ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - ตอนที่ 313 ความทะเยอทะยานที่มีอย่างไม่สิ้นสุด
ปี้เสี่ยวเหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย เค้าก็ก้าวไปข้างหน้าแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า: “เซี่ยอู่ นายไม่ควรเข้ามายุ่ง”
เซี่ยอู๋กอดอก เค้าเยาะเย้ยขึ้นมาว่า: “ทำไมกัน เพื่อนของนายคนนี้เค้าไม่ยอมรับความสงสัยเหรอ? หรือว่าเค้ากลัว? หรือว่าจะเป็นคนที่ได้ที่หนึ่งในปีนังอะไรนั่น?”
ปี้เสี่ยวเหยาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ฉันทำดีกับนายแล้วนะ เซี่ยอู๋ นายไม่ควรลองดีกับเค้า ไม่อย่างงั้นก็นายเองนั่นแหละที่จะต้องทุกข์ใจ”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เซี่ยอู่ก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาในทันที “นี่ฉันจะต้องขอบคุณอย่างงั้นเหรอ?”
ข่าวของสำนักงานความมั่นคงมันค่อนข้างเปิดเผย พวกเค้าเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับการกระทำของฉินเฉิงเพียงเล็กน้อยเท่านั้น พวกเค้าไม่รู้อะไรที่ชัดเจนเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้เลย
ดังนั้นข้อสงสัยเกี่ยวกับฉินเฉิง มันก็เลยเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลย
ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงกับฟางจิ้งเหยาก็เดินเข้ามาแล้ว
ปี้เสี่ยวเหยาก็รีบก้าวไปข้างหน้าแล้วทักทาย: “ลูกพี่”
ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า: “ไม่เจอกันนานเลยนะ แข็งแกร่งขึ้นหนิ”
ปี้เสี่ยวเหยา พยักหน้าแล้วพูดว่า: “ผมก็แค่โชคดีได้ก้าวเข้ามาสู้ระดับขั้นของปรมาจารย์ขั้นสองก็เท่านั้น”
“ไม่เลวเลย” ฉินเฉิงพยักหน้า “ด้วยความเร็วนี้ การก้าวเข้าสู่ระดับขั้นสองจอมยุทธ์ภายในสิบปี มันก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้”
ปี้เสี่ยวเหยาก็ยิ้มอย่างขมขื่นแล้วพูดว่า: “มันไม่ง่ายเลยนะครับที่จะก้าวเข้าสู่ระดับขั้นของจอมยุทธ์ … ”
“คุณคือฉินเฉิง?” เซี่ยอู่ก้าวไปข้างหน้าแล้วถามขึ้นมาอย่างเย็นชา
ฉินเฉิงพยักหน้าแล้วพูดว่า: “คุณเป็นใคร?”
“ฉันชื่อเซี่ยอู่” เค้าตบหน้าอกของตัวเอง “ฉันเป็นหัวหน้าโค้ชของที่นี่มาหลายปีแล้ว!”
ทันใดนั้นเอง ฉินเฉิงก็คิดได้: “มันไม่น่าแปลกใจเลยที่สำนักงานความมั่นคงมณฑลปินโจวมันจะรั้งท้ายมาโดยตลอด”
“แก!” เซี่ยอู๋กำหมัดของเค้าทันที เค้ากำลังจะลงมือ แต่ปี้เสี่ยวเหยาก็เอื้อมมือเข้ามาห้ามเค้าไว้
“หัวหน้าฟาง นี่คือเซี่ยอู่เป็นสมาชิกด้วยเหรอ?” ฉินเฉิงถาม
ฟางจิ้งเหยาก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า: “การแข่งขันนี้กำหนดให้เฉพาะผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 30 ปีเท่านั้นที่สามารถเข้าร่วมได้”
หลังจากพูดจบ ฟางจิ้งเหยาก็ตะโกนบอกทุกคนว่า: “ฉันจะแนะนำให้ทุกคนรู้จัก นี่คือฉินเฉิง เค้าจะมาเป็นหัวหน้าฝึกสอนของพวกคุณ ตั้งแต่วันนี้ไป พวกเธอจะต้องปฎิบัติตามคำสั่งของโค้ชฉิน! อย่าเอาแต่กินๆนอนๆหละ!”
“ครับ!” ทุกคนตอบขึ้นมาอย่างพร้อมเพียงกัน
แม้ว่าในใจพวกเค้าจะไม่พอใจ แต่หัวหน้าฟางก็ยังอยู่ที่นี่ พวกเค้าก็เลยไม่กล้าที่จะเถียงอะไร
หลังจากฟางจิ้งเหยาพูดจบ ฉินเฉิงก็ไอแล้วพูดว่า: “เหลือเวลาอีกแค่หนึ่งอาทิตย์ก่อนการแข่งขัน ฉันจะใช้เวลาที่สั้นที่สุดเพื่อปรับปรุงความแข็งแกร่งของทุกคน ฉันหวังว่าทุกคนจะให้ความร่วมมือ”
ที่ตรงหน้าก็เงียบกริบ ไม่มีใครพูดอะไร
“ฮ่าฮ่าฮ่า!” เซี่ยอู่อดหัวเราะไม่ได้ “เห็นไหม ทุกคนยังปฎิเสธที่จะยอมรับนายเลย!”
ฉินเฉิงไม่สนใจเค้า ฉินเฉิงหยิบหนังสือออกมาแล้วยื่นให้กับปี้เสี่ยวเหยาและพูดว่า: “นี่เป็นชุดแบบฝึกที่ฉันทำขึ้นมา ตั้งแต่วันนี้ไป พวกนายจะต้องฝึกตามนี้ เดี๋ยวค่อยเอาไปถ่ายเอกสารกัน ตอนนี้ก็เข้ามาดูด้วยกันก่อน ”
การฝึกชุดนี้เป็นสิ่งที่ฉินเฉิงมอบให้กับชายที่มีแผลเป็นที่หน้า การฝึกฝนนี้มันจริงจังมาก
หลังจากที่ทุกคนเห็นการฝึกนี้แล้ว ทุกคนต่างก็ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “พักแค่สี่ชั่วโมงต่อวัน ฝึกสิบแปดชั่วโมงต่อวัน นี่มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
“นี่มันก็แค่การฝึกทางร่ายกาย! มันมากเกินไป”
“ฉันสงสัยว่าคนๆนี้เค้าอาจจะไม่เข้าใจเรื่องของการฝึกอะไรเลยด้วยซ้ำ!”
“โค้ชฉิน นี่มันต้องฝึกร่างกายมากเกินไปหรือเปล่า? พักผ่อนสี่ชั่วโมงต่อวัน แม้แต่พระเจ้าก็ยังทนไม่ไหว!” ใครบางคนก็ตะโกนขึ้นมา
“ใช่แล้ว! ถ้าพักผ่อนไม่เพียงพอ งั้นจะไปเอาพลังมาจากไหนกัน?”
เมื่อเผชิญกับข้อสงสัยของทุกคน ฉินเฉิงก็ยิ้มแล้วพูดว่า: “ที่ฉันพูด พวกนายก็เพียงแค่ต้องปฏิบัติตาม ไม่ต้องมาตั้งข้อสงสัย”
จากนั้น ฉินเฉิงก็มองไปที่ปี้เสี่ยวเหยาแล้วพูดว่า: “ส่งต่อให้คุณหละกัน จับตาดูพวกเค้าให้ดี ต้องฝึกตามที่เขียนไว้ในนี้เท่านั้น”
ปี้เสี่ยวเหยาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า: “พักผ่อนแค่สี่ชั่วโมงต่อวัน นี่มันยากเกินไปจริงๆ”
“สบายใจได้” ฉินเฉิงพูดว่า “ฉันคิดเอาไว้แล้ว แค่ทำตามที่ฉันพูดพอ”
ปี้เสี่ยวเหยาก็ไม่รู้จะทำยังไง เค้าทำได้เพียงแค่พยักหน้าขึ้นมา
“อีกสามวัน ฉันจะมาตรวจ เมื่อถึงตอนนั้น หวังว่าทุกคนจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง” ฉินเฉิงพูดทิ้งท้ายไว้แบบนี้ หลังจากนั้นเค้าก็จากไป
ทุกคนตกตะลึง หลังจากที่ฉินเฉิงเดินไปไกลแล้ว ในที่สุดพวกเค้าก็อดไม่ไหว
“หัวหน้าปี้ ไอ่คนๆนี้ เค้าจะมาเล่นตลกอะไรกับพวกเรา?”
“ใช่แล้ว มาพูดแค่ไม่กี่คำแล้วก็ออกไป? แบบนี้เรียกว่าโค้ชเหรอ? ในตอนนั้นที่หัวหน้าเซี่ยเป็นโค้ช เค้าก็เฝ้าดูพวกเราฝึกตลอดเลย!”
เซี่ยอู่ก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา: “พูดตามจริงนะ ฉินเฉิงนี่มันทำอะไรไม่ได้เรื่องหรอก มันเป็นแค่ลูกเขยของนายท่านซูตระกูลซูก็เท่านั้น ความสัมพันธ์ระหว่างนายท่านซูกับหัวหน้าฟาง นี่มันยังจะต้องพูดอะไรอีกเหรอ? ”
คนเหล่านี้ก็มองหน้ากัน ทันใดนั้นเองพวกเค้าต่างก็คิดได้
“โอ้ ผมเข้าใจแล้ว เค้ามาที่นี่ก็เพื่อเอาหน้าอย่างงั้นเหรอ?”
“บัดซบ! นี่มันมากเกินไปแล้ว เค้าจะมาใช้พวกเราเพื่อสร้างเรื่องเอาหน้าเนี่ยนะ?”
เซี่ยอู่โบกมือขึ้นมาแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า: “ทุกคนไม่ต้องห่วง ที่มันบอก พวกเราก็ไม่ต้องทำตามก็แค่นั้น! แบบนี้หละกัน ทุกคนก็ฝึกตามวิธีการของฉันก็แล้วกัน!”
“ครับ!” สมาชิกในทีมทุกคนตอบรับกันอย่างพร้อมเพียง
“ไม่ได้!” ยังไงก็ตาม ในตอนนี้เอง ปี้เสี่ยวเหยาก็ดุขึ้นมาอย่างเย็นชา
“ต้องฝึกตามวิธีการของโค้ชฉิน ไม่ว่าจะยังไงก็ตามห้ามขัดขืน” ปี้เสี่ยวเหยาก็พูดขึ้นมาอย่างเย็นชา
เซี่ยอู่หรี่ตาลง “ปี้เสี่ยวเหยา สมองนายมีปัญหาอย่างงั้นเหรอ มันเห็นได้ชัดเลยว่าไอ่คนๆนี้มันกำลังเล่นตลกกับเรา หรือนายจะบอกว่าไม่ใช่”
“นี่คือคำสั่ง” ปี้เสี่ยวเหยาพูดขึ้นมาอย่างเย็นชา “เซี่ยอู่ นายไม่ใช่โค้ชอีกต่อไปและวิธีการฝึกของทุกคนมันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับนายอีกต่อไป”
“แก!” เซี่ยอู่โกรธจัด เค้ากำหมัดจนแน่น
ปี้เสี่ยวเหยาไม่สนใจเซี่ยอู่ เค้ากวาดมองไปที่ทุกคนแล้วพูดอย่างเย็นชา: “ฉันจะเข้าร่วมการฝึกอบรมนี้ ถ้าใครกล้าที่ขี้เกียจ ก็ออกจากสำนักงานความมั่นคงไปซะ!”
ปี้เสี่ยวเหยาเป็นคนที่เป็นที่นับถือเป็นอย่างมากในสำนักงานความมั่นคง เมื่อเค้าพูดอะไร ทุกคนก็พร้อมที่จะทำตามเสมอ
ดังนั้นแม้ว่าทุกคนจะไม่พอใจ แต่พวกเค้าก็ไม่กล้าที่จะไม่เชื่อฟัง
“ปี้เสี่ยวเหยา ฉันบอกนายนะ ถ้าหากว่าร่ายกายของพวกเค้าเป็นอะไรขึ้นมาหละก็ นายจะต้องรับผิดชอบ!” เซี่ยอู่กัดฟันของเค้า
ปี้เสี่ยวเหยาพูดอย่างเย็นชา: “ไม่ใช่สถานที่ๆคุณจะมาชี้นิ้วสั่ง เราจะฝึก เชิญออกไปข้างนอกด้วย”
“แก!” สีหน้าของเค้ากลายเป็นสีฟ้า หน้าผากของเค้ามันก็โปนขึ้นมา
“โอเค โอเค!” เซี่ยอู่ชี้ไปที่ปี้เสี่ยวเหยา “คอยดูเถอะ ฉันจะดูว่า’พรสวรรค์’แบบไหนที่แกจะฝึกได้!”
หลังจากที่พูดจบ เซี่ยอู่ก็หันหลังแล้วจากไป