มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1254
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1254
ในมือของพวกเขาคือของขวัญสิบแปดชิ้น ที่ทางพนักงานต้อนรับได้ป่าวประกาศเอาไว้แล้วก่อนหน้านั้น! ส่วนของขวัญที่แพงที่สุด ซึ่งก็คือวิลล่าราคาสี่สิบล้าน ได้ถูกนำมายื่นให้ผู้รับในรูปแบบของหนังสือสัญญา
“… ร เรื่องพวกนี้… มันเกิดขึ้นได้อย่างไร…?” จอร์เจียบ่นพึมพำกับตัวเองด้วยความรู้สึกตกตะลึง
“เราเอาของขวัญมาแล้วครับ คุณคลอฟอร์ด! นี่ครับ รายการของขวัญทั้งหมด!” บอดี้การ์ดคนหนึ่งพูด หลังจากที่เดินเข้ามาหาเจอรัลด์ และโค้งคำนับเขาอย่างนอบน้อม
“แล้วนายจะเอามาให้ฉันดูทำไม? นายควรจะเอาไปให้คุณยายดูมากกว่านะ!” เจอรัลด์พูด พร้อมกับหันไปส่งยิ้มให้เซเรนิตี้
“เมื่อวานนี้เป็นวันเกิดของคุณยาย แต่ผมไม่ได้ไปร่วมอวยพร วันนี้ผมก็เลยนำของขวัญมาให้ครับ”
ในขณะเดียวกัน ทุกคนในงานต่างทำตาโตด้วยความตกใจ พวกเขาสลับกันบ่นพึมพำ “… ค คุณคลอฟอร์ด…?”
ทุกคนได้ยินบอดี้การ์ดคนนั้นเรียกเจอรัลด์ว่าคุณคลอฟอร์ด รวมถึงยาน่าด้วย ด้วยความรู้สึกสับสน ยาน่าและทุกคนหันไปมองเจอรัลด์ด้วยความไม่เชื่อพร้อม ๆ กัน
‘… มัน… มันไม่มีทางจะเป็นเขาไปได้… เขาเป็นแค่ไอ้ขี้แพ้จน ๆ คนหนึ่ง จากอำเภอเล็ก ๆ ในเมืองเมย์เบอร์รี่! ของขวัญแค่ชิ้นเดียวจากรายการของขวัญเหล่านั้น ก็แพงและหรูหราเกินไปแล้วสำหรับเขา!’
“ฉัน… ฉันไม่ยอมเชื่อเรื่องพวกนี้หรอกนะ!” ยาน่าตะคอก ก่อนจะวิ่งไปดูว่าของขวัญที่บอดี้การ์ดพวกนั้นถือเข้ามาว่าเป็นของปลอมหรือไม่ โดยเฉพาะสัญญาของวิลล่าหรูหลังนั้น
อย่างไรก็ตาม พอเธอดูของทั้งหมดเสร็จแล้ว เธอก็รู้สึกเหมือนกำลังกลืนน้ำลายไม่ลงคอ
‘… ของทั้งหมด… เป็นของจริง… ไม่มีชิ้นไหนเป็นของปลอมเลย!’
จอร์เจียถึงกับวิ่งไปดูด้วยตาของตัวเอง ว่าของขวัญทั้งหมดเป็นของจริงหรือไม่ ด้วยความประหลาดใจ เธอพบว่าของทุกชิ้นเป็นของจริงอย่างแน่นอน
‘ร เรื่องทั้งหมด มันเป็นไปได้อย่างไร…?’
ในขณะนั้น เซเรนิตี้ก็หันไปมองหน้าเจอรัลด์ด้วยความแปลกใจเหมือนกัน ก่อนจะพูดกับเขาว่า “… เจอรัลด์… ทำไมเธอถึงได้ซื้อของขวัญที่มีค่า และราคาแพงมามากมายขนาดนี้…?”
“รับมันไว้เถอะนะครับคุณยาย… ถือว่าของขวัญเหล่านี้ เป็นคำอวยพรจากผมและมิล่า!” เจอรัลด์ตอบ
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เซเรนิตี้ก็เริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้น ทันทีที่เธอได้ยินเจอรัลด์พูดว่า ของขวัญเหล่านี้คือคำอวยพรจากเขาและมิล่า เธอก็รู้ทันทีว่ามิล่ายังคงอยู่ในใจของเจอรัลด์มาโดยตลอด มิล่าไม่ได้เลือกคนผิดจริง ๆ
ถึงจะผ่านระยะเวลามาเนิ่นนานแล้ว เจอรัลด์ยังคงคิดถึงและเป็นห่วงเป็นใยเธอเสมอ เขารักเธอจนหมดหัวใจของเขา
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เซเรนิตี้ไม่ยอมจัดงานเลี้ยงฉลองวันเกิดของตัวเอง จนกว่าจะหาตัวมิล่าเจอ ถึงแม้เธอจะรู้ดีแก่ใจว่า ความเป็นไปได้ที่จะหาตัวเธอเจอแทบจะไม่มี
ในตอนนี้ ที่เธอได้ยินคำพูดเหล่านี้จากเจอรัลด์ เธอก็สามารถที่จะนอนตายตาหลับได้ ถึงแม้ว่าเธอจะต้องจากโลกนี้ไปก่อนที่จะหาตัวมิล่าเจอก็ตาม ท้ายที่สุดแล้ว หลานของเธออาจจะมีชีวิตที่ยากลำบาก แต่เธอก็ยังมีผู้ชายคนหนึ่ง ที่ยังรักเธอจนสุดหัวใจ
ความรู้สึกเหล่านี้ ไม่ได้มีสาเหตุมาจากของขวัญอันล้ำค่าเหล่านั้น เซเรนิตี้ไม่ใช่คนประเภทนั้นเลย
ในขณะที่เซเรนี้ตี้ยังร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด จอร์เจียก็ยังคงยืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น เธอไม่ได้ถูกทำให้รู้สึกอับอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน แต่เธอเพิ่งจะดูหมิ่นคุณคลอฟอร์ดอย่างรุนแรงอีกด้วย
หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ทั้งหมดขึ้น ก็ไม่มีใครหน้าไหนในงานเลี้ยง กล้าสงสัยเกี่ยวกับตัวตนที่แท้จริงของเจอรัลด์อีกเลย
ทันใดนั้นเอง จอร์เจียก็ดึงสติตัวเองกลับมาได้ เธอรีบวิ่งเข้าไปหาเจอรัลด์ ก่อนจะคุกเข่าลงต่อหน้าเขา และอ้อนวอน “ด ได้โปรดเถอะ คุณคลอฟอร์ด! ตระกูลเซียร์ตาไม่ถึง จนมองไม่ออกว่าคุณเป็นใคร มันเป็นความผิดของพวกเรา เราเองที่ปล่อยปะละเลย! ได้โปรด ได้โปรดยกโทษให้พวกเราด้วย! จัสติน! เธอกับคนอื่น ๆ ก็ต้องคุกเข่าลงเหมือนกัน!”
เมื่อรู้ว่าครอบครัวของเขา อาจจะมีชีวิตรอดอยู่ได้อีกไม่นาน หลังจากที่ทำให้คุณคลอฟอร์ดไม่พอใจ จัสตินจึงรีบคุกเข่า และกระตุกชุดกระโปรงของยาน่าเพื่อส่งสัญญาณให้เธอคุกเข่าเหมือนกัน
แต่ทุกคนต้องตกตะลึง เมื่อเห็นยาน่าหัวเราะออกมาราวกับคนเสียสติ!
“แกน่ะเหรอ? คุณคลอฟอร์ด? ฉันไม่ยอมเชื่อแกหรอก! ในเมื่อแกยอมรับกับฉันแล้วว่าแกคือเจอรัลด์ จากโรงเรียนประถมศึกษานั้น แกมันก็แค่ไอ้ขี้แพ้จนจนคนหนึ่งเท่านั้น! มันไม่มีทางเลย ที่แกจะกลายมาเป็นคุณคลอฟอร์ดผู้โด่งดัง แห่งเมืองเมย์เบอร์รี่ไปได้! ชายผู้ร่ำรวยอย่างไม่มีที่สิ้นสุด! หากแกเป็นเขาจริง ไหนลองอธิบายมาสิว่า ทำไมแกถึงมาไกลถึงตรงนี้ได้! ถ้าไม่อย่างนั้น ฉันก็ไม่มีวันที่จะเชื่อแกเด็ดขาด!” ยาน่าตะคอก พร้อมกับแสดงสีหน้าขยะแขยง
เจอรัลด์ยังคงจิบไวน์แดงในแก้ว ขณะที่บอดี้การ์ดของเขายื่นผ้าเช็ดปากสีขาวให้ หลังจากที่เขาเช็ดปากเสร็จแล้ว เจอรัลด์ก็หันไปจ้องหน้าหญิงสาวที่น่าเหลืออดคนนี้ ก่อนจะพูดว่า “ฉันไม่มีความจำเป็นอะไร ที่จะต้องมานั่งอธิบายเรื่องราวชิวิตที่แสนจะวิเศษณ์ของฉันให้เธอฟัง”