ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - ตอนที่ 145 อ่อนแอไร้ความสามารถ
"ฮวา!"
ทันใดนั้นมีฝุ่นคลุ้งขึ้น ฉินเฉิงยืนอยู่บนพื้นอย่างมั่นคง
หน้าตาของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ จากความตื่นเต้น กลายเป็นความสงสัย ในที่สุดก็กลายเป็นความโกรธ
"ฉินเฉิง? ทำไหมถึงเป็นแก?" ซูยี่ซิ่วตะโกนก่อน เหมือนกับว่าเขาเจอผีอะไรแบบนั้น ถอนหลังอย่างต่อเนื่องหลายก้าว
ฉินเฉิงหัวเราะและพูด :"ทำไหม แปลกใจที่เห็นฉันใช่ไหม?"
ทันใดนั้นซูยี่ซิ่วโกรธมาก เขาเดินมาอยู่ต่อหน้าฉินเฉิง คว้าไปที่คอเสื้อของฉินเฉิง พูดอย่างเย็นชา :"ทำไหมสิ่งที่ออกมาถึงเป็นแก? หญ้าวิญญาณแห่งไฟอยู่ไหน?"
ฉินเฉิงเต็มไปด้วยความไม่ใส่ใจและตบไปที่ท้องของตัวเอง หัวเราะและพูด :"กินไปแล้ว"
"กินไปแล้ว?!" ทุกคนต่างอุทานออกมา "ไอ้เวรใครอนุญาตให้แกกิน?"
"ฉันอยากกิน จำเป็นต้องผ่านการยินยอมจากพวกแกด้วยเหรอ?" ฉินเฉิงหัวเราะและพูดอย่างเย็นชา
"ไปตายสะ!" ซูยี่ซิ่วตะคอกด้วยความโกรธ เขาผลักฉินเฉิงอย่างรุนแรง พร้อมกับต่อยหนึ่งหมัดเข้ามา!
ฉินเฉิงหัวเราะและพูดอย่างเย็นชา :"เข้ามาได้ดี!"
เขายกกำปั้นขึ้นเช่นกัน โจมตีต้อนรับเช่นกัน
"ตุ้ม"หนึ่งที เสียงราวกับว่ามีเหล็กกระทบกัน ก้องกังวานอยู่ในป่า!
ในไม่ช้า ก็เห็นซูยี่ซิ่วถอยหลังอย่างต่อเนื่องหลายก้าว
เขาสะบัดข้อมือของตัวเองอย่างแรง เพียงแค่รู้สึกเหมือนกับว่าแขนข้างนั้นถูกกระแทบจนแตกไปแล้ว กระทั่งแม้แต่จะยกมือขึ้นยังลำบากเล็กน้อย!
"ไอ้เวร" ในเวลานี้ เนี่ยเทียนเดินขึ้นมา
เขามองฉินเฉิงอย่างเย็นชา และพูด :"แกกล้ามากเลยนะ รู้หรือไม่ว่าหญ้าวิญญาณแห่งไฟมีความหมายต่อพวกเราอย่างไร? คิดไม่ถึงเลยว่าแกจะเห็นแก่ตัวกลืนมันเข้าไป!"
"ฉันจะฆ่าเขาทิ้งเดี๋ยวนี้เลย ใช้เนื้อและเลือดของเขาเป็นยา หรือบางทีการสูญเสียบางอย่างสามารถกู้คืนได้" หวงจิ้งเซิ่งพูดอย่างเย็นชา
แววตาของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่คนอื่น ๆ มีแสงแห่งความดุร้ายทีละคนๆ ส่วนใหญ่ต้องการลงมือ
"ฉินเฉิง! วันนี้แกจำเป็นต้องตายอยู่ที่นี่!" ซูยี่ซิ่วกัดฟันจนมีเสียงดังออกมา ความเกลียดชังอันมหึมา เกือบทำให้เขาเสียสติไปแล้ว!
เดิมทีคิดว่าครั้งนี้สามารถทำภารกิจของตระกูลซูได้สำเร็จ กลับคิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นการทำชุดแต่งงานให้คนอื่น!
ฉินเฉิงมือไขว่หลัง ไม่ทุกข์ไม่สุข
เขาหัวเราะและพูดอย่างไม่แยแส :"พวกแกเข้ามาพร้อมกันเลย ฉันฉินเฉิงไร้ความกลัว!"
หลังสิ้นสุดเสียง ฉินเฉิงก้าวมาข้างหน้าหนึ่งก้าวก่อน ลมหายใจแห่งความสยดสยองมีศูนย์กลางอยู่ที่เขา ทั่วทุกทิศเริ่มสั่นขึ้นมา!
"ตายสะเถอะ!" ซูยี่ซิ่วตะโกนด้วยความโกรธ โจมตีเข้าไปอีกครั้ง!
"วิชาร่างกายพลิ้วไหวเหมือนมังกร!" ซูยี่ซิ่วตะโกน ร่างกายของเขาก็อ่อนนุ่มอย่างมากทันที ราวกับว่ามังกรตัวจริงยังมีชีวิตอยู่!
แต่บนมือทั้งคู่ของเขากลับมีพลังปราณที่รวบรวมเอาไว้จนกลายเป็นเหมือนเขี้ยว พลังปราณนี้มีความรุนแรงอย่างมาก ต่อให้เป็นเหล็กถูกสัมผัสเข้า จะขาดเป็นสองท่อนทันที!
"ซวา!"
ร่างของซูยี่ซิ่วหายไปอย่างกะทันหัน แทบจะในพริบตา ไปพันรอบร่างกายของฉินเฉิงเอาไว้!
เขี้ยวกำลังภายในนับไม่ถ้วนถูกปกคลุมอย่างหนาแน่น ราวกับว่าจะกลืนกินฉินเฉิง!
ฉินเฉิงมือไขว่หลัง มองดูซู่ยี่ซิ่วที่พันรอบเขาอย่างเย็นชา
ความเร็วสูงสุดควบคู่กับรูปร่างที่อ่อนนุ่มของเขา ทำให้เขาเป็นเหมือนกับปลาชนิดหนึ่ง ทำให้คนยากที่จะจับต้องได้!
ทันใดนั้น ฝ่ามือของฉินเฉิงราวกับมังกรก็โจมตีออกมา "ตุ้ม" หนึ่งที ทะลุทะลวงพลังปราณของซูยี่ซิ่ว!
วินาทีต่อมา เห็นฝ่ามือของฉินเฉิง บีบคอของซูยี่ซิ่วเอาไว้แน่น ยกเขาขึ้นบนกลางอากาศ!
คนมากมายอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจอย่างเย็นชา แม้ว่าเทคนิคนี้จะไม่โดดเด่นในตระกูลซูก็ตาม แต่อย่างน้อยก็อยู่เหนือคนทั่วไป!
เมื่ออยู่ในโลกแห่งศิลปะการต่อสู้ ยิ่งกว่าผลงานชิ้นเอกด้วยซ้ำ!
แต่ฉินเฉิงกลับภายในพริบตา ด้วยวิธีการที่ง่ายที่สุด ทำลายเวทย์มนตร์ของตระกูลซู!
"มีความสามารถแค่นี้เองเหรอ?" ฉินเฉิงกำซูยี่ซิ่วเอาไว้แน่น ในไม่ช้า ใบหน้าของซู่ยี่ซิ่วเปลี่ยนเป็นสีม่วง เริ่มมีการดิ้นรนอยู่กลางอากาศ!
"ผัวะ!"
ทันใดนั้น ฉินเฉิงตบหน้าอกของซูยี่ซิ่วด้วยมืออีกข้างหนึ่ง ทันใดนั้นซูยี่ซิ่วบินออกไปโดยตรงเหมือนกับว่าวที่พังไปแล้ว!
"โอ๊ย!"
คอของซู่ยี่ซิ่วหวาน เลือดพุ่งออกมาอย่างควบคุมไม่ได้!
สีหน้าของทุกคนเริ่มเคร่งขรึมขึ้นอย่างกะทันหัน
ความแข็งแกร่งของซูยี่ซิ่ว ในบรรดาคนเหล่านี้มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแน่นอน แต่เมื่ออยู่ต่อนห้าฉินเฉิง แต่ไม่มีทางต้านทานได้เลย!
"เกรงว่าไอ้เด็กคนนี้จะบรรลุขั้นต่อไปแล้ว!" มีคนร้องด้วยความตะลึง "ชักช้าไม่ได้แล้ว ทุกคนร่วมมือกัน โจมตีพร้อมกัน!"
"ฮ่าๆๆๆ ให้ฉันเป็นคนต่อสุ้กับเขาเอง" ช่วงเวลานี้ ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ที่สวมชุดสีดำมาโดยตลอดท่านหนึ่งเดินออกมา
ใบหน้าของเขาถูกคลุมด้วยเสื้อคลุมสีดำ ไม่มีใครมองเห็นได้ชัดเจน
จนถึงในเวลานี้ เขาถอดเสื้อคลุมสีดำของตัวเองออก
ภายใต้เสื้อคลุมสีดำ เป็นร่างกายที่ดูแก่ชรา บนหน้าชราเต็มไปด้วยรอยเหี่ยวย่น
"ผู้เฒ่าโหยว?" ทันใดนั้น ดูเหมือนว่ามีคนรู้จักชายชราคนนี้
"ผู้เฒ่าโหยว? ผู้เฒ่าโหยว?" สีหน้าของเนี่ยเทียนก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย หลังจากนั้น เขาคุกเข่าลงบนพื้นอย่างรวดเร็ว โค้งคำนับและพูด :"ยินดีที่ได้พบผู้เฒ่าโหยว!"
คนอื่นๆก็ค่อยๆโค้งตัวลงเช่นกัน สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพ
"ผู้เฒ่าโหยว จู่ๆคุณก็หายตัวไปเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ทุกคนล้วนแล้วบอกว่าคุณตายไปแล้ว ทำไหม….." หวงจิ้งเซิงถามอย่างสั่นเทา
ชายชราที่ถูกเรียกว่าผู้เฒ่าโหยวพูดอย่างไม่แยแส :"ช่วงสามสิบปีมานี้ ฉันเดินทางไปทั่วทั้งประเทศ เพียงเพื่อต้องการค้นหาเทคนิคลับที่ดีที่สุด ดังนั้นจึงหายไปจากท่ามกลางสายตาของทุกคน"
"ผู้เฒ่าโหยว ความแข็งแกร่งในปัจจุบันของคุณไปถึงขั้นไหนแล้ว?" มีปรมาจารย์ท่านหนึ่งถาม
ผู้เฒ่าโหยวพูดอย่างไม่แยแส :"ปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ขั้นห้า"
แม้ว่าคำพูดจะเบา แต่กลับมีความหยิ่งผยองที่ปกปิดไม่ได้
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทุกคนล้วนแล้วสูดลมหายใจด้วยความตะลึง
พวกเขายิ้มอย่างขมขื่นในใจ ต่อให้เจ้าแห่งโอสถนี้จะไม่ถูกฉินเฉิงกลืนกินไป เกรงว่าคงไม่ถึงโอกาสของพวกเขา
ผู้เฒ่าโหยวเพียงแค่ลงมือ ใครยังสามารถมีชีวิตรอดไดอีก?
ต่อให้ซูยี่ซิ่ว เกรงว่าล้วนแล้วต้องล่าถอย? นอกจากนี้ที่นี่ ตระกูลซูก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนเคลื่อนไหว
"ผู้เฒ่าโหยว คิดไม่ถึงเลยว่าคุณยังมีชิวิตอยู่" ซูยี่ซิ่วลุกขึ้นมาจากพื้นอย่างยากลำบาก
ผู้เฒ่าโหยวพยักหน้าเบาๆและพูด :"นายน้อยซู"
ซูยี่ซิ่วชี้ไปที่ฉินเฉิงและตะคอก :"คุณโหยว รบกวนคุณช่วยฆ่าฉินเฉิงคนนี้ด้วย ตระกูลซูของฉันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับศพของเขา นอกจากนี้จะจำหนี้บุญคุณของคุณเอาไว้!"
ผู้เฒ่าโหย่วโค้งตัวเล็กน้อยและพูด :"ขอบคุณนายน้อยซูที่ให้โอกาส บังเอิญได้รู้ความลับทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ สามารถทำให้ร่างมนุษย์เป็นหุ่นเชิดได้ ฉินเฉิงบังเอิญเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด"
หน้าทุกคนเป้นเหมือนฝุ่น เห็นได้ชัดอย่างมาก ผู้เฒ่าโหยวและซูยี่ซิ่วบรรลุฉันทามติ การเดินทางครั้งนี้ เกรงว่าคงต้องกลับไปมือเปล่าแล้ว
ผู้เฒ่าโหยวก็ไม่ได้พูดอะไรมาก เขามองไปที่ฉินเฉิงอย่างเงียบ ๆ หัวเราะและพูดอย่างไม่แยแส :"น้องชาย เข้ามารับความตายด้วยตัวเองดีกว่า เพื่อหลีกเลี่ยงความเจ็บปวดโดยไม่จำเป็น"
"ไอ้แก่ คำพูดคำจาใช่ย่อยเลยนะ" ฉินเฉิงหัวเราะและพูดอย่างเย็นชา
"ไอ้แก่?!" เมื่อได้ยินการเรียกแบบนี้ ทุกคนอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นครั้งแล้วครั้งเล่า
"ไอ้เด็กเวร เกรงว่าแกคงไม่รู้สินะว่าผู้เฒ่าโหยวน่ากลัวขนาดไหน" เนี่ยเทียนถอนหายใจและพูด "ในตอนนั้นช่วงที่เขาโด่งดังมีเชื่อเสียง เกรงว่าแกคงยังมาไม่ถึงบนโลกใบนี้"
ผู้เฒ่าโหยวยิ้มเล็กน้อยและพูด :"น้องชาย ทำไหมต้องบีบให้ฉันลงมือด้วย?"
"ไอ้สัตว์เดรัจฉาน ไม่ต้องพูดมาก" ฉินเฉิงพูดอย่างไม่แยแส "ในสายตาของฉัน แกและพวกเขาล้วนแล้วเหมือนกัน อ่อนแอไร้ความสามารถ"