มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 539
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 539
“มันช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่พวกเราตัดสินใจมาที่นี่เพื่อทานอาหารเหมือนกัน บรี นี่ใครกันเหรอ?”
ทันทีทันใดนั้น หนึ่งในพวกเขาก็มองไปที่เจอรัลด์และถามขึ้นมา
“โอ้! เขาเป็นเพื่อนของฉัน ไม่ต้องกังวล ถ้าเธอยุ่งอยู่ ก็เชิญเลยไปทานอาหารของเธอก่อนสิ!”
เมื่อได้ยินว่าพวกเขาเรียกเธอด้วยชื่อจริงของเธอ เธอจึงเริ่มประหม่าขึ้นมามากเกินไป
พวกเขาไม่ใช่แค่คนแปลกหน้าที่ไหน แต่เป็นเพื่อนร่วมชั้นจากมัธยมต้นของเธอ นอกจากนั้น พวกเขาก็กำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเดียวกันในปัจจุบันนี้อีกด้วย มันเกินกว่าความคาดหมายที่เธอจะบังเอิญได้พบกับพวกเขาในวันนี้ เพราะเธอก็ค่อนข้างกลัวว่าสถานการณ์แบบนั้นอาจจะเกิดขึ้น
“ไม่เอาน่า อย่าเป็นแบบนี้เลย บรีรีบแนะนำเขาให้พวกเราสิ นี่คือเพื่อนแบบไหนกัน? นอกจากนี้ เขาก็สั่งอาหารอร่อย ๆ มากมายขนาดนี้ให้เธอ พวกเราต้องรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นใคร!”
พวกเขาร้องขอกันอย่างตื่นเต้น
“บรีเหรอ? เธอชื่อมิเชลไม่ใช่หรือไง?” เจอรัลด์ถามด้วยความสับสนงุนงง
“มิเชลเหรอ? นั่นคือพี่สาวของบรี เอ๋? เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? เดี๋ยวนะ นายไม่รู้จักซาบริน่าเหรอ? ถ้าอย่างนั้นนายมาทำอะไรที่นี่ล่ะ?”
พวกเขาถาม ดูประหลาดใจ
“เจอรัลด์ หุปปากน่า!” ซาบริน่ารีบลุกขึ้นยืนอย่างประหม่า
จากนั้นเธอก็ลากคนอื่น ๆ ไปด้านข้าง
ดูเหมือนว่าเธอต้องการจะอธิบายสถานการณ์ให้พวกเขาฟัง
แต่เจอรัลด์ดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างหลังจากนั้น
เขาจำได้ลาง ๆ ว่า คุณลุงวินเทอร์พูดว่ามิเชลมีน้องสาวที่เด็กกว่าเธอราว ๆ สามปี
เป็นไปได้ไหมว่าเธอคือน้องสาวของมิเชล—ซาบริน่า?
‘เช่นนั้นมันหมายความว่า มิเชลไม่ได้มานัดบอดในวันนี้ใช่ไหม? แต่เธอขอให้น้องสาวของเธอมาแทนงั้นเหรอ?’
‘โธ่เว้ย! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเธอไม่แม้แต่จะแสดงความจริงใจแม้แต่นิดเดียวในการนัดบอดวันนี้ เธอยังกล้าถามคำถามแกมโกงเกี่ยวกับบ้าน และรถอย่างหยาบคายอีกด้วยซ้ำ’
ครู่ต่อมา ซาบริน่าก็กลับมาพร้อมกับคนอื่น ๆ สีหน้าของเธอดูตรึงเครียดและแย่ลง
“ใช่ ถูกต้อง ฉันคือซาบริน่า มิเชลคือพี่สาวของฉัน แต่นายรู้ไหมว่าทำไมพี่สาวของฉันถึงขอให้ฉันมา? เธอบอกให้ฉันมาที่นี่เพื่อถามความเห็นของนาย พี่สาวของฉันถือเอาเรื่องนี้จริงจังเมื่อคุณปู่บอกเธอเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่สิ่งที่นายทำวันนี้มันน่าผิดหวังจริง ๆ ฉันยังเล่าให้เพื่อนของฉันฟังด้วยถึงสิ่งที่นายเพิ่งบอกฉัน และแม้แต่พวกเขาก็พิสูจน์ได้เลยว่านายแค่โม้อย่างไร้เดียงสาเกี่ยวกับตัวนายเองแค่นั้น!”
“นอกจากนี้ สถานการณ์ครอบครัวของนายยังแย่กว่าที่พวกเราคิดไว้เสียอีก ฉันพูดถูกไหม นายบอกฉันมาสิ” ซาบริน่าคุยเรื่อยเปื่อย และตำหนิเจอรัลด์
“ถูกต้อง กลายเป็นการนัดบอดสินะ เฮ้ เพื่อน นายรู้ไหมว่ามิเชลสวยมากแค่ไหน? นายจะอยากคบกับมิเชลได้อย่างไรกันเนี่ย เมื่อพิจารณาว่านายเป็นคนแบบไหนแล้ว?”
ผู้ชายคนหนึ่งพูดเหน็บแนมอย่างเย็นชา
คนอื่นก็พูดเยาะเย้ยขึ้นมา “มิเชลเป็นคนสวยของโรงเรียนของเราสมัยที่พวกเรายังเรียนอยู่มัธยมต้นกัน แล้วนายล่ะ? นายเป็นแค่ตัวตลกจากโรงเรียนมัธยมต้น ฮ่า นายวางแผนได้ดีแค่ไหน เอ๋! นายประจบคนรุ่นก่อนและให้พวกเขาเป็นพ่อสื่อให้นาย แต่นายเคยคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหม? ถ้ามิเชลคบกับนาย นายจะช่วยเหลือเกื้อกูลเธอได้อย่างไร?”
ผู้หญิงอีกคนก็พูดบางอย่างขึ้นมาเหมือนกัน “ช่างเรื่องนี้กันเถอะ แค่ดูกระเป๋าที่ฉันถืออยู่ตอนนี้สิ มันมีมูลค่าถึงสองสามพันดอลลาร์ แน่นอนว่า มิเชลต้องการบางอย่างที่ดีกว่านี้แน่ นายจะจ่ายมันไหวได้ยังไงกัน?”
พวกผู้หญิงเริ่มกล่าวโทษเขากัน
“ที่รัก ฉันชองนาฬิกาที่คุณสวมอยู่มากกว่า นาฬิกาประเภทนี้มีราคามากกว่าหนึ่งพันดอลลาร์ คุณจะรู้สึกค่อนข้างมีภูมิฐานถ้าคุณสวมสิ่งนั้นตอนที่คุณออกไปข้างนอก!”
ผู้หญิงคนหนึ่งควงแขนผู้ชายอีกคนอย่างแนบแน่น
จากนั้นเธอก็จงใจเผยให้เห็นนาฬิการอบข้อมือของเขา
หลังจากนั้น เธอก็มองไปที่เจอรัลด์และพูดขึ้นมา “เจอรัลด์ นายไม่ใส่นาฬิกาเมื่อนายไปข้างนอกเหรอ? นายไม่รู้เหรอว่าการสวมนาฬิกาคือ สัญลักษณ์ของผู้ชายที่มีวุฒิภาวะ? แม้ว่านายไม่สามารถจะซื้อนาฬิกาดี ๆ แบบนี้ได้ก็ตาม ฉันมั่นใจว่านายสามารถซื้อนาฬิกาที่มีราคาเพียงแค่สองสามร้อยดอลลาร์ได้นะ ใช่ไหม?”
“ถูกต้อง! นายกล้าออกมานัดบอดกับมิเชลแบบนี้ได้ยังไงกันเนี่ย?”
ดูเหมือนราวกับว่าพวกเขาได้หารือกันเป็นอย่างดีในหมู่กันเองแล้วว่า จะเยาะเย้ยเจอรัลด์ได้อย่างไร เขาคือเป้าหมายแรกของพวกเขา
ทุกอย่างที่พวกเขาพูดฟังดูไร้สาระ และบ้าวัตถุนิยมเหลือเกิน
พวกเขาเป็นแค่กลุ่มคนหนุ่มสาวร่ำรวยที่โง่เขลาและประสงค์ร้าย เจอรัลด์เคยเห็นคนโอ้อวดและดีแต่พูดเช่นมามากแล้ว เมื่อคนอื่น ๆ โอ้อวดความมั่งคั่งของพวกเขา
แม้จะรู้แบบนั้น เขาก็ยังคงเลือกที่จะไม่ทำให้พวกเขาขายหน้ากัน และเอาแต่นิ่งเงียบ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็คือสิ่งที่เขาต้องการอยู่ดีเพราะพวกเขาก็ไม่อยากให้เขาเดทกับมิเชล
เจอรัลด์แค่อยากจะหนีไป และลืมเกี่ยวกับบททดสอบแสนสาหัสทั้งหมดนี้ซะ
แต่ในขณะนั้นเอง