มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1263
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1263
“ฮะ! นายหมายความว่าอย่างไร? ก็ได้ ถ้านายสามารถรักษาโรคนี้ได้จริง ฉันจะทำตามทุกอย่างที่นายสั่งให้ทำ!” วอลบริดจ์พูดถากถาง
เมื่อเขาเห็นว่าเจอรัลด์ตัดสินใจโดยไม่ได้ไตร่ตรองอะไรมากมาย เขาจึงคิดว่าเจอรัลด์ไม่มีทางที่จะช่วยเด็กทารกที่ใกล้ตายเหล่านั้นได้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เจอรัลด์ก็พยักหน้ารับ ก่อนจะเดินทางไปที่ห้องกักกันผู้ป่วยพร้อมกับเจซและคณบดี
มีเพียงคนแค่สามคนที่ได้รับอนญาตให้เข้าไปในห้องนั้น จากนั้นเจอรัลด์ก็เปลี่ยนชุด ก่อนจะก้าวเท้าเข้าไปในห้องพร้อมกันกับเจซและคณบดี
ในขณะนั้น เด็ก ๆ ได้หยุดร้องไห้กันหมดแล้ว และภายในห้องก็มีบรรยากาศที่เงียบสงัด เจอรัลด์สังเกตเห็นว่า ไม่เพียงผิวของพวกเขาจะมีสีดำคล้ำ แต่ร่างกายยังดูบวมช้ำ แถมริมฝีปากก็ยังแห้งแตกอีกด้วย
เมื่อเห็นอาการที่สาหัสปางตายเหล่านั้นแล้ว เจอรัลด์ก็ยิ่งมั่นใจว่ามันเป็นผลมาจากวิชากลืนกินดวงวิญญาณอย่างแท้จริง! เขาเดาจากความเลวร้ายที่เห็นตรงหน้า เด็กเหล่านี้น่าจะรับเพียงสามส่วนสี่ของอิทธิฤทธิ์จากวิชากลืนกินดวงวิญญาณเท่านั้น
สาเหตุที่ทำให้ร่างกายของพวกเขาบวมช้ำ เจอรัลด์อธิบายได้ว่า น้ำให้ร่างกายของพวกเขาถูกดูดออกไปจนเกือบหมด เมื่อไม่มีสิ่งที่จะช่วยทำให้อวัยวะในร่างกายเย็นลง พวกเขาจึงมีไข้สูงเป็นธรรมดา!
“… ช่างโหดร้ายเหลือเกิน…!” เจอรัลด์พูดพร้อมกันถอนหายใจอย่างแรง
หากเจอรัลด์ตั้งใจจะรักษาอาการของพวกเขา เขารู้ดีว่า การฝังเข็มอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ เพื่อความมั่นใจว่าออกซิเจนในเม็ดเลือดของพวกเขาจะกลับมาไหลเวียนเป็นปกติหลังจากที่หายดีแล้ว เจอรัลด์จึงไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากใช้วิชากลืนกินดวงวิญญาณเพื่อช่วยสร้างเม็ดเลือดใหม่ที่หายไปขึ้นมาทดแทน
อย่างไรก็ตาม เจอรัลด์รู้ดีว่า หากเขาใช้วิธีนั้นจริง ตัวตนของเขาก็จะต้องถูกเปิดเผย เนื่องจากเขายังหาหินเซอคอบไซท์ไม่เจอ หากเป็นเช่นนั้น ควีนน่าก็คงจะออกตามล่าตัวเขา หากเธอจับเขาได้ เขารู้ดีว่าไม่มีทางที่เขาจะต่อกรกับพลังอันมหาศาลของเธอได้อย่างแน่นอน
เจอรัลด์กัดฟันและบอกกับตัวเองว่า ถึงมันจะต้องเป็นเช่นนั้นจริง การช่วยชีวิตเด็กเหล่านี้ก็ย่อมเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า ในเมื่อเจอรัลด์เคยดูดออกซิเจนในเม็ดเลือดของผู้ใหญ่หลายคนมาแล้ว เขาคิดว่ามันน่าจะเพียงพอที่จะรักษาเด็กทารกได้ทุกคน และหลังจากที่เขาเปิดเผยที่อยู่ปัจจุบันให้ควีนน่าได้รับรู้แล้ว… เขาก็อาจจะใช้เลือดในจี้หยก เป็นตัวช่วยในการพรางตัวให้พอรอดพ้นไปอีกสักหนึ่งคืน
ในขณะนี้ ควีนน่ากำลังอยู่ในช่วงที่ภาวะร่างกายอ่อนแอ เธอจึงไม่น่ากลัวอย่างที่เคยเป็นมาสักเท่าไร! เมื่อคิดได้เช่นนั้น เจอรัลด์จึงเริ่มทำตามแผนในหัวของเขา
เขาไปยืนอยู่หน้าเตียงของเด็กทารก ก่อนจะหยิบเข็มเงินขึ้นมาหนึ่งเล่ม และทิ่มลงไปตามจุดต่าง ๆ บนหน้าอกของทารกน้อยอย่างรวดเร็วแต่เบามือ เขาไม่ได้ทิ่มเข็มลงไปอย่างไม่มีเป้าหมาย แต่จุดเหล่านั้นคือเส้นลมปราณสวรรค์ และเส้นลมปราณหลัก
เจอรัลด์ทิ่มเข็มลงบนจุดต่าง ๆ ตามร่างกายของเด็กทารกโดยไร้ซึ่งความลังเลใด ๆ และการเคลื่อนไหวของเขาก็ลื่นไหล ราวกับว่าเขากำลังแสดงมายากลอย่างไรอย่างนั้น
เซนเองซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ เจอรัลด์ ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย
ในขณะที่เขาหันไปมองเจซ เขาก็รู้สึกประหลาดใจที่เห็นว่าเจซกำลังหลงใหลไปกับท่วงท่า และเทคนิคการฝังเข็มที่สมบูรณ์แบบของเจอรัลด์
เมื่อเจอรัลด์ฝังเข็มเสร็จแล้ว เขาก็สอดมือเข้าไปใต้ผ้านวมอย่างรวดเร็ว และจับข้อมือของเด็กทารก ด้วยวิชากลืนกินดวงวิญญาณที่เขาใช้ เจอรัลด์จึงเริ่มควบคุมและเติมเต็มออกซิเจนในเลือดของเด็กน้อยได้ในที่สุด
“…เอาล่ะ ตอนนี้เด็กคนนี้ปลอดภัยแล้ว อย่าลืมห่มผ้าให้เขาดี ๆ ด้วยล่ะ! คราวนี้ ช่วยถอดเสื้อผ้าของทารกบนเตียงสอง แล้วพาเขามาหาผมที! เร็วเข้า! เรามีเวลาไม่มาก!” เจอรัลด์สั่ง
“… อะไรกัน? เสร็จแล้วเหรอ?” เซนถาม ดวงตาของเขาเบิกกว้าง
“ใช่ คราวนี้ก็รีบรักษาเด็กคนต่อไป เร็วเข้า!”
“… ด ได้ครับ!” เซนตอบด้วยการพยักหน้า ก่อนจะวิ่งไปทำตามที่เขาบอก
“…นั่น… นั่น…! การฝังเข็มบำบัดขั้นเทพ?!” หมอชราตะโกนด้วยความประหลาดใจ เขาเฝ้าสังเกตการณ์อย่างเคร่งขรึมผ่านหน้าต่างกระจกของห้องกักกันมาระยะหนึ่งแล้ว และความสามารถอันล้นเหลือของเจอรัลด์ ทำให้ถึงกับเขางุนงงอย่างเห็นได้ชัด
“การฝังเข็มบำบัดขั้นเทพใช่ไหมครับ คุณหมอไลเซิล?” ผู้สังเกตการณ์อีกคนถามด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะยอมรับว่าเด็กคนนี้มีฝีมือที่เก่งกาจ เรื่องการฝังเข็มเป็นอย่างมาก
“ใช่จริง ๆ! การฝังเข็มบำบัดขั้นเทพ เป็นเทคนิคการฝังเข็มที่สูญหายไปนานแล้ว! ตามข่าวลือ ซอเยอร์ วิทซ์ เป็นคนเดียวที่เชี่ยวชาญในการใช้เข็มถึงสามเล่มโดยใช้เทคนิคนี้!” หมอชราที่กำลังตื่นเต้นอธิบาย เขาไม่ทันได้สังเกตสีหน้าของรองคณบดีในขณะนั้น
“…เขาจะใช่ลูกศิษย์ของซอเยอร์ วิทซ์ หรือเปล่าครับ? ไม่ มันเป็นไปไม่ได้! อย่างที่คุณพูดเมื่อสักครู่ ซอเยอร์เชี่ยวชาญการใช้เข็มเพียงสามเล่มเท่านั้น! แต่เด็กนั่นใช้ได้ถึงสิบแปดเล่ม! ช่างน่ากลัวเหลือเกิน!” แพทย์วัยชราอีกคนอุทาน เขาคุ้นเคยกับเทคนิคนี้เป็นอย่างดี
ในขณะที่หมอชราคนอื่น ๆ หลายคนที่รู้จักเทคนิคนี้ เริ่มปรบมือด้วยความชื่นชม และดวงตาของพวกเขายังคงเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น แต่ก็เห็นได้ชัดว่ายังมีหลายคนที่ยังคงไม่เชื่อ
“เขายังเด็กอยู่อยู่เลยไม่ใช่เหรอ? เขาจะรู้วิธีใช้เทคนิคการฝังเข็มที่ซับซ้อนเช่นนี้ได้อย่างไร” แพทย์คนหนึ่งถามด้วยความสงสัย
“ผมจะอธิบายให้คุณฟังให้หายสงสัย! เขากำลังใช้เทคนิคการฝังเข็มบำบัดขั้นเทพอย่างแท้จริง! ครั้งหนึ่ง ผมเคยมีโอกาสได้เห็นคุณซอเยอร์ วิทซ์ ใช้เทคนิคนี้ในขณะที่ผมเข้าร่วมงานสัมมนาเมื่อไม่กี่เดือนก่อน! จากที่ผมสังเกต เข็มที่เขาใช้เหมือนกับเข็มที่เจอรัลด์ใช้อยู่ไม่มีผิด! ตัวเข็มนั้นยาวหนึ่งนิ้ว และในขณะที่ทำการสาธิต เขายกมันขึ้น และระบายลมออกสามครั้ง ก่อนที่จะใช้เทคนิคฟีนิกซ์เพื่อเอาเข็มออก การทำแบบนี้จะเป็นการช่วยบำรุงร่างกาย และยังขจัดมวลส่วนเกิน และความชื้นออกจากภายใน อย่างไรก็ตาม ผมได้ยินมาว่าคน ๆ หนึ่งต้องใช้กำลังภายในในการทำเทคนิคการฝังเข็มบำบัดขั้นเทพแบบนี้… คุณคลอฟอร์ดจะมีกำลังภายในมากขนาดนั้นจริงเหรอ…?” แพทย์อีกคนที่ยืนดูอยู่อธิบาย
“ฮะ! คุณคิดว่าคนอย่างเขาจะมีกำลังภายในด้วยเหรอ? เชื่อผมเถอะว่ามันเป็นแค่การแสดงเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไร ความสามารถที่แท้จริงของเขาจะถูกเปิดเผยผ่านผลลัพธ์ในการรักษา คอยดูก็แล้วกัน!” วอลบริดจ์เย้ยหยัน
ด้วยความเป็นคนขี้อิจฉา วอลบริดจ์จึงภาวนาอยู่ในใจว่า ‘ขอให้ไอ้โง่คนนี้รักษาอาการของเด็ก ๆ ไม่ได้ด้วยเถิด!’
เจอรัลด์เองไม่ได้ตระหนักถึงความวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้นระหว่างผู้คนที่มามุงดูอยู่นอกห้องกักกัน ท้ายที่สุดแล้ว เขามัวแต่หมกมุ่นอยู่กับเทคนิคการฝังเข็มบำบัดขั้นเทพ ด้วยการใช้เข็มแต่ละเล่มปักลงไป และดึงออกจากร่างของเด็ก ๆ เจอรัลด์ในขณะนี้ มีใบหน้าซีดเซียว เขาค่อย ๆ รู้สึกตัวว่าตัวเองเริ่มหมดแรงลงเรื่อย ๆ เหงื่อเม็ดใหญ่ไหลหยดจากคางของเขา มันช่วยไม่ได้จริง ๆ ที่เขาจำเป็นจะต้องใช้พลังอย่างมากมาย ในการเพิ่มออกซิเจนในเลือดให้กับเด็กเหล่านี้
อย่างไรก็ตาม เขายังคงรักษาความเร็วและความแม่นยำในการฝังเข็มของเขาไว้ได้ ด้วยเหตุนี้ เขาจึงทำการรักษาเด็กทารกทั้งหมดที่อยู่ในห้องกักกันนั้นได้ในเวลาไม่นานนัก!
ด้วยความพยายามของเขา เด็กทารกที่ได้รับการรักษาจากเจอรัลด์ก่อนหน้านี้ ได้แสดงสัญญาณของการฟื้นตัวออกมาให้เห็น ใบหน้าของพวกเขาไม่มีสีหมองคล้ำอีกต่อไปแล้ว ในทางกลับกัน ผิวของพวกเขาค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นสีขาวนวลและมีเลือดฝาดขึ้น ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าพวกเขากำลังฟื้นตัว
ยิ่งไปกว่านั้น อาการบวมตามร่างกายของพวกเขาก็บรรเทาลงแล้วเช่นกัน และผิวหนังของพวกเขาก็ดูเหมือนจะกลับมาเป็นปกติ อันที่จริงแล้ว พวกเขาดูเหมือนจะมีชีวิตชีวา และแข็งแรงกว่าเมื่อก่อนด้วยซ้ำ!
“นี่ นี่มัน…”
หลังจากที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด เซนก็รู้สึกโล่งใจ และเกิดความตื่นเต้นจนน้ำตาไหลออกมาทันที
ชายคนนั้นพุ่งเป้ามาที่เจอรัลด์ตลอด และมันก็เริ่มที่จะรบกวนจิตใจของเขามากขึ้นเรื่อย ๆ …