ภาพเทพอสูรบรรพกาล - ตอนที่ 26 ผู้หญิงจากสวนหินร้าง
“และทั้งสองคนนี้” เด็กในอ้อมแขนของบ่าวชราชี้ไปที่คนขี้เมาอีกสองคน “พวกเขาก็อยู่ที่นั่นด้วยเมื่อหัวหน้าเว่ยพาคนของเขาลักพาตัวพี่สาวของข้า”
“นั่นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเราเลย”
“เราเพิ่งไปทำธุระ” คนขี้เมาทั้งสองไม่กล้าส่งเสียง หลังจากที่ถูกตี่เชิงชี้ตัว พวกเขาก็อธิบายด้วยความตื่นตระหนกทันที
เหยียนจินขมวดคิ้วและตะโกนว่า”พี่สาวของเขาอยู่ที่ไหน”
“นี่…” หัวหน้าเว่ยและลูกน้องสองคนสบตากันและเริ่มลังเล กฎของแก๊งนั้นเข้มงวด
“ถ้าเราไม่พบต้วเธอ พวกเจ้าทั้งสามคนจะต้องตาย” เหยียนจินพูดอย่างเย็นชา
“พวกเราจะพูด”
“เธอถูกส่งไปที่สวนหินร้างแล้ว” หัวหน้าเว่ยและคนอื่นๆรีบพูด
…
สวนหินร้างเป็นหนึ่งในฐานที่มั่นหลักหกแห่งที่แก๊งหมาป่าดำใช้เพื่อฝึกฝนสตรีโดยเฉพาะ ตั้งอยู่ทางภาคเหนือของเมืองตงหนิง
โฮ่งโฮ่ง
ท้องฟ้ามืดลงแล้วและอาจได้ยินเสียงสุนัขเห่าจากสวนหินร้างเป็นครั้งคราว เห็นได้ชัดว่าบริเวณนั้นมียามคอยตรวจตราอยู่
ทั้งสามคนของหัวหน้าเว่ยเป็นผู้นำทาง เหยียนจิน,เมิ่งชวนและคนอื่นๆก็ตามอยู่ด้านหลัง
“บริเวณนี้คือสวนหินร้าง ปกติจะมีผู้หญิงมากกว่าร้อยคนที่นี่ พวกเธอจะได้รับการฝึกฝน หากพวกเธอมีความสามารถพวกเธอจะถูกส่งไปยังซ่องหรูต่างๆ ถ้าพวกเธอไม่สามารถจัดการได้พวกเขาจะส่งพวกเธอไปที่ร้านค้าหญิงขายบริการ” หัวหน้าเว่ยกล่าวด้วยรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ
“อาชวน นั่นน่าสนใจ ข้าเคยเห็นซ่องหรูสองสามแห่งในเมืองตงหนิงจากระยะไกล ข้าไม่เคยเห็นสถานที่ซึ่งพวกเขาฝึกผู้หญิง…” หลิวชีเยว่รู้สึกตื่นเต้นเป็นพิเศษ “ข้าได้ยินมานานแล้วว่าผู้หญิงที่น่าสงสารบางคนถูกลักพาตัวมาที่นี่ ตอนนี้เราจะช่วยพวกเขา เราไม่อาจปล่อยสมาชิกแก๊งหมาป่าดำที่ชั่วร้ายเหล่านั้นหลุดไปได้”
“ข้าจะไม่ยอมละเว้นใครก็ตามที่ทำชั่ว” เมิ่งชวนตอบ
“เร็ว เปิดประตู ข้าเองเว่ย” หัวหน้าเว่ยกระแทกประตูและตะโกน
ประตูของสวนหินร้างเปิดออก
บ่าวชราเป็นคนเริ่มที่จะก้าวไปข้างหน้า เพียงการสะบัดมือของเขา ผู้เฝ้าประตูสองคนก็ถูกผลักปลิวไป เมื่อชนเสาไม้หรือพื้นพวกเขาก็อาเจียนออกมาเป็นเลือด
“มีคนโจมตี”
อ่านบทล่าสุดที่ my-novel.co หรือ www.thai-novel.com
“เข้ามาแล้ว”
“ใครกันที่กล้า”
“พวกนั้นกล้ามาที่พื้นที่ของแก๊งหมาป่าดำและทำตัวชั่วช้าอย่างงั้นรึ”
เกิดความปั่นป่วนและผู้คนจากทั่วสารทิศก็วิ่งเข้ามา
เหยียนจิน เมิ่งชวนและคนอื่นๆ ต่างรออยู่ที่สนามหญ้าด้านหน้า หัวหน้าเว่ย และพรรคพวก ยืนอยู่ด้านข้างอย่างระมัดระวังพร้อมกับก้มหัว ด้านหนึ่งคือวังหยกสุริยันและตระกูลเมิ่ง และอีกด้านหนึ่งคือแก๊งของพวกเขาเอง พวกเขาต่างกลัวทั้งสองฝ่าย
ชายกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว บางคนมีกระแสพลังที่แข็งแกร่งและมีความแข็งแกร่งในระดับชำระแก่นแท้
หัวหน้ากลุ่มเป็นชายสูงอายุในชุดคลุมหลากสีที่เข้าถึงระดับก่อกำเนิด
“นายน้อยเมิ่งรึ” ใบหน้าของชายชราในชุดคลุมหลากสีมีสีหน้าเย็นชา แต่เมื่อได้เห็นเมิ่งชวนใบหน้าของเขาก็บานราวกับดอกไม้ในทันที “เมื่อมาคิดว่านายน้อยเมิ่งจะมาที่บ้านซอมซ่อของข้า ข้ามีความสุขจริงๆ นายน้อยเมิ่งข้าพอจะช่วยท่านได้อย่างไรรึ นายน้อยเมิ่งโปรดพูดความในใจของท่านออกมา”
“ข้าได้ยินมาว่าเจ้าลักพาตัวผู้หญิงงั้นรึ” เมิ่งชวนถาม
“ไม่ ไม่อย่างแน่นอน” ชายชราในชุดคลุมหลากสีกล่าวอย่างรีบร้อน “แก๊งหมาป่าดำของเราปฏิบัติตามกฎหมายมาโดยตลอด ทำไมเราต้องทำอะไรเช่นนั้น”
เมิ่งชวนชี้ไปที่หัวหน้าเว่ยและคนอื่นๆที่ก้มหัวลง “พวกเขาพูดอย่างนั้น”
ชายชรามองไปที่หัวหน้าเว่ย และคนอื่นๆอย่างเย็นชา
“ผู้พิทักษ์ นี่คือนายน้อยเมิ่ง คนนั้นมาจากวังหยกสุริยัน เราไม่มีทางเลือกเช่นกัน” หัวหน้าเว่ยกล่าวด้วยสีหน้าขมขื่น
“วังหยกสุริยันรึ” ตอนนี้ชายชราสังเกตเห็นเหยียนจินและบ่าวชรา
บ่าวชราหยิบตราวังหยกสุริยันออกมาแสดง
หัวใจของชายชราคนนั้นเต้นผิดจังหวะ “วังหยกสุริยันมีคนรับใช้และทหารมากมาย … แต่ผู้ที่สามารถถือครองตราสัญลักษณ์ของวังหยกสุริยันล้วนมาจากระดับบน มีไม่เกินสิบคน แล้วสองคนนี้เป็นใครกัน ทำไมข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับพวกเขา”
“พี่สาวของเด็กคนนี้ถูกส่งมาที่นี่เมื่อประมาณสองชั่วโมงที่แล้วโดยเว่ยซานเต้า” เมิ่งชวนกล่าว
“เว่ยซานเต้าเพิ่งส่งคนมาที่นี่รึ” ชายชราหันหน้าและตะโกน ในขณะที่กระพริบตาเล็กน้อยไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา
ผู้ใต้บังคับบัญชากล่าวทันทีว่า”ดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้น ข้าจะไปหาเธอและพาเธอมาที่นี่”
“เร็วเข้า” ชายชรากระชากเสียง
ลูกน้องรีบวิ่งไปทันที
ชายชราหันหน้าและยิ้มให้กับเมิ่งชวนและพรรคพวก เขากล่าวทันทีว่า “ท่านเจ้านายแห่งวังหยกสุริยันและนายน้อยเมิ่งไม่ต้องกังวล แก๊งหมาป่าดำของเรามีความประพฤติดี เราไม่ลักพาตัวผู้หญิงอย่างแน่นอน”
“เจ้ายังปฏิเสธที่จะยอมรับมันอีกรึ” เสียงของเหยียนจินเย็นชา ขณะที่เขาจ้องมองไปทั่วบริเวณ “พี่สาวของเขาถูกลักพาตัวไปและมีผู้หญิงมากกว่าร้อยคนในบริเวณนี้ ข้าแน่ใจว่าหลายคนถูกลักพาตัวมาที่นี่โดยไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่อย่างแน่นอน” ชายสูงอายุกล่าว
“ผู้หญิงเจ็ดคนที่อยู่ในอาคารนั้น เอาออกให้หมด” บ่าวเฒ่าสั่ง
“ขอรับ ทันทีเลยขอรับ” ชายชราพยักหน้าและแสดงท่าทางไปยังผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา อย่างไรก็ตามเขาแอบตกใจ “ช่างน่าตกใจนัก เขารู้ว่ามีผู้หญิงเจ็ดคนอาศัยอยู่ข้างใน ทั้งที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยก้าวงั้นรึ”
ในไม่ช้า
ผู้หญิงเจ็ดคนก็ออกมา บางคนดูเหมือนเป็นหญิงสาว ในขณะที่คนอื่นๆอยู่ในวัยยี่สิบกว่าหรือสามสิบกว่า
“เจ้ามาที่นี่ด้วยความเต็มใจหรือถูกลักพาตัวมา” เหยียนจินกล่าวอย่างเคร่งขรึม “แค่บอกข้า อย่ากลัว พวกเรามาจากวังหยกสุริยัน และนี่คือนายน้อยของตระกูลเมิ่ง แก๊งหมาป่าดำไม่สามารถคุกคามเจ้าได้ เจ้าสามารถแก้แค้นได้ หากเจ้ามีความแค้นกับพวกเขา ตราบใดที่คนเหล่านี้ละเมิดกฎหมาย ก็จะไม่มีใครรอดพ้น”
“ผู้ที่ฝ่าฝืนกฎหมายจะไม่สามารถหลบหนีได้” เมิ่งชวนกล่าว “นี่คือคำสัญญาของข้าให้ไว้กับพวกเจ้า”
ชายชราหรี่ตาลงเมื่อได้ยินเช่นนั้น ลูกน้องข้างหลังต่างพากันมองหน้ากัน
ในบรรดาผู้หญิงเจ็ดคน ผู้สูงอายุคนหนึ่งหัวเราะอย่างไม่เห็นค่าของตัวเอง “นายน้อย พวกท่านทุกคนต้องยุ่งยากเปล่าประโยชน์แล้ว พวกเราทุกคนมาที่สถานที่มัวเมาแห่งนี้ก็เพราะพวกเราไม่มีที่จะไป ตัวอย่างเช่น ข้าถูกสามีทิ้ง ข้าไม่มีที่อยู่ ไม่มีที่ทำกิน และถูกรังแก เพียงแต่มาที่นี่เท่านั้นที่ข้าพอจะสามารถกินอาหารให้อิ่มเอมใจ และมีที่ให้ข้าพักพิงจากสิ่งต่างๆ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แก๊งหมาป่าดำก็หาทางออกให้ข้า”
เหยียนจิน,เมิ่งชวนและหลิวชีเยว่ตะลึง
มันแตกต่างจากที่พวกเขาจินตนาการไว้
ผู้หญิงอีกคนกล่าวว่า “นายน้อยข้าหนีจากภัยพิบัติและมาที่นี่ ไม่มีที่ให้ข้าไป และข้าก็อยู่ในสภาพอดอยาก ท่านจะสามารถเข้าใจถึงความรู้สึกนี้ได้หรือไม่ มันเปล่าประโยชน์ที่จะขอร้องผู้ใด ข้าผ่ายผอมจากความอดอยากจนต้องขายร่างกายและถูกทุกคนดูหมิ่น แก๊งหมาป่าดำที่รับข้ามาจากกลุ่มขอทานและหาทางออกให้ข้า”
“พ่อของข้าขายข้าเพื่อชดใช้หนี้ของเขา และถือได้ว่าข้าได้ชดใช้ความกรุณาของเขาที่เลี้ยงดูข้ามา” เด็กหญิงคนหนึ่งพูดอย่างเย็นชา “ตราบใดที่ข้าหาเงินในซ่องโสเภณีและปลดหนี้… ข้าจะได้รับอิสรภาพกลับคืนมาและมีเงินเพื่อใช้ชีวิตที่เหลืออยู่”
“ที่นี่ยอดเยี่ยมมาก เรามีเสื้อผ้าสวยๆใส่ เรามีพี่สาวน้องสาวให้เล่นสนุกด้วย มีอาหารที่ดีและเราไม่จำเป็นต้องทำงานหนัก” เด็กผู้หญิงหน้าเด็กยิ้มสดใส “ทำไมเราจะต้องการความช่วยเหลือ”
…
มีอุโมงค์ซุกซ่อนอยู่ในบริเวณนี้ ที่ปลายอุโมงค์เป็นห้องโถงลับ
ในห้องโถงใต้ดิน
ชายหลังค่อมนั่งอยู่ในท่าดอกบัว หมอกสีเขียวจางๆปกคลุมไปทั่วร่างกายของเขา และดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยแสงสีเขียวที่น่ากลัว
มีศพผู้หญิงคนหนึ่งข้างกายเขา มีรูที่หน้าอกของศพผู้หญิง เห็นได้ชัดว่าหัวใจของเธอถูกควักออกไปแล้ว
จิจิจิ เล็บมือขวายาวของคนหลังค่อมกุมหัวใจไว้ อย่างไรก็ตาม ตอนนี้หัวใจแห้งอย่างมาก
ฟิ้ว
วืด
หมอกสีเขียวไหลเข้าสู่ร่างกายของชายหลังค่อมทางจมูกของเขา ก่อนที่เขาจะพ่นมันออกมาหลังจากที่ผ่านไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะดังขึ้นจากด้านนอก
“โอ้” สีหน้าของชายหลังค่อมเปลี่ยนไปเล็กน้อยขณะที่เขาพูดอย่างเย็นชา “มีอะไร” สมุนของเขากลับกล้ารบกวนขณะที่เขากำลังทำการฝึกเลยรึ
“นายท่าน มีชายหนุ่มสองสามคนและหญิงสาวอยู่ข้างนอกพร้อมกับชายชรา พวกเขามาจากวังหยกสุริยันและในหมู่พวกเขาคือเมิ่งชวนจากตระกูลเมิ่ง พวกเขาบอกว่าพวกเขามาที่นี่เพื่อช่วยเหลือพี่สาวของเด็กคนหนึ่ง” คนที่อยู่นอกห้องโถงพูดเบาๆ
“งั้นก็คืนพี่สาวของเด็กให้พวกเขาไปซะ” ชายหลังค่อมกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว “ข้าอยู่ในช่วงวิกฤติของการฝึกฝน ไม่จำเป็นต้องยั่วยุตระกูลเทพอสูรทั้งห้าหรือวังหยกสุริยัน”
“ถ้าพวกเขาต้องการค้นหาสวนหินร้างทั้งหมดล่ะ ข้าเกรงว่าความลับบางอย่างจะถูกเปิดเผย” บุคคลภายนอกห้องโถงกล่าว
“ห้ามไม่ให้พวกเขาค้น” ชายหลังค่อมกล่าวอย่างใจเย็น “ถ้าเจ้าไม่สามารถหยุดพวกเขาได้จริงๆ ชะตากำหนดให้เราต้องเปิดเผย ก็ฆ่าพวกนั้นและทิ้งสถานที่แห่งนี้เสีย นั่นจะเป็นการเตือนถึงตระกูลเทพอสูรทั้งห้าตระกูลและวังหยกสุริยันด้วย”
“ขอรับ” บุคคลภายนอกห้องโถงตอบด้วยความเคารพ
ชายหลังค่อมมองศพหญิงที่พื้นแล้วพูดเสียงเบาว่า “ข้าทนไม่ได้จริงๆที่จะต้องทิ้งสถานที่ดีๆสำหรับการฝึกวิชาที่ให้หญิงพรหมจารีบ่อยๆเช่นนี้”