ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - ตอนที่ 277 ความกังวลของซูฉีไห่
พลังที่ควบแน่นอยู่ในมือของเฉียวไท่กู่ก็ระเบิดออกในทันที ผู้คนต่างก็พากันถอยออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า!
ฉินเฉิงโกรธมาก เค้าก้าวไปข้างหน้าแล้วจับร่างของเฉียวไท่กูขึ้นมา ฝ่ามือสีทองของเค้าก็ผายออกมาจากซ้ายไปขวา เสียงของกระดูกมันก็ดังขึ้นมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ชูเห้ากับคนอื่นๆ พวกเค้าแทบทุกคนต่างก็ตกตะลึง พวกเค้าต่างก็กลืนน้ำลาย ฉากที่รุนแรงนี้มันทำให้พวกเค้ารู้สึกกลัวเล็กน้อย
ในเวลาเพียงเพียงแค่ไม่กี่วินาที เฉียวไท่กูก็กลายเป็นคนพิการไปโดยสมบูรณ์ มันแทบจะมองไม่เห็นเป็นรูปเป็นร่างเลย
ในตอนนี้เอง ฉินเฉิงก็ทนไม่ไหวแล้ว เค้านั่งลงบนพื้นและพูดขึ้นมาอย่างเย็นชาว่า: “เฉียวไท่กู ฉันจะใจดีไว้ชีวิตแกแล้ว แกยังจะมารอบโจมตีฉันอีกเหรอ แกนี่ไม่รู้จักสำนึกบุญคุณเลยนะ!”
แม้ว่าเฉียวไท่กูแทบจะเละจนไม่เป็นรูปเป็นร่างแล้ว แต่เค้าก็ยังมีชีวิตอยู่และยังคงใช้ลมหายใจเงือกสุดท้ายของชีวิต
การจะฆ่าจอมยุทธ์นั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ตราบใดที่เค้ายังมีลมหายใจ พวกเค้าก็ยังมีทางรอด
“ฉินเฉิง นายเป็นยังไงบ้าง?” ชูเห้าก็วิ่งเข้ามาถาม
ฉินเฉิงโบกมือขึ้นมา เค้าเหลือบไปที่เฉียวไท่กูแล้วพูดว่า: “คุณชายชู คุณเองก็เห็นหมดแล้ว เค้ารนหาเรื่องเอง นี่มันไม่ใช่ความผิดของฉัน”
ชูเห้าพูดขึ้นมาอย่างจริงจังว่า: “ฉินเฉิง ไม่ต้องห่วง ครอบครัวชูของฉันมีจะเข้าใจเรื่องความบาดหมางนี้ดี เฉียวไท่กูสมควรที่จะได้รับโทษของเค้าแล้ว”
ในที่สุด เมื่อได้ยินแบบนี้ ฉินเฉิงก็โล่งใจ
“ผมจะไปตามหมอมาเดี๋ยวนี้เลย” ชูเห้าก็พูดขึ้นมา
ฉินเฉิงโบกมือขึ้นมาแล้วพูดว่า: “ไม่ต้อง ฉันพักซักพักก็ดีขึ้นแล้ว”
หลังจากพูดจบ ฉินเฉิงก็ลุกขึ้นมาอย่างยากลำบากแล้วเตรียมที่จะกลับไปที่โรงแรม
“ไป ไปส่งฉินเฉิง” ชูเห้าก็โบกมือขึ้นมา ทันใดนั้นเอง ลูกน้องของตระกูลชูก็วิ่งเข้ามาแล้วพาฉินเฉิงกลับ
หลังจากกลับถึงโรงแรมแล้ว ฉินเฉิงก็นอนหลังทั้งคืน จากนั้นอาการบาดเจ็บของเค้ามันก็ค่อยๆคลายลง
การต่อสู้ระหว่างฉินเฉิงกับเฉียวไท่กู มันก็ได้แพร่หลายไปอย่างรวดเร็วโดยคนของตระกูลชู
ในตอนนี้เอง ตระกูลศิลปะการต่อสู้จำนวนมากในเมืองจิงตูก็รับรู้เรื่องนี้
“ฉินเฉิงคนนี้ ฉันประเมินเค้าต่ำไปจริงๆ!” เสียวหยู่เชี้ยนก็โกรธจัด เธอตบฝ่ามือลงไปบนโต๊ะไม่เนื้อแข็ง
“ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่สามารถเอาชนะจอมยุทธ์ได้อย่างงั้นเหรอ? จอมยุทธ์ลอบโจมตีเค้าแต่ก็โดนโจมตีกลับ นี่มันไม่ได้ล้อเล่นกันใช่ไหม?” ตระกูลต่างๆในจิงตู คนของตระกูลฮั่นต่างก็ตกใจ
“ฮั่นจิ่วเถียนเองก็ทำได้เหมือนกัน แต่ฮั่นจิ่วเถียนเป็นใครกัน เค้าคือความหวังของตระกูลฮั่นที่เป็นอัจฉริยะแนวหน้าของเมืองจิงตูเหรอ…”
“ฉินเฉิงนี่ มันกล้ามาที่เมืองจิงตู!” ผู้พิทักษ์ก็ได้รับข่าวนี้เหมือนกัน ความกังวลบนใบหน้าของเค้ามันก็ยิ่งทวีคูณมากยิ่งขึ้น เค้าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาหลายครั้งแล้วคิดที่จะโทรหาซูฉีไห่ แต่ในที่สุดก็ต้องล้มเลิกความพยายาม
แม้ว่าการต่อสู้ครั้งนี้มันจะไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ แต่ก็ยังคลิปที่เผยแพร่ออกไปสู่โลกภายนอก
“ในความคิดของฉัน พรสวรรค์ของฉินเฉิงมันก็ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกคุณชายในเมืองจิงตูเลย!”
“หากจะจัดอันดับตามความสามารถแล้ว ฉินเฉิงน่าจะอยู่ในห้าอันดับแรก”
“แต่ฉันคิดว่า ถ้ามันสามารถก้าวเข้ามาสู่ขอบเขตของจอมยุทธ์ได้ ซูหยู่อาจจะไม่สามารถเอาชนะมันได้จริงๆ…”
ทันใดนั้นเอง มันก็มีคำพูดมากมายเกี่ยวกับฉินเฉิง
ลูกเขยที่ไม่มีชื่อเสียงก็ได้ก้าวเข้ามาสู่สายตาของตระกูลใหญ่
สีหน้าของซูฉีไห่ก็เต็มไปด้วยความกังวลเป็นอย่างมาก
เค้าแตกต่างไปจากเสียวหยู่เชี้ยน มันบอกได้เลยว่าความคิดของซูฉีไห่มันค่อนข้างคล้ายกันกับความคิดของผู้พิทักษ์อาวุโส
ซูฉีไห่ไม่ค่อยมีเสียงอะไรมากในตระกูลซู มันเลยทำให้เค้าต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก
ในความคิดของเค้า มันก็มีเจตนาฆ่าที่คลุมเครือ
แต่ตอนนี้มันก็มีปัญหาใหญ่ นั่นก็คือ อาจารย์โจวก็มาเข้าร่วมด้วย
เนื่องจากตระกูลซูให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ส่วนตัวเป็นอย่างมาก พวกเค้าก็เลยไม่กล้าที่จะรุกรานโจวติ่งเลย ดังนั้นการที่พวกเค้าจะไม่สนใจโจวติ่งแล้วเข้าไปจัดการกับฉินเฉิงโดยตรง มันก็เป็นไปไม่ได้เลย
“บัดซบ!” ซูฉีไห่โกรธมากขึ้น เค้าตบลงไปที่โต๊ะอย่างรุนแรง
“เดิมทีการมีความสัมพันธ์กับโจวติ่งมันก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ตอนนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องดีเอาซะเลย” ซูฉีไห่กัดฟัน
หลังจากดิ้นรนอยู่นาน ในที่สุดเค้าก็ตัดสินใจคุยกับนายท่านซูเกี่ยวกับเรื่องนี้ บางทีมันก็พอจะมีโอกาสชนะอยู่บ้าง
ที่สวนอีกด้านหนึ่งของนายท่านซู มันก็เป็นสวนที่เรียบง่ายแต่ก็ดูแปลกตา
นายท่านซูคนนี้เค้ากับปู่ของซูวานเป็นพี่น้องกัน ความชอบของพวกเค้าค่อนข้างคล้ายคลึงกัน สวนทั้งหมดนี่มันก็ดูเรียบง่ายเป็นอย่างมาก
“คุณชายแปด กรุณารอสักครู่” บอดี้การ์ดของนายท่านซูก็มาขวางทางไว้
คนนี้เค้าเป็นทั้งบอดี้การ์ดและพ่อบ้าน ดังนั้นสถานะของเค้าก็เลยสูงมาก
ซูฉีไห่ลุกยืนขึ้นมาแล้วพูดว่า: “คุณพ่อบ้าน รบกวนด้วยนะครับ”
คุณพ่อบ้านก็ยิ้วแล้วเดินจากไป
จากนั้นไม่นาน นายท่านซูก็เดินออกมา
นายท่านซูคนนี้เป็นคนหัวโบราณ ทุกการเคลื่อนไหวของเค้า มันก็คือโลกที่มีการเปลี่ยนแปลง
คนๆนี้เค้าคือคนที่มีอำนาจที่แท้จริงของตระกูลซู
“มีเรื่องอะไร” นายท่านซูนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้โบราณ เค้าไม่เคลื่อนไหวอะไรเลย
ซูฉีไห่รีบบอกนายท่านซูว่ามันเกิดอะไรขึ้นมาบ้าง
“พ่อครับ ฉินเฉิงคนนี้จะเก็บมันไว้ไม่ได้แล้วนะ ถ้าซูหยู่แพ้ ต่อไปเค้าจะต้องคุกคามตระกูลซูของเราอย่างแน่นอน!” ซูฉีไห่พูดขึ้นมาอย่างขมขื่น “ตระกูลชูให้ความสำคัญกับศิลปะการต่อสู้มาโดยตลอดและตอนนี้ลูกน้องของตระกูลชูก็ยังทำอะไรมันไม่ได้เลย ผมเป็นห่วงว่าถ้าพวกเค้าสามารถลากฉินเฉิงเข้ามาร่วมด้วยได้ เมื่อถึงตอนนั้นการที่พวกเราอยากจะฆ่ามัน มันก็จะไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะครับ”
นายท่านซูหลับตาลงเล็กน้อย เค้าไม่แสดงความคิดเห็นอะไรต่อคำพูดของซูฉีไห่อยู่นาย
ซูฉีไห่ไม่กล้าพูดอะไรต่อ เค้าทำได้เพียงแค่นั่งรอ
หลังจากผ่านไปซักพัก ดวงตาของนายท่านซูก็ค่อยๆเปิดขึ้นมาอย่างช้าๆ
เค้ามองไปที่ซูฉีไห่แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า: “เรื่องเกี่ยวกับศิลปะการต่อสู้ของตระกูลซู มันไม่ใช่เรื่องที่แกจะต้องจัดการหรอกเหรอ? เรื่องเล็กน้อยแค่นี้ทำไมแกจัดการมันไม่ได้?”
สีหน้าของซูฉีไห่ก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย เค้าอ้าปากค้างแล้วก็ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไร
นายท่านซูก็พูดอย่างเย็นชาว่า: “ฉันไม่สนหรอกว่าแกจะทำอะไร แต่มีข้อแม้ก็คือ แกจะต้องไม่ทำให้โจวจิงขึ่นเคือง”
“พ่อครับ ผมแค่หวังว่าพ่อจะช่วยคุยกับโจวติ่งได้!” ซูฉีไห่พูดขึ้นมาอย่างเป็นกังวล
นายท่านซูพูดความโกรธว่า: “ไร้สาระ! ซูฉีไห่ แกบ้าไปแล้วเหรอ? จะให้ฉันไปคุยกับโจวติ่ง?”
“พ่อครับ ผม…” ซูฉีไห่ต้องการจะอธิบายบางอย่าง แต่นายท่านซู่ก็โบกมือขึ้นมา
“คำพูดของฉัน แกต้องวเชื่อฟัง” นายท่านซูค่อยๆลุกขึ้นแล้วพูดด้วยสีหน้าที่เย็นชา
ซูฉีไห่กัดฟัน แม้ว่าเค้าจะไม่เต็มใจ แต่เค้าก็ทำได้เพียงแค่ก้มหน้าแล้วพูดว่า: “พ่อครับ ผมรู้แล้ว”
หลังจากออกมาแล้ว ซูฉีไห่ก็สูดหายใจเข้าลึกๆ
เนื่องจากเค้าไม่สามารถกำจัดฉินเฉิงได้อย่างเปิดเผย เค้าก็เลยทำได้เพียงแค่ต้องหาวิธีการอื่นเท่านั้น
อย่างเช่นการจัดฉากอุบัติเหตุให้มันตาย
ฉินเฉิงเป็นที่รู้จักในโลกของศิลปะการต่อสู้ แต่ในโลกของธุรกิจและธุรกิจอื่นๆที่สำคัญอีกมากมาย เค้ายังไม่เป็นที่รู้จัก
ดังนั้นมันก็แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะขอความช่วยเหลือจากพี่น้องคนอื่นๆ ของตระกูลซู
“เห้ออ” ซูฉีไห่สูดหายใจเข้าลึกๆ เค้ารู้สึกปวดหัวกับเรื่องนี้
ที่อีกด้านหนึ่ง ฉินเฉิงก็กำลังเตรียมการงานประมูลอยู่
เค้าวาดแผนการลงบนกระดาษ แผนวิธีการล้อมและปราบปรามตระกูลซูแต่ละขั้นตอน จนกระทั่งการบังคับให้นายท่านซูถอนตัวออกไป