มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน (เฉินเกอรีรัน) - บทที่ 1103
มหัศจรรย์ เป็นคุณชาย ชั่วข้ามคืน บทที่ 1103
ถึงแม้ว่าตอนนี้จะเย็นมากแล้ว แต่เจอรัลด์ก็ยังมองเห็นชายวัยกลางคนคนหนึ่ง กำลังถูกชายถือปืนประมาณสิบคนที่ขับเรือสปีดโบ๊ททั้งห้าลำก่อนหน้านั้นไล่ล่าอยู่ ร่างของเขาเปียกโชกไปด้วยเลือด และชายคนนั้นก็กำลังมุ่งหน้ามาทางเจอรัลด์อีกด้วย
เมื่อคนอื่นที่กำลังเดินเล่นอยู่บนชายหาดเห็นพวกเขา พวกนั้นก็รีบเผ่นหนีในทันที ไม่มีใครคิดที่จะโทรแจ้งตำรวจเลยแม้แต่คนเดียว ไม่นานนัก ชายหาดที่เงียบสงบก็ปราศจากซึ่งผู้คน เหลือเพียงเจอรัลด์คนเดียวเท่านั้น
เจอรัลด์ขมวดคิ้วทันที่ที่เห็นนักเลงพวกนั้น ก่อนหน้านั้นเขาก็รู้สึกรำคาญใจมากพอแล้วที่แยสมีนเข้ามารบกวนเขา ขณะที่กำลังใช้ความคิดอยู่
ไม่นานนัก ชายวัยกลางคนที่ร่างเต็มไปด้วยเลือดก็มาถึงชายฝั่ง เมื่อเห็นว่าไม่มีที่ที่จะให้เขาหลบหนีอีกแล้ว เขาจึงรีบวิ่งตรงมาหาเจอรัลด์ คนเพียงคนเดียวที่เขามองเห็นในขณะนั้น! เขาโบกมือให้เจอรัลด์พร้อมกับตะโกนเสียงดัง “โยนโทรศัพท์ของคุณมาให้ผม! ได้โปรด โยนมันมาเร็วเข้า!”
เนื่องด้วยเจอรัลด์กำลังรู้สึกไม่สบอารมณ์ เขาจึงไม่อยากทำตามคำสั่งจากชายวัยกลางคนที่เขาไม่รู้จัก เขาทำเป็นไม่สนใจชายคนนั้นที่กำลังร้องขอความช่วยเหลือจากเขา
อีกไม่กี่วินาทีต่อมา คนอีกสองสามคนก็โผล่ออกมาจากป่าที่ใกล้กับชายหาด กลุ่มคนที่กำลังตามล่าเขาบนเรือสปีดโบ๊ทก็มาถึงฝั่งแล้วเช่นกัน เมื่อเห็นว่าเขาไม่มีที่ให้หนีอีกต่อไปแล้ว พวกเขาก็ยืนล้อมชายคนนั้นเอาไว้ ชายคนหนึ่งซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้นำของปฏิบัติการณ์ในครั้งนี้ สังเกตเห็นว่าเจอรัลด์ยังยืนอยู่ตรงนั้น ขณะที่กำลังตรงเข้าไปเจอรัลด์ ชายคนนั้นก็ตะโกนขับไล่ “ออกไปซะ! นายใหญ่กำลังจัดการเรื่องสำคัญบางอย่างอยู่!”
เจอรัลด์ตอบโต้เขาด้วยการมองหน้าอย่างเย็นชา แต่ไม่พูดอะไรเลยสักคำ
เมื่อเห็นเจอรัลด์ตอบโต้หัวหน้าของตัวเองด้วยท่าทีโอหังเช่นนั้น หนึ่งในเด็กหนุ่มที่กำลังยืนล้อมชายวัยกลางคนอยู่ก็หยิบมีดพร้าของเขาขึ้นมา พร้อมกับฟันไปที่เจอรัลด์! วินาทีนั้น ดวงตาของเจอรัลด์ก็เต็มไปด้วยความโกรธ ในเมื่อคนพวกนี้จู่โจมเขาอย่างไม่ลืมหูลืมตา เพียงเพราะเขาไม่ยอมออกไปจากตรงนั้น มันก็แสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า พวกเขาไม่ใช่คนดีอย่างแน่นอน และเจอรัลด์ก็เห็นเจตนาที่ชัดเจนของพวกเขาแล้วว่าพวกเขาต้องการชีวิตของเจอรัลด์!
เจอรัลด์ก้าวท้าวไปด้านข้าง และหลบหลีกการจู่โจมได้อย่างง่ายดาย
ก่อนที่เด็กหนุ่มจะมีโอกาสได้โต้ตอบ เขาก็ได้ยินเสียงบางอย่าง พอมารู้ตัวอีกที เขาก็ถูกเตะลอยขึ้นไปในอากาศ จังหวะที่เขาร่วงลงไถลกับพื้น เขาก็ได้ยินเสียงกระดูกขาของตัวเองหัก ถึงแม้ว่าเขาอยากจะเอามือมาปิดปากตัวเอง เพื่อปกปิดเสียงกรีดร้องอันเจ็บปวดเอาไว้ เขาก็ไม่สามารถขยับแขนของเขาได้ ไม่เพียงเท่านั้น เขายังรู้สึกได้อีกว่าฟันของเขาร่วงออกมาเกือบจะหมดปาก เขาตกใจอย่างสุดขีด การเตะของเจอรัลด์เมื่อสักครู่นี้ไม่เพียงแต่ทำให้อวัยวะหลักทั้งสี่ของเขาหักทั้งหมด แต่มันยังส่งผลให้กระดูกขาขวา และกระดูกมือของเขาแตกละเอียดไม่เหลือชิ้นดี
หลังจากเห็นสิ่งที่เขาได้ทำ เด็กหนุ่มคนอื่นที่จ้องมองทั้งคู่ขณะกำลังล้อมชายวัยกลางคน ๆ นั้นไว้ ก็กำลังมองมาที่เจอรัลด์ราวกับว่าเขาเป็นสัตว์ประหลาดชนิดหนึ่ง แม้แต่ตัวของหัวหน้าเองก็สัมผัสได้ถึงความผิดปกติในตัวเจอรัลด์ ตั้งแต่ที่เขาเห็นสีหน้าแปลกผิดปกติของเจอรัลด์ตั้งแต่แรก เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาก็รับรู้ได้ในทันทีว่า ยังไม่ทันที่จะปฏิบัติภารกิจสำเร็จ เขาก็นำตัวเองมาเผชิญหน้ากับเหตุการณ์ที่ยากลำบากเข้าเสียแล้ว เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครพาตัวลูกน้องคนที่บาดเจ็บออกไป ทั้งที่อยู่ใกล้คนทั้งสองมากขนาดนั้น สิ่งที่เขาเห็นคือเจอรัลด์ได้ใช้ขาทั้งสองกระโดดเตะลูกน้องของเขา จนทำให้อวัยวะทุกส่วนในร่างกายของเขาหักหมด
ถึงแม้เจอรัลด์จะดูเหมือนเด็กหนุ่มไร้เดียงสา ไม่มีพิษมีภัยใด ๆ แต่ตอนนี้ทุกคนก็ได้เห็นแล้วว่าเจอรัลด์นั้นสามารถกลายเป็นคนที่ดุดันได้มากเพียงใด เมื่อได้เห็นว่าเจอรัลด์มีความสามารถที่จะทำให้เด็กหนุ่มคนนั้นอวัยวะแตกหักได้โดยไม่ลังเล พวกเขาก็รู้โดยทันทีว่าเจอรัลด์นั้นโหดร้ายกว่าหัวหน้าของพวกเขาหลายเท่า ในขณะที่พวกเขากำลังคิดว่าเจอรัลด์นั้นไร้ซึ่งความปราณีอย่างไร หัวหน้าก็ไม่ทันได้สังเกตว่าสีหน้าของเจอรัลด์แทบจะไม่เปลี่ยนเลย หลังจากที่สร้างแผลฉกรรจ์บนร่างกายของลูกน้องตัวเองง
ในความเป็นจริงแล้ว สีหน้าของเจอรัลด์ก็คงจะไม่เปลี่ยน แม้ว่าเขาจะฆ่าเด็กหนุ่มคนนั้นก็ตาม จนถึงตอนนี้ เจอรัลด์ได้เคยลงมือฆ่าคนมาแล้วมากมายจนนับไม่ถ้วน!
หลังจากครุ่นคิดได้สักพัก หัวหน้าก็โค้งคำนับเจอรัลด์เพื่อแสดงความนับถือ ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “…ผมต้องกราบขออภัยเป็นอย่างสูงครับท่าน ผมยอมรับว่าครั้งนี้พวกผมทำผิดเอง ออกไปได้แล้ว พวกเรา!”
เมื่อชายวัยกลางคนเหล่านั้นได้เห็นหัวหน้ากลุ่ม ที่ขณะนี้กำลังโบกไม้โบกมือให้ลูกน้องที่กำลังถือมีดพร้ากลับออกไป เขาก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มาพบกับเจอรัลด์ ท้ายที่สุดแล้ว ไม่ใช่เหตุผลเพียงเพราะเขามีโอกาสจะได้มีชีวิตอยู่ต่อไป แต่เพราะคนพวกนั้นที่ตามไล่ล่าเขายังคิดที่จะหยุดการกระทำ พร้อมกับตัดสินใจหันหลังกลับอีกด้วย ในขณะที่เขากำลังยินดีกับการรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด เจอรัลด์ก็ได้พูดบางอย่างที่ทำให้เขารู้สึกเย็นวาบไปทั้งหลัง
“ฉันบอกเหรอว่าให้พวกนายกลับไปได้?” เจอรัลด์กล่าวด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เหล่าชายหนุ่มที่กำลังเตรียมตัวจะถอยทัพกลับก็ต่างหันมามองเจอรัลด์อย่างเป็นกังวลพร้อมกับยกปืนขึ้น พวกเขาคิดถูกแล้วที่เป็นกังวล ที่พวกเขาตัดสินใจจะถอยกลับ ก็เพราะรู้ดีว่าเจอรัลด์มีฝีมือเหนือกว่ามาก แต่เมื่อได้รับรู้ว่าเขาไม่อนุญาติให้กลับแล้ว!
“นายยังต้องการอะไรอีก?” หัวหน้าเอ่ยถามด้วยความรู้สึกกังวลมากกว่าใครในกลุ่ม หัวหน้าเองก็ดูจะเป็นผู้ชายที่แข็งแรงกำยำ เขายังมีรอยสักมังกรทั่วทั้งแขนขวาอีกด้วย ในขณะที่คนอื่น ๆ ในกลุ่มอาจจะไม่รู้ข้อนี้ แต่หัวหน้ากลุ่มรู้ดีว่า เหล่าคนที่ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้แบบโบราณมานั้นจะได้รับพรให้สามารถต่อต้านพลังแห่งธรรมชาติได้ คนเหล่านี้สามารถที่จะต่อสู้กับคู่ต่อสู้นับสิบหรือนับร้อยคนได้เพียงลำพัง เมื่อคิดได้เช่นนั้น หัวหน้ารู้ดีว่าตัวเขาเองและลูกน้องไม่ใช่คู่ต่อสู้ที่คู่ควรกับเจอรัลด์เลยแม้แต่น้อย และเจอรัลด์ก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเขาสามารถทำอะไรได้บ้าง
“ด้วยเหตุผลที่ว่า พวกนายทำให้ฉันอารมณ์เสีย ฉันจะให้พวกนายเลือกว่าจะหักขาหรือหักแขนของตัวเอง และแน่นอนว่า พวกนายจะต้องหักมันด้วยตัวเอง” เจอรัลด์พูดราวกับว่า เขาแค่ขอขนมช็อกโกแลตจากคนเหล่านั้นกิน
“…ว่าอย่างไรนะ? นายอาจจะเป็นคนเก่งมีฝีมือ แต่นายไม่คิดบ้างเหรอว่ากำลังทำเกินไป? ฮึ! นี่มันช่างไร้สาระจริง ๆ!” หัวหน้าคำรามอย่างดุดัน
“นายพูดว่าไร้สาระอย่างนั้นเหรอ? งั้นก็ลองเข้ามาที่เดียวสองคนเลยเป็นไง”
ก่อนที่เจอรัลด์จะพูดจบ เขาก็เห็นเด็กหนุ่มรูปร่างผอมบางคนหนึ่ง อายุราว ๆ ยี่สิบปีที่ยืนอยู่ด้านหลังกำลังพยายามหักแขนตัวเองเสียงดัง ‘แครก’!
“…นี่นายกำลังทำบ้าอะไรกัน?” หัวหน้าเปล่งเสียงดัง ในขณะที่หันไปมองเด็กหนุ่มคนนั้นที่ยังคงยืนนิ่งเงียบ
ดวงตาของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความรู้สึกหวาดผวา หลังจากที่เขาได้เห็นฉากต่อสู้สุดสะเทือนขวัญก่อนหน้านั้น และเขาก็ได้เห็นแววตาของเจอรัลด์ที่จ้องมองมา ซึ่งเป็นแววตาของคนที่มีประสบการณ์การฆ่าคนตายมาอย่างโชกโชน นอกเหนือจากนั้นแล้ว พลังงานรอบ ๆ ตัวเขาก็ยังบ่งบอกว่าเขามีเจตนาแรงกล้าในการฆ่าคนอีกด้วย ขณะที่คนอื่นกำลังตัวสั่นด้วยความกลัว เจอรัลด์ก็หันไปมองเด็กหนุ่มคนนั้นก่อนจะพูดขึ้นว่า “ตอนนี้ฉันเห็นแล้วว่านายเป็นคนมีเหตุมีผล ถอยออกไปได้”
“ตอนนี้พวกที่เหลืออยู่ พวกนายต้องเลือกว่าจะหักอวัยวะในร่างกายส่วนไหนเป็นจำนวนสองชิ้น”
อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทันที่เจอรัลด์จะพูดจบ หัวหน้ากลุ่มก็วิ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเล็งปืนมาที่เขา! เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ลูกน้องคนอื่น ๆ ยกเว้นเด็กหนุ่มที่ถอยออกไปแล้วก่อนหน้านั้น ก็เล็งปืนมาที่เขาเช่นเดียวกับหัวหน้า