ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - ตอนที่ 437 การขวางกั้นของเฉียวเซิง
“เอ๊ะ ลมหายใจของแกดูไม่เป็นจังหวะเอาเลยนะ ดูเหมือนว่าฉันจะเดาถูกนะ” ฉินเฉิงเยาะเย้ย
ซูหยู่ตัวสั่นไปทั้งตัว เค้าจ้องไปที่ฉินเฉิงแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “แกพูดเรื่องบ้าอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
“ไม่เข้าใจ?” ฉินเฉิงเยาะเย้ย “ซูหยู่ แกมันขยะจริงๆ”
“แกพูดอะไร!” ซูหยู่ตะโกนออกมาอย่างแรง
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เมื่อเห็นรูปร่างของเค้าแล้ว ฉินเฉิงก็อดหัวเราะออกมาไม่ได้
“ทำไมกัน ตอนนี้ยังไม่ยอมรับอีกเหรอ?” ฉินเฉิงเลิกคิ้วขึ้นมา
สีหน้าของซูหยู่เริ่มมืดมนขึ้นเรื่อยๆ หลังจากนั้นไม่นาน เค้าก็ยกเลิกพลังวิธีการลับนั่นแล้วถอดเสื้อคลุมสีดำออก จากนั้นก็จ้องมองมาที่ฉินเฉิงอย่างเย็นชา
“มันเป็นไปอย่างที่คิดไว้เลย แกนั่นเอง” ฉินเฉิงพยักหน้า
เค้ามองไปที่ซูหยู่แล้วพูดว่า: “ถ้าแกไม่ใช้พลังของปีศาจตัวนั้น แกไม่มีทางเอาชนะฉันได้ แบบนี้จะไม่เรียกแกว่าขยะได้ยังไงกัน?”
ซูหยู่มองที่ฉินเฉิงอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า: “ทั้งหมดเป็นเพราะแก ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะแกฉันเลยต้องเป็นแบบนี้! ถ้าไม่มีแก ฉันจะต้องได้กลายเป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่น่าภาคภูมิใจมากที่สุด ฉันจะได้เป็นคุณชายของตระกูลซู เป็นคนที่มีพรสวรรค์ที่อยู่เหนือคนนับหมื่นคน!”
“แกนั่นแก แกที่เป็นคนทำลายฉัน!!” ซูหยู่ตะโกนขึ้นมาอย่างสิ้นหวัง
เมื่อเห็นเสียงที่แหบของเค้า ฉินเฉิงก็หัวเราะออกมา
“ซูหยู่ ฉันเองก็คิดถึงเหตุผลมาโดยตลอดว่าทำไมแกถึงชอบที่จะอยู่เหนือคนอื่น นี่มันทำให้แกรู้สึกเหนือกว่าอย่างนั้นเหรอ?” ฉินเฉิงส่ายหัว
“อย่ามาทำเป็นพูดว่าตัวเองสูงส่งเลย!” ซูหยู่จ้องเขม็ง “แกทำทั้งหมดนี้หรือเพราะแกต้องการข้ามขั้นแล้วเปลี่ยนชีวิตของตัวเองเหรอ? แกต้องการมาแทนที่พวกเราเหรอ? แกจะมามัวเสแสร้งทำไมกัน!”
ฉินเฉิงส่ายหัวแล้วพูดว่า: “คุณคิดผิดแล้ว ถ้าตระกูลซูไม่มายั่วยุเรา ถ้าตระกูลซูไม่แตะต้องซูวาน ฉันจะเป็นแค่คนธรรมดา เรื่องที่แกกำลังพูดถึงอยู่มันไม่เคยอยู่ในความคิดของฉันเลย”
“แต่ตอนนี้ มันเป็นไปไม่ได้แล้ว” เสียงของฉินเฉิงเย็นชามาก “ในตอนที่ซูวานเสียชีวิต ตระกูลซูก็ได้มาถึงทางตันแล้ว ซูหยู่นี่มันก็แค่จุดเริ่มต้นก็เท่านั้น”
ซูหยู่หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง: “ฉินเฉิง แล้วแต่แกเลย! ดูแลตัวเองให้ดีก็แล้วกัน สมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูไม่มีทางปล่อยแกไปแน่!”
หลังจากพูดออกมาแบบนี้แล้ว ซูหยู่ก็ก้าวออกไป ร่างของเค้าเกือบจะถึงรูปร่างที่สุดโต่ง เค้ากำลังจะหลบหนีไปทางอื่น
“ฉินเฉิง ซักวัน ฉันจะฆ่าแกซะ!” เสียงที่ดังขึ้นมาจากระยะไกล มันดังก้องไปทั่วทั้งหุบเขา
ฉินเฉิงยืนอยู่ในที่โล่งนี้ หลังจากนั้นเค้าก็ค่อยๆจากไปอย่างช้าๆ
ที่ตรงหน้าสุสาน ผู้คนต่างก็ยกย่องฉินเฉิง
“คุณฉินนี่เป็นที่หนึ่งของโลกจริงๆ! หากวันนี้ไม่มีเค้าแล้ว พวกเราทุกคนอาจจะต้องตายกันที่นี่!”
“ใช่ ความแข็งแกร่งของคุณฉินไม่มีใครในโลกนี้เทียบได้เลยจริงๆ!”
“เฮ้ ฉันรู้ว่าสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูเข้าใจผิดเรื่องฉินเฉิง เค้าจะเป็นฆาตกรได้ยังไงกัน!”
ที่ไม่ไกลออกไป สีหน้าของเฉียวเซิงก็มืดมนมาก
นี่เป็นครั้งแรกที่เค้ากลายเป็นฉากหลังที่คนอื่นไม่สนใจ
จากนั้นไม่นาน ฉินเฉิงที่อยู่ไม่ไกลออกไปก็เดินเข้ามา
“ขอบคุณคุณฉินที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้!” ทุกคนคุกเข่าลงแล้วตะโกนออกมาอย่างเคารพ
ในตอนนี้เอง เฉียวเซิงก็ก้าวออกมาแล้วเดินตรงเข้ามาหาฉินเฉิง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรสักคำ
“ทำไม มีเรื่องอะไร?” ฉินเฉิงถาม
เฉียวเซิงเย้ยหยัน: “ฉินเฉิง การแสดงในครั้งนี้แกทำได้ไม่เลวเลยหนิ”
“การแสดงอะไร?” ฉินเฉิงถามด้วยความสงสัย
เฉียวเซิงชี้ไปที่ทางที่ซูหยู่จากไปแล้วพูดว่า: “ให้คนของแกมาซุ่มโจมตีพวกเราก่อนแล้วออกมาต่อสู้เพื่อล้างผิดให้กับตัวเอง ฉันคิดว่าละครเรื่องนี้มันน่าจะได้รับรางวัลออสการ์นักแสดงนำยอดเยี่ยมนะ?”
ฉินเฉิงตกตะลึงแล้วหัวเราะออกมา: “แกนี่ช่างจินตนาการดีหนิ น่าจะไปเขียนนวนิยายนะ”
“ยังจะมาเสแสร้งอีก?” เฉียวเฉิงเยาะเย้ย “ฉันสู้กับเค้ามาก่อน ความแข็งแกร่งของเค้าอย่างน้อยๆก็ครึ่งหนึ่งของจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่ แกมันก็แค่ระดับขั้นของจอมยุทธ์ แกจะไปเอาชนะมันได้ยังไงกัน?”
“ครึ่งหนึ่งของจอมยุทธ์ผู้ยิ่งใหญ่?” เมื่อได้ยินแบบนี้แล้ว ความตื่นตระหนกก็ปรากฏขึ้นในใจของทุกคน
“มันมีเหตุผลเดียวเท่านั้น” เฉียวเซิงพูดต่อว่า “เค้าร่วมมือกับแก! ตั้งใจที่จะให้แกชนะเพื่อล้างผิดให้กับแก แกจะได้ทำเรื่องเลวๆต่อไปได้ยังไงกัน!”
“แกพูดบ้าอะไรของแก” ฉินเฉิงขมวดคิ้ว
หลังจากนั้น จู่ๆเค้าก็นึกขึ้นได้ว่า “โอ้ ฉันเข้าใจ นายแพ้มัน ฉันชนะมันแล้วนายก็รับไม่ได้สินะ?
“ไร้สาระ!” เฉียวเซิงพูดขึ้นมาด้วยความโกรธ “ฉินเฉิง แกคิดว่าฉันด้อยกว่าแกอย่างงั้นเหรอ เลิกปิดหูปิดตาคนได้แล้ว ฉินเฉิงมันเป็นฆาตกร!”
เมื่อเป็นแบบนี้ ฉินเฉิงก็ได้ชื่อว่าเป็นฆาตกร
แม้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับเมืองจิงตู แต่ก็ยังสามารถพึ่งพา”สหาย ฉินเฉิง” ได้
คนรอบข้างก็เริ่มมีความสงสัย พวกเค้าก้าวถอยหลังไปสองสามก้าวแล้วไม่กล้าเข้าใกล้ฉินเฉิง
“ฉันคิดว่าที่คุณชายเฉียวพูดมันก็มีเหตุผลนะ ลองคิดดู คุณชายเฉียวเป็นอันดับหนึ่งในจงหยวน เค้าจะด้อยกว่าฉินเฉิงได้ยังไงกัน?”
“ใช่… เราทุกคนก็ได้ดูวิดีโอที่เผยแพร่โดยสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูแล้ว คนๆนั้นคือฉินเฉิงจริงๆ…”
“ฉันไปล่ะ เกือบโดนหลอกแล้ว…”
เมื่อเห็นท่าทีของทุกคนแล้ว ฉินเฉิงก็อดหัวเราะไม่ได้
เค้ากวาดสายตามองผู้คนแล้วตะโกนพูดว่า: “ถ้าฉันเป็นฆาตกรจริงๆ ฉันก็จะต้องฆ่าพวกแกก่อนไป! เชื่อไหม?”
หลังจากพูดจบ ทุกคนก็ถอยหลังไปสองสามก้าวอีกครั้ง พวกเค้ามองไปที่ฉินเฉิงด้วยท่าทีที่สยองขวัญ
“พูดออกมาแบบนี้ แกยอมรับแล้วสินะ?” เฉียวเฉิงหัวเราะ
ฉินเฉิงขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “คำพูดของนายนี่ใครเป็นคนสอนมากันแน่?”
“ฉินเฉิงยอมรับแล้ว ทุกคนรีบถอยแล้ว!” เฉียวเซิงเพิกเฉยต่อคำพูดของฉินเฉิง เค้าตะโกนขึ้นมาแล้วก้าวถอยหลังออกไปหลายสิบก้าวในทันที
“ฉันได้แจ้งสมาคมศิลปะการต่อสู้แห่งเมืองจิงตูเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว พวกเค้าจะมาที่นี่ในไม่ช้า!” เฉียวเซิงเยาะเย้ย “ฉินเฉิง วันนี้แกจบแล้ว!”
ฉินเฉิงขมวดคิ้วเล็กน้อย ต่อให้เค้าจะถูกจับกลับในไม่ช้าก็เร็ว แต่มันจะต้องไม่ใช่ตอนนี้อย่างแน่นอน
ดังนั้น ฉินเฉิงก็เลยหันหลังแล้วเตรียมที่จะจากไป
“ทำไม แกยังคิดที่จะหนีอีกเหรอ?” ร่างของเฉียวเฉิงก็หายไป จากนั้นเค้าก็ตรงเข้ามาขวางกั้นฉินเฉิงเอาไว้
เค้าถือหอกอยู่ในมืออีกครั้ง จากนั้นพลังแห่งการสังหารมันก็ระเบิดออกมา
ฉินเฉิงเยาะเย้ย: “ระดับขั้นสูงสุดของแก มันก็ยังไม่ใช้คู่ต่อสู้ของฉันเลย อย่าทำให้ตัวเองได้รับบาดเจ็บเลย ไสหัวออกไปซะ!”
“อย่างงั้นเหรอ?” เฉียวเซิงเยาะเย้ย “ฉันจะสั่งสอนแกเอง!”
เมื่อเค้าพูดจบ เค้าก็คว้าหอกแล้วแทงเข้าไปที่ฉินเฉิงในทันที!
แสงหอกพุ่งผ่านคิ้วของฉินเฉิงเข้ามา
“รนหาที่ตายจริงๆ” ฉินเฉิงพูดออกมาสั้นๆอย่างเย็นชาแล้วใช้ฝ่ามือตบ “ผั๊วะ”พร้อมกับเสียงที่ดังขึ้นมา
แรงมหาศาลกระจายไปตามหอกตรงเข้าไปที่ข้อมือของเฉียวเซิง!
ภายใต้แรงมหาศาลนี้ แขนของเฉียวเซิงเริ่มอ่อนแรง ปากของเค้าแกแล้วมีเลือดไหลออกมา!
“ตุบ”
หอกในมือตกลงไปที่พื้น ทำให้เกิดเสียงที่คมชัดมาก!
ฉากนี้ทำให้ความคิดในใจของเฉียวเซิงตึงเครียด สีหน้าของเค้าเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก