มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1180
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1180
สิ่งที่เขาอยากจะทำมาตลอดก็คือ ใช้ชีวิตเหมือนคนธรรมดาทั่วไป
แต่ตอนนี้เขาได้มาอยู่ในเมืองลูเกาแล้ว เขาต้องเริ่มออกตามหาคนที่มีร่างกายหยินที่แข็งแรงให้พบ ที่เขารู้ก็คือ เขาจะต้องไปเดินดูตามสถานที่ ๆ มีคนไปรวมตัวกันจำนวนมาก หรือจะพูดอีกอย่างว่า สถานที่ที่มีคนจำนวนมาก เช่น สถานีรถไฟ และย่านการค้าที่มีคนพลุกพล่าน
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เขาก็รู้สึกว่าเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดที่จะเริ่มต้นการค้นหา
สิ่งที่เจอรัลด์สังเกตเห็นได้ก็คือ เมืองลูเกาเป็นเมืองที่มีชีวิตชีวา เขาเห็นร้านค้าที่ขายจี้ ที่ดูเหมือนจะเป็นของบรรพบุรุษอยู่มากมายหลายร้าน นอกจากนั้นแล้ว เขาก็ยังเห็นร้านที่ขายวิทยุจากยุคเจ็ดศูนย์อีกด้วย
ตอนที่เขากำลังมองสำรวจไปรอบ ๆ เขาก็สังเกตเห็นผู้คนมากมายไปยืนออกันอยู่ที่หน้าร้านค้าร้านหนึ่งอย่างตื่นเต้น หลังจากนั้น เขาก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมาว่า “ท่านครับ ได้โปรดเถอะ! ผมต้องการนำเงินไปรักษาลูกของผมที่กำลังป่วยอย่างเร่งด่วน! ถึงแม้ว่าจี้หยกชิ้นนี้จะเป็นของบรรพบุรุษ และแม่ของผมก็ส่งต่อมันมาให้ผม แต่ผมก็ไม่มีทางเลือกนอกจากจะขายมัน! ผมขายมันในราคาแปดพัน! แปดพันเท่านั้นเองครับ!”
ถึงแม้จะมีผู้คนมากมายอยู่ตรงนั้น แต่เจอรัลด์ก็มีประสาทการรับเสียงที่แม่นยำ เขาจึงได้ยินเสียงพูดนั้นอย่างชัดเจน เมื่อเขาส้มผัสได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาจึงฝ่าฝูงชนเข้าไปเพื่อที่จะได้ดูให้เห็นกับตาว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ว่าอย่างไรนะ? แกกำลังบอกฉันว่า หยกที่แตกหักชิ้นนี้มีราคาถึงแปดพันดอลลาร์เชียวหรือ? ฉันจะบอกให้แกรู้เอาไว้ว่า ในชีวิตนี้ ฉันเคยเห็นจี้หยกมามากมาย และฉันก็บอกได้เลยว่า หยกของแกมันเป็นของปลอม! กล้าดียังไงถึงจะมาโกงฉัน! ของคุณภาพเพียงเท่านี้ แค่แปดดอลลาร์ก็ได้กำไรเหลือเฟือแล้ว! โทษฐานที่แกมายั่วโมโหฉัน ฉันจะไม่จ่ายเงินให้แกสักดอลลาร์ และฉันก็จะซ้อมแกให้สาหัสเลยคอยดูสิ!” ชายหนุ่มผู้ร่ำรวยประกาศออกมา ก่อนที่จะเริ่มเตะพ่อค้าขายหยก
พ่อค้าขายหยกคนนี้เป็นชายวัยกลางคน และเด็กหญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ก็คือลูกสาวของเขาเอง
ด้วยความที่ไม่อยากให้ชายผู้ร่ำรวยเอาหยกของเขาไป เขาจึงรีบคุกเข่าเพื่อร้องขอความเห็นใจ
หลังจากที่ยืนสังเกตการณ์อยู่สักพัก เจอรัลด์ก็เริ่มเข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ชายคนนี้ต้องการเงินอย่างเร่งด่วน เพื่อนำไปใช้รักษาลูกสาวที่กำลังป่วยหนัก เขาจึงตัดสินใจนำหยกของบรรพบุรุษมาขายในราคาถูก เพื่อให้ได้เงินเพียงพอที่จะใช้รักษาอาการของลูกสาว ในขณะที่ชายผู้ร่ำรวยพยายามพูดจาติเตียนและไม่ยอมจ่ายเงินจำนวนมากขนาดนั้น เพื่อซื้อหยกของเขา อีกทั้งเขายังขู่เข็นชายคนนี้ เพื่อที่จะบังคับเอาหยกชิ้นนี้ไปเป็นของเขาเอง! เมื่อเหตุการณ์ออกมาเป็นเช่นนั้น พ่อค้าหยกจึงไม่มีทางเลือก นอกจากนั่งคุกเข่าและเอามือจับขากางเกงของชายผู้ร่ำรวย เพื่อร้องขอความเมตตา
“นี่แก! ไม่ได้ยินที่สามีฉันพูดหรืออย่างไร? ไม่รู้หรอกเหรอว่าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการประเมินราคาหยกน่ะ? ในเมื่อเขาบอกไปแล้วว่าแกเอาหยกปลอมมาขายเกินราคา ดีแค่ไหนแล้วที่เราไม่เรียกตำรวจมาจับ! คราวนี้ก็ปล่อยเขาได้แล้ว!” ผู้หญิงที่แต่งหน้าจัดคนหนึ่งตะคอกเสียงดัง เธอยืนอยู่ข้างสามีมาตลอด และตอนนี้เธอกำลังเอากระเป๋าหลุยส์ที่ถือไว้ในมือ ฟาดไปที่หน้าของพ่อค้าหยกอย่างแรง
“ผมบอกไปแล้วว่า หยกนี้มีราคาไม่ต่ำกว่าหนึ่งหมื่นห้าพันดอลลาร์! ผมขายให้พวกคุณในราคาถูกก็เพราะว่าผมไม่มีทางเลือกอื่น! ถ้าพวกคุณไม่อยากซื้อมัน ได้โปรดคืนมันมาให้ผมเถอะ! ผมไม่ขายมันแล้ว!” ชายคนนั้นร้องขออย่างน่าเวทนา
“อ้อ! นี่แกกำลังบอกว่า แกไม่อยากขายมันแล้วอย่างนั้นเหรอ? ลืมไปแล้วเหรอว่าแกเอาเงินฉันไปแล้วห้าสิบดอลลาร์ และตอนนี้หยกมันก็เป็นของฉันแล้ว! ซึ่งก็หมายความว่า เราได้ซื้อขายกันเรียบร้อยแล้ว! ถ้าแกอยากจะซื้อมันคืนจากฉัน ก็ต้องจ่ายเงินมาสามพันดอลลาร์!” แฟนสาวของชายผู้ร่ำรวยป่าวประกาศ ในขณะที่ยังถือจี้หยกนั้นเอาไว้ในมือ
“จ่ายเงินจำนวนนั้นมาให้สามีฉันสิ แล้วฉันก็จะคืนหยกที่แตกหักนี้ให้แก! ในระหว่างที่รอแกจ่ายเงิน รับนี่ให้ทันก็แล้วกันนะ!” หญิงสาวพูดต่อ ในขณะที่โยนหยกไปอีกทางหนึ่ง
พ่อค้าขายหยกดวงตาเบิกโพลง ก่อนจะพยายามพุ่งตัวออกไปคว้าหยก เป็นที่แน่นอนว่า เขาย่อมคว้าหยกไม่ทัน จากตำแหน่งที่เขานั่งคุกเข่าอยู่
“หยก…หยกของฉัน…!” ชายคนนั้นตะโกน ในขณะที่ยังคุกเข่าด้วยสีหน้าที่เหมือนโลกทั้งโลกเพิ่งจะถล่มลงมาพร้อมกับจี้หยกของเขา หางคิ้วของเขามีเลือดไหลออกมา เพราะถูกตีโดยกระเป๋าของผู้หญิงคนนั้น
“ฮ่าฮ่าฮ่า! ดูเหมือนว่าแกจะคว้าหยกนั้นเอาไว้ไม่ทันนะ! แกทำตัวเองนะ อย่ามาโทษฉันก็แล้วกัน!” หญิงสาวพูด พร้อมกับปรบมืออย่างชอบอกชอบใจ
“แก…แกทำหยกของฉันหัก…! แกต้องชดเชยให้ฉันเดี๋ยวนี้!” ชายคนนั้นตะโกน พร้อมกับพุ่งตัวเขาหาหญิงสาวนิสัยแย่อย่างรวดเร็ว
แต่ก่อนที่เขาจะเข้าถึงตัวเธอ บอดี้การ์ดของพวกเขาหลายคนก็เข้ามาคว้าคอเสื้อ และจับตัวพ่อค้าขายหยกเอาไว้
จากนั้นชายผู้ร่ำรวยก็เอามือล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกง และเดินเข้ามาหาพ่อค้าหยก
เขาตบหน้าพ่อค้าหยก ก่อนจะพูดว่า “เธอจะทำอะไรก็ได้ที่ทำให้เธอมีความสุข ถ้านายกล้าทำให้เธออารมณ์เสีย ฉันจะโทรหาใครบางคน และรับรองได้เลยว่า ไม่มีโรงพยาบาลไหนยอมรับลูกสาวของแกเข้ารักษาตัวอย่างแน่นอน! ฉันว่าแกน่าจะพอนึกออกนะว่า พวกแกจะรู้สึกสิ้นหวังขนาดไหน ที่ไม่มีที่จะไปน่ะ!”
หลังจากที่ได้ยินคำขู่ของชายผู้ร่ำรวย พ่อค้าหยกก็หยุดต่อต้านพวกเขา เขารู้ดีว่าเขาไม่มีอำนาจอะไรเลยเมื่อเทียบกับคนเหล่านี้ เขาทำได้เพียงเอามือจัดผมตัวเอง ก่อนจะพูดว่า “…ผม…ผมผิดเอง…หยกชิ้นนี้เป็นของปลอม…ผมตั้งใจที่จะโกงเงินพวกคุณ…ผมสมควรตาย!”
“พ่อคะ!” เด็กสาวตะโกน ก่อนจะวิ่งเข้าไปนั่งข้าง ๆ พ่อของเธอ เพื่อให้กำลังใจเขา
หญิงสาวเข้ามาจับตัวเธอเอาไว้พร้อมกับพ่อของเธอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงยียวน “มันชักจะไม่สนุกแล้วที่รัก! ไปกันได้แล้ว!”
ก่อนที่เธอจะเดินออกไป เธอก็รู้สึกว่ามีคนกำลังดึงผมของเธอ…และยังไม่ทันที่เธอจะได้ตอบโต้อะไร เธอก็ถูกกระชากผมไปข้างหลังอย่างแรง
เธอส่งเสียงกรีดร้องออกมาทันที…