มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1152
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1152
ยูเมะยืนนิ่งอยู่สักพัก
ในค่ำคืนนั้น เจอรัลด์กำลังนั่งสมาธิอยู่บนเตียงของเขา เขาฟังเสียงของลมทะเลที่พัดผ่านเข้ามาในห้องพร้อมกับคิดถึงเรื่องราวที่เขาได้ค้นพบในวันนี้
ตามที่ผู้รอดชีวิตได้บอกเอาไว้ หญิงสาวที่ทรงพลังและเกรี้ยวกราดได้ปรากฏตัวขึ้นในคืนนั้น ส่งผลให้ชายแปดคนที่ยืนเฝ้าโลงศพอยู่กับเขาต้องเสียชีวิตลงทั้งหมด
เธอคือใคร? และเธอหมายความว่าอย่างไรที่พูดว่าเธอฟื้นขึ้นมาได้ทันเวลาพอดี?
จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผู้หญิงคนนั้นดูจะมีความอาฆาตแค้นเป็นอย่างมาก
นอกจากเรื่องของผู้หญิงคนนั้นแล้ว เรื่องเสียงร้องที่โหยหวนในบ้านลอยได้หลังนั้น ก็เป็นอีกเรื่องที่เขาลืมไม่ลง เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้คนที่อยู่ในนั้นคือคนที่ถูกซัน ลีก จับตัวไป? มิล่ากับลุงของเขาอยู่ที่นั่นด้วยหรือเปล่า?
เรื่องเสียงร้องอันโหยหวนที่ทิมพูดขึ้นมานั้น ทำให้เจอรัลด์รู้สึกประหลาดใจอย่างบอกไม่ถูก
ท้ายที่สุดแล้ว ผู้หญิงในชุดขาวคนนั้นก็คงจะถูกขอทานชราปราบจนต้องพ่ายแพ้ ความจริงแล้ว เจอรัลด์ได้เคยเห็นเรื่องราวทั้งหมดนี้มาแล้วตอนที่ผู้นำวิญญาณพาเขาไปดูแผ่นศิลาจารึกทั้งหกแผ่นนั้น
ที่เขาจำได้คือ ขอทานชราคนนั้นและกลุ่มชายที่เหลือได้เดินทางต่อไปด้วยความราบรื่น หลังจากที่ขอทานชราได้ฆ่ามังกรบาดเจ็บตัวนั้นตาย พวกเขาก็ฝังร่างของมังกรไปพร้อม ๆ กับร่างของหญิงสาว จากนั้นพวกเขาก็เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพเช่นกัน
ทันใดนั้นเอง ดวงตาของเจอรัลด์ก็เผยให้เห็นถึงความมุ่งมั่นอยู่ในนั้น เขาบ่นพึมพำกับตัวเองว่า “ราชาแห่งพระราชวัง…”
สองวันต่อมา เจอรัลด์และกองทัพเรือของครอบครัวเขา ก็ล่องเรือไปตามคลื่นลมที่ค่อนข้างแรง ถึงแม้คลื่นจะเริ่มเบาลงกว่าก่อนหน้านั้นแล้ว แต่ลมทะเลก็ยังคงมีกำลังแรงสูง
เมื่อมองดูคลื่นสูงในทะเลที่มากมายจนสุดลูกหูลูกตา ก็อาจจะทำให้คนคนหนึ่งรู้สึกฮึกเหิมขึ้นมาได้
สองวันก่อนที่พวกเขาจะออกเดินทาง เจอรัลด์ได้ส่งตัวแจสมินพร้อมกับบอดี้การ์ดของเขาไปที่เมืองฮาลิมาร์คก่อน เพื่อไปหาแวกเนอร์ พอพวกเขาไปถึง พวกเขาก็ได้ติดต่อคนของตระกูลเฟนเดอร์สันให้ส่งรถมารับ
หลังจากที่เขารู้ว่าแจสมินและคนอื่น ๆ ปลอดภัยดีแล้ว เขาก็รู้สึกสบายใจขึ้น
ในขณะที่ตอนแรก แจสมินเองต้องการจะเดินทางไปกับเขา แต่เธอก็รู้ดีว่า มันอันตรายเกินไปสำหรับเธอ ท้ายที่สุดแล้ว มันไม่ใช่แค่การเดินทาง หรือการผจญภัยธรรมดา ๆ เพียงเท่านั้น
มีอันตรายที่คาดไม่ถึงมากมายกำลังรอพวกเขาอยู่ที่ใต้ท้องทะเลนั้น ถึงแม้จะแข็งแกร่งเพียงใด แต่เจอรัลด์ก็ยังไม่มั่นใจว่า ท้ายที่สุดแล้ว เขาเองจะกลับรอดปลอดภัยออกมาครบสามสิบสองหรือไม่
ในตอนเที่ยง เชสเตอร์เดินออกมาที่ดาดฟ้าเรือ และมายืนข้างหลังเจอรัลด์ ก่อนจะพูดอย่างนอบน้อมว่า “คาดว่าในตอนนี้ เราน่าจะอยู่ไม่ไกลจากราชาแห่งพระราชวังมหาสมุทรแล้วครับ!”
“เข้าใจแล้ว บริเวณที่เรือนายลอยลำออกมาในตอนนั้น ก็คงจะอยู่ไม่ไกลจากนี่เหมือนกันสินะ” เจอรัลด์ตอบ
“ผมคิดว่าอย่างนั้นครับ ในตอนนั้น ผมล่องเรือไปตามทิศทางลม เรือของผมจึงแล่นค่อนข้างเร็ว… ผมเตรียมอาหารติดตัวมาให้พออยู่ได้สามวัน แต่สุดท้าย ผมกลับติดอยู่กลางทะเลถึงสิบวัน…ด้วยความที่ไม่มีอาหารตกถึงท้องเลยเป็นเวลาเกือบหนึ่งอาทิตย์ ผมจำได้ว่า ตัวเองเกือบจะตายเพราะความหิวโดย…จากเส้นทางที่เราศึกษามา ผมว่าเราใกล้จะถึงที่นั่นแล้วครับ” เชสเตอร์พูดหลังจากที่ได้ไปสำรวจเส้นทาง และทำการคำนวนระยะทางมาเรียบร้อยแล้ว
‘จากเบาะแสที่เราค้นพบก่อนที่จะออกเดินทาง ฉันคิดว่า แองเจลิก้ากับคนที่เรากำลังตามหา อาจจะเป็นคนคนเดียวกันจริง ๆ’ เจอรัลด์คิดกับตัวเอง
“ผมเชื่อจริง ๆ ครับว่า คุณจะได้พบกับคำตอบในสิ่งที่คุณได้ใช้เวลาตามหามานาน ตอนที่พวกเราเดินทางไปถึงราชาแห่งสุสานมหาสมุทร” เชสเตอร์พูดเสริม
“เราทั้งสองคน เชสเตอร์ เราทั้งสองคน…” เจอรัลด์ตอบ ในขณะที่มองออกไปยังเส้นขอบฟ้า
ถึงแม้จะมีแผนที่ที่ได้มาจากพวกมินแชล แต่พวกเขาก็ยังมีปัญหาในการค้นหาตำแหน่งที่แน่ชัด
ทันใดนั้นเอง เชสเตอร์ก็ชี้ออกไปในทะเล ก่อนจะพูดว่า “…หืม? ดูทางนั้นสิครับ! มัน…ดูเหมือนเรืออะไรสักอย่าง…”
เป็นจริงดังที่เชสเตอร์ว่า พอเจอรัลด์หันไปมองตามทิศทางที่เขาชี้ เขาก็เห็นเรือไม้ใหญ่ลำหนึ่งกำลังลอยลำอยู่กลางทะเล
ถึงแม้เรือจะดูนิ่ง แต่เรือลำนั้นกลับแล่นทวนกระแสคลื่น และมันก็กำลังมุ่งตรงมาหาเรือของเจอรัลด์ด้วยความเร็วสูง
ในตอนนั้น ยูเมะได้เดินมาหาพวกเขาพร้อมกับถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ?”
เมื่อเขาสังเกตเห็นรัศมีของเรือที่แผ่กระจายอยู่รอบ ๆ เจอรัลด์ก็บ่นพึมพำ โดยที่ไม่ยอมละสายตาจากเรือลำนั้นเลยแม้แต่วินาทีเดียว “…นั่นใช่…พลัง…?”
จากนั้นเขาก็รีบหันมาออกคำสั่ง “ทุกคน พยายามหลบเรือลำนั้นให้ได้! เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูว่ามีอะไรอยู่บนเรือ!”