอง ข้าทําให้องค์ชายรองของนครสัตว์อสูรเสียหน้า เขาก็ไม่คิดจะปล่อยข้าไปเช่นกัน ถึงแม้เจ้าจะคิดว่ามันเป็นปัญหาของข้าคนเดียว แต่พวกเขาจะคิดเช่นนั้นหรือไม่? หากสองมหาอํานาจนี้ลงมือ เช่นนั้นเจ้าก็ไม่โอกาสรอดชีวิตถึงแม้จะเป็นศิษย์เอกของสํานักดาบราชันก็ตาม!”
ใบหน้าหยางเย่มืดดําเมื่อยินเช่นนั้น ไม่ว่ายังไงคํากล่าวของนางก็สมเหตุสมผลจริง หากทั้งสองลงมือ เช่นนั้นหยางเย่จะไม่สามารถเอาชีวิตรอดได้ เพราะจักรวรรดิทั้งสองนี้ยิ่งใหญ่กว่าราชั่วงบุปผาและสํานักดาบราชันมาก
สตรีชุดเงินกล่าวต่อ ”เช่นนั้นหากพวกเราต้องการมีชีวิตต่อ พวกเราก็ต้องร่วมมือกัน มีเพียงการร่วมมือกันเท่านั้นที่จะมีโอกาสรอด กล่าวคือพวกเราลงเรือลําเดียวกันแล้ว และควรช่วยเหลือกันไม่ใช่แยกกัน! ข้าทราบดีว่าเจ้าไม่พอใจ เพราะแต่เดิมมันเป็นเพียงปัญหาของข้า แต่ตอนนี้มันเป็นเช่นนี้ไปแล้ว ดังนั้นพวกเรายังจะทําอะไรได้อีก?”
ทันทีที่กล่าวจบ นางหันไปมองหยางเย่พร้อมรอคําตอบ
แผนเดิมของนางคือปลีกตัวออกไปพร้อมปกปิดตัวตนหลังจากหนีได้ แต่หยางเย่ที่ยืนตรงหน้าทําให้แผนของนางเปลี่ยนไป หากเขายอมร่วมมือ เช่นนั้นนอกจากความมั่นใจที่จะเผชิญอันตราย นางยังสามารถกลับไปมีตัวตนในราชวงศ์ได้อีกครั้ง แน่นอนว่าเงื่อนไขทั้งหมดจะสําเร็จได้ มันขึ้นอยู่กับชายหนุ่มคนนี้