มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1406
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1406
เมื่อเห็นเวสหายใจเข้าลึกอีกครั้ง ปีเตอร์จึงถามว่า “…เสียงกรีดร้องโหยหวนเหรอ? แล้วคุณเห็นศพทั้งหมดกี่ศพ?”
“มี… ศพไม่มากหรอกครับ… น่าจะประมาณแปดศพ ถ้าผมจำไม่ผิด… ผมตกใจมากกับเสียงกรีดร้องที่ดังมาจากสวนหลังบ้าน ในตอนนั้นจนไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก…!” เวสตอบ เห็นได้ชัดว่าเขายังตื่นตระหนกกับประสบการณ์นั้น
“…แล้ว… หลังจากนั้น คุณก็ตกลงไปในบ่อน้ำ และอยู่ที่นั่นจนถึงตอนนี้เลยเหรอ…? นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดใช่ไหม?” เจอรัลด์ถาม ขณะที่เขาหันไปสบตากับปีเตอร์
เจอรัลด์เชื่อในคำพูดของเวส เนื่องจากก่อนหน้านี้เขาได้ใช้นิมิตแห่งสวรรค์เพื่อตรวจจับการโกหก ปรากฏว่าทุกอย่างที่เวสพูดเป็นความจริง
“ใช่ครับ คุณคลอฟอร์ด! นอกจากนี้ หลังจากที่ผมตกลงไปในบ่อน้ำได้ไม่นาน ผมก็เริ่มได้ยินเสียงคนวิ่งมาทางผม! ด้วยความกลัวสุดขีด ผมจึงดำดิ่งลงไปในบ่อน้ำทันที! ผมคิดว่านั่นเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ผมยังมีชีวิตอยู่!” เวสอธิบาย
“…ใครกันที่เป็นคนบงการทุกอย่างนี้…?” เจอรัลด์พึมพำก่อนจะสูดหายใจเข้าลึก เลือดและพลังลมปราณของเขากำลังเดือดพล่าน ณ จุดนี้ ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นสามารถสัมผัสได้ถึงแรงอาฆาตที่เจอรัลด์ปลดปล่อยออกมาจากตัวของเขา
“ไม่ว่าอย่างไร ในที่สุดผมก็โผล่หัวขึ้นมาจากน้ำ.และชะเง้อดูว่าด้านนอกปลอดภัยแล้วหรือยัง… อย่างไรก็ตาม ผมกลับได้ยินเสียงของสิ่งของหนัก ๆ ถูกลากออกไปทันที… ผมคิดกับตัวเองว่าสมมติว่ามันเป็นเสียงของศพที่กำลังถูกกำจัดล่ะ ผม กลัวมากจนไม่กล้าแม้แต่จะเปิดเผยตัว จนกระทั่งได้ยินเสียงที่คุ้นเคยของคุณ คุณคลอฟอร์ด! ว่าแต่ว่า… เหตุใดสิ่งเลวร้ายนี้จึงเกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณล่ะครับ คุณคลอฟอร์ด…? ด้วยความที่ครอบครัวของคุณมีอำนาจมาก ผมเลยนึกไม่ออกว่าจะมีใครที่กล้าพอที่จะแตะต้องพวกคุณ!” เวสร้องออกมา น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
“…ก่อนหน้านี้ คุณพูดอะไรเกี่ยวกับคนที่รู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับครอบครัวคลอฟอร์ด ก่อนที่คุณจะมาถึงคฤหาสน์นี้… ใครเป็นคนบอกคุณเกี่ยวกับข่าวลือนั้นกันแน่?” ปีเตอร์ถามอย่างเย็นชา
“ผม ผมรู้เรื่องนี้มาจากผู้จัดการระดับภูมิภาคสองสามคนในเวสตัน! จากที่ผมรู้ พวกเขาเป็นคนแรก ๆ ที่รู้เกี่ยวกับเหตุการณ์นี้!”
“…อย่างนี้นี่เอง ว่าแต่ว่า คุณบอกว่าคุณมีบางอย่างที่จะต้องรายงานให้ครอบครัวคลอฟอร์ดทราบ… มันคืออะไร?”
“ช ใช่! ผมตรวจพบว่ามีผู้จัดระดับภูมิภาคสองสามคนกำลังทำการถ่ายโอนทรัพย์สินของตระกูลคลอฟอร์ดอย่างลับ ๆ ในขณะที่ผมต้องการจะรายงานเรื่องนั้นให้พวกคุณทราบทันที แต่ผมก็ไม่พบใครที่นี่เลย! ผมไม่คิดเลยว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณตอนที่ผมมาถึงที่นี่ คุณคลอฟอร์ด…!” เวสร่ำไห้ โดยยังคงคุกเข่าอยู่กับพื้นทั้งน้ำตา
“ผู้จัดการที่คุณพูดถึง… ดูเหมือนว่าพวกเขาจะรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้นะ!” ปีเตอร์ตอบ
เจอรัลด์พยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นเขาจึงกล่าวว่า “ผมจะไปจับตัว และสอบปากคำพวกเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้ทันที!”
“…ไม่ อย่าเพิ่งทำแบบนั้นเลยนะ มันจะเป็นการดีที่สุดถ้าเราจะไม่ทำให้ศัตรูรู้ตัวก่อนที่จะตรวจสอบหารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุการณ์นี้ ท้ายที่สุด ความจริงที่ว่าผู้จัดการระดับภูมิภาคกล้าที่จะถ่ายโอนทรัพย์สินออกไปอย่างลับ ๆ นั้นเป็นประเด็นที่น่าสงสัยยิ่งนัก เท่าที่ผมรู้ ผู้จัดการระดับภูมิภาคของตระกูลคลอฟอร์ดมักจะส่งต่อเรื่องการค้าของพวกเขาไปให้รุ่นต่อ ๆ ไปดูแลเสมอ และแต่ละรุ่นจนถึงตอนนี้ก็มีความจงรักภักดีต่อตระกูลคลอฟอร์ดกันหมด ด้วยความภักดีของพวกเขา การทรยศต่อตระกูลคลอฟอร์ดในขณะที่พวกเขาตกอยู่ในอันตรายจึงดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้อย่างยิ่ง เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เราอย่าเพิ่งหุนหันพลันแล่นจนกว่าเหตุการณ์จะกระจ่างมากกว่านี้” ปีเตอร์ตอบหลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่ง
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็พยักหน้า แม้ว่าเขาจะเริ่มมองชายคนนั้นด้วยสีหน้าที่อยากรู้อยากเห็น ก่อนจะตัดสินใจถามในที่สุด “…ดูเหมือนคุณจะรู้เรื่องครอบครัวของผมไม่น้อยเลย ใช่ไหมครับ?”
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจอรัลด์รู้สึกเช่นนี้ และเขาก็รู้สึกสงสัยมานานแล้วว่าทำไมปีเตอร์ถึงรู้เรื่องของเขามากถึงขนาดนี้
“…คุณรู้จักผมมานานแล้วใช่ไหมครับ? หรือว่าเราเจอกันตอนที่ผมเด็กกว่านี้?” เจอรัลด์ถาม
ปีเตอร์ส่ายหัวพร้อมรอยยิ้ม แล้วตอบว่า “อืม… สิ่งแรกที่คุณพูดเป็นความจริง คือผมรู้จักคุณครั้งแรกตอนที่คุณเรียนมหาวิทยาลัย… ในตอนนั้น ผมคอยติดตามชีวิตประจำวันของคุณอย่างใกล้ชิด”
ปีเตอร์ไม่รู้สึกว่าเขาจำเป็นที่จะต้องปิดบังเรื่องทั้งหมดนี้อีกต่อไปแล้ว และคำพูดของเขาก็เป็นไปตามที่คาดไว้ ซึ่งมันได้สร้างความประหลาดใจให้กับเจอรัลด์เป็นอย่างมาก
“…อะไรนะ? คุณแอบสังเกตผมมาตลอดเลยเหรอ?” เจอรัลด์ถามด้วยความงุนงง
“ความจริงแล้ว การสังเกตก็ไม่ใช่คำที่ถูกต้องนัก…” ปีเตอร์ตอบ ดูเหมือนเขากำลังครุ่นคิดบางอย่างก่อนที่สีหน้าของเขาจะค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม
“แต่คุณรู้เรื่องของผมมากเกินไปแล้วนะครับ ท่าน… ถ้าอย่างนั้น คุณจะรู้จักผมดีขนาดนี้ได้อย่างไร ถ้าคุณไม่ได้คอยสังเกตผม” เจอรัลด์ถามด้วยความไม่เข้าใจ
“ถ้าจะให้พูดตามตรง ผมเฝ้าสังเกตใครบางคนที่เฝ้าสังเกตคุณมาตลอดต่างหากล่ะ!”