มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1311
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1311
ผู้นำแห่งคิงวัลเลย์มีชื่อว่า รูเพิร์ท เยทแมน
แม้ว่าชื่อนั้นจะฟังดูไม่โดดเด่นในหมู่คนทั่วไป แต่ก็เป็นที่รู้จักกันดีในแวดวงของผู้ที่มีอิทธิพลระดับโลก ซึ่งเห็นได้ชัดตั้งแต่ตอนที่เจอรัลด์เดินทางมาถึงที่นี่ ในขณะที่เขากำลังเดินตามไมลส์ไป เขาสังเกตเห็นป้ายต่าง ๆ มากมายติดแสดงไว้รอบ ๆ หุบเขา และป้ายเหล่านั้นก็คือภาพคนดังจากทั่วทุกมุมโลกนั่นเอง
เจอรัลด์พอจะเดาได้ว่า บุคคลที่อยู่ในภาพเหล่านั้นน่าจะเป็นคนที่เคยมาที่นี่เพื่อขอยา
ในขณะที่พวกเขาเดินต่อไป ไมลส์ยังอธิบายเพิ่มเติมอีกว่า ชายคนนั้นได้มารู้จักกับผู้นำของหุบเขาแห่งนี้ได้อย่างไร อย่างที่ไมลส์ได้กล่าวไว้แล้วก่อนหน้านี้ ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นคนขับรถส่วนตัวของผู้นำของหุบเขาแห่งนี้ และในตอนนั้น ทั้งคู่ก็มักจะออกเดินทางด้วยกันอยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม วันหนึ่งทั้งคู่เจอศัตรูที่ตั้งใจจะฆ่าพวกเขาให้ได้! สิ่งต่าง ๆ เลวร้ายจนไมลส์ถึงกับต้องแบกเจ้านายของตัวเองไว้บนหลัง ขณะที่พวกเขาหนีเอาชีวิตรอด!
โชคยังดีที่ในที่สุดพวกเขาก็ได้พบกับชายคนนั้น ในขณะที่พวกเขายังคงพยายามจะหนีให้พ้นจากผู้ที่กำลังไล่ล่า ชายคนนั้นกำลังเดินทางกลับบ้าน และเห็นว่าพวกเขากำลังมีปัญหา เขาจึงพาคนทั้งสองกลับไปกับเขาด้วย
ด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่จึงสามารถหลบหนีการไล่ล่าได้ในที่สุด หลังจากที่วิ่งหนีอย่างเหนื่อยล้ามาหลายวัน
เพื่อเป็นการแสดงความขอบคุณ รูเพิร์ทได้บอกกับชายคนนั้นว่า หากเขามีอะไรให้ช่วยเหลือในอนาคต เขาจะพยายามช่วยชายคนนั้นอย่างแน่นอน
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็คิดว่ารูเพิร์ทคงจะสันนิษฐานว่าชายผู้นั้นน่าจะเป็นแค่ชาวนาธรรมดา ๆ เท่านั้น ในทางกลับกัน นั่นอาจจะทำให้เขาคิดว่า ท้ายที่สุดแล้ว สิ่งใดก็ตามที่ชายผู้นั้นร้องขอ ก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ยากเย็นอะไรสำหรับเขานัก
แม้ว่าผู้ไล่ล่าจะปล่อยให้ทั้งคู่หลุดมือไปได้อย่างง่ายดาย แต่เจอรัลด์คิดว่าชายคนนั้นน่าจะจัดการกับพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ก่อนที่จะมาพบกับคนทั้งคู่
ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างชายคนนั้นและรูเพิร์ท
จากสิ่งที่เจอรัลด์เห็น ไมลส์ดูเหมือนจะไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ท้ายที่สุดแล้ว เขาเป็นคนที่ค่อนข้างจะดูจริงจังกับการชดใช้หนี้บุญคุณ
ขณะที่พวกเขาเดินต่อไป ไมลส์หันมามองเจอรัลด์ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะถามว่า “ว่าแต่ว่า คุณชื่ออะไรเหรอครับ?”
“เรียกผมว่าคลอฟอร์ดก็ได้” เจอรัลด์ตอบ โดยคิดว่าชื่อจริงของเขาอาจจะเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนที่จะเอ่ยถึง โดยเฉพาะในบริเวณนี้
เมื่อเข้าใจว่าเขาไม่ต้องการจะเปิดเผยชื่อ ไมลส์เพียงแค่ยิ้มตอบ และไม่พยายามที่จะสอดรู้สอดเห็นอีกต่อไป
ไม่นานนัก ทั้งคู่ก็มาถึงศาลาในหุบเขา
ทันทีที่พวกเขานั่งลง ไมลส์ก็เริ่มพูดด้วยน้ำเสียงขอโทษขอโพยว่า “คุณคลอฟอร์ดครับ ก่อนหน้านี้คุณอาจจะไม่จำเป็นต้องแจ้งผู้ของหุบเขาเกี่ยวกับสมุนไพรสามชนิดที่คุณต้องการ และผมก็สามารถรวบรวมสมุนไพรเหล่านี้ให้คุณได้ในทันที แต่ตอนนี้เงื่อนไขต่าง ๆ ได้เปลี่ยนไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ลูกศิษย์ทุกคนในหุบเขาก็กำลังยุ่งกับภารกิจของพวกเขา ดังนั้นสมุนไพรทั้งหมดที่นี่จึงอยู่ภายใต้การดูแลของผู้อาวุโสรองของหุบเขานี้ น่าสียดายที่ตอนนี้ผมกำลังมีปัญหาขัดแย้งกับผู้อาวุโสรอง และผมก็ไม่ได้มีอำนาจมากมายที่นี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว นอกจากนี้ สมุนไพรที่คุณขอค่อนจะข้างหายาก และมีความเป็นไปได้ที่ผมอาจไม่สามารถทำตามคำขอของคุณได้!”
ดูจากลักษณะท่าทางของเขาแล้ว เจอรัลด์สามารถบอกได้ว่า เขาทำอะไรค่อยไม่ถูกกับสถานการณ์นี้ เจอรัลด์ยังสามารถบอกได้อีกว่าไมลส์ไม่ใช่คนที่มีตำแหน่งสูงจากสายตาที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรงทางเข้าใช้มองเขา
นอกจากนี้ วิธีที่ไมลส์ใช้อธิบายสถานการณ์ก่อนหน้านี้ได้ชี้ให้เห็นว่า ในขณะที่ไมลส์เองยังคงจำการกระทำที่มีเมตตาของชายคนนั้นที่มีต่อเขาได้ ในทางกลับกัน รูเพิร์ทอาจลืมเรื่องนี้ไปหมดแล้วก็เป็นได้ ด้วยเหตุนี้ จึงมีความเป็นไปได้สูงที่ ‘เพื่อน’ ของชายผู้นั้นจะไม่เต็มใจที่จะมอบสมุนไพรให้เขา
“ถึงกระนั้น ในเมื่อผู้มีพระคุณของผมได้ให้โอกาสผมตอบแทนบุญคุณแล้ว ผมจะใช้ความสามารถทุกอย่างที่ผมมีเพื่อตอบสนองคำขอของเขาให้ดีที่สุด! ถ้าคุณไม่รังเกียจที่จะอยู่ที่นี่สักสองสามวัน ผมยินดีที่จะพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อหาสมุนไพรสามชนิดนั้นมาให้คุณ!” ไมลส์ป่าวประกาศ
ถึงแม้เจอรัลด์อยากจะบอกกับเขาว่ามันไม่ควรใช้เวลาเกินสามวัน เนื่องจากการได้รับสมุนไพรที่เลยกำหนดเวลาไปแล้วนั้น จะทำให้พวกมันไร้ประโยชน์สำหรับเขา แต่หลังจากที่เขาได้เห็นว่าไมลส์ดูมีความมุ่งมั่นเพียงใด เจอรัลด์ก็ไม่กล้าที่จะพูดกับเขาแบบนั้น เมื่อคิดได้เช่นนั้น สิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้คือรอดูว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
“เนื่องจากผมต้องการเวลาอย่างน้อยสองสามวัน ผมจะทำความสะอาดห้องเล็ก ๆ เพื่อให้คุณพักชั่วคราวไปก่อนนะครับ ผมจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อห้องพร้อมแล้ว ในระหว่างนี้ ผมจะตามหาตัวผู้นำของหุบเขาให้เจอ โดยหวังว่าจะได้สมุนไพรมาให้คุณ!” ไมลส์พูด เขาตรวจสอบให้แน่ใจว่าจดหมายยังอยู่กับเขา ก่อนที่จะรีบออกไปจัดการธุระของเขาให้เสร็จ
ในขณะเดียวกัน เจอรัลด์ก็มีอิสระที่ทำอะไรก็ได้ในคิงวัลเลย์
ตอนที่ไมลส์พาเขาไปที่ศาลาก่อนหน้านี้ เจอรัลด์ได้สังเกตเห็นวิธีการปรุงยาหลากหลายวิธีที่สลักไว้บนหน้าผาเตี้ย ที่ล้อมรอบบริเวณศาลาแห่งนั้น เมื่อจำได้ว่ามีวิธีการปรุงยาเม็ดแบบลับ ๆ สองสามวิธีฝังอยู่ในความทรงจำของเขา เขาก็ตระหนักได้ว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้กระบวนการปรุงยาในระดับที่ลึกกว่านั้น แต่เขาก็ไม่สามารถหาเวลาที่จะทำแบบนั้นได้เลย
เนื่องจากตอนนี้เขามีเวลาว่างมากพอ เจอรัลด์จึงตัดสินใจที่จะออกไปเดินเล่น และสำรวจดูรอบ ๆ บริเวณ
เมื่อมาถึงหน้าผาเตี้ยอีกครั้ง เจอรัลด์ก็เห็นว่าวิธีการปรุงยาเม็ดแบบลับ ๆ ในหุบเขาคิงวัลเลย์ส่วนใหญ่จะเน้นเรื่องการสกัดสมุนไพร โดยใช้แรงงานคนเป็นหลัก ซึ่งวิธีการสกัดแบบนั้นดูยากลำบาก และซับซ้อนเป็นอย่างมาก
มันช่างแตกต่างจากความรู้ในการปรุงยาที่ฝังอยู่ในความทรงจำของเขาเหลือเกิน
เพื่อแสดงให้เห็นว่าความทรงจำของเขา และวิธีการที่สลักไว้บนหน้าผาแตกต่างกันอย่างไร ในขณะที่วิธีการบนหน้าผาระบุว่าสมุนไพรจำเป็นต้องผ่านกระบวนการสกัด ก่อนจะทำให้บริสุทธิ์ด้วยยาพิเศษ เพื่อจะให้ได้ส่วนผสมที่ถูกต้อง แต่ความทรงจำที่ฝังไว้ในหัวของเขากลับบอกเขาเพียงว่า เขาสามารถกระตุ้นกำลังภายในของเขา เพื่อนำมาช่วยในกระบวนการสกัดและทำให้สมุนไพรบริสุทธิ์ได้