ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - ตอนที่ 99 คำเชิญของจี้หงเซิง
แต่นี่มันก็เป็นความคิดเพียงแค่ชั่วขณะเท่านั่น เค้าไม่สามารถทำสิ่งที่ชั่วร้ายแบบนี้ได้
แต่… นิกายอย่างเมืองซวนหมิง มันสามารถที่จะทำลายได้เลย
…
วันรุ่งขึ้น ตอนที่ฉินเฉิงตื่นขึ้นมา จี้หงเซิงก็โทรเข้ามาหาเค้า
จี้หงเซิงพูดคุยอย่างมีความสุข เค้าพยายามเชิญฉินเฉิงให้ไปเที่ยวกับเค้า ท่าทีของเค้ามันดูถ่อมตัวมาก
ฉินเฉิงดูเวลา ตอนนี้เค้าก็ไม่มีเรื่องอะไรต้องทำพอดี ดังนั้นเค้าก็เลยตอบตกลง
จากนั้นไม่นาน จี้เซียงก็ขับรถไปที่บ้านตระกูลซู
"ลูกพี่!" จี้เซียงดูมีรอยยิ้มที่มีความสุข จากนั้นก็หยิบบัตรธนาคารจากกระเป๋าของเค้าและมอบให้ฉินเฉิง
"พ่อให้ผมเอามันมาให้พี่ เค้าบอกว่ามันเป็นของขวัญ" จี้เซียงก็พูดขึ้นมา
ฉินเฉิงดูบัตรธนาคารแล้วมองไปที่จี้เซียงแล้วพูดว่า "นายมีเรื่องอะไรจะขอฉันใช่ไหม?"
จี้เซียงผงะแล้วส่ายหัวอย่างรวดเร็ว: "ไม่…ไม่มี!"
"ไม่มีจริงเหรอ?" ฉินเฉิงเหน็บแนม "โอกาสมันมีแค่ครั้งเดียวนะ"
จี้เซียงเกาหัวอย่างต่อเนื่องแล้วพูดว่า "ผมไม่สามารถซ่อนอะไรจากพี่ได้เลย… อันที่จริง มีสิ่งหนึ่งที่ผมต้องการให้พี่ช่วย แต่ผมไม่รู้ว่าพี่จะช่วย…"
"พูดมาเถอะ" ฉินเฉิงพูดอย่างสบายๆ เค้าเอนตัวพิงรถ
จี้เซียงอธิบายว่า: "พี่ก็รู้ว่าพ่อของผมทำอะไร หลายปีที่ผ่านมาเค้าทำงานอย่างหนักเพื่อเปลี่ยนแปลงและสำรวจธุรกิจทุกหนทุกแห่ง พวกลูกคนรวยในมณฑลและเมืองเอกมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง เค้ามีโครงการบันเทิงทั่วไปก็ยังไม่พอ พ่อผมก็เลยอยากทำธุรกิจเหมืองหินหยก! ถ้าสำเร็จเราจะเป็นเจ้าแรกในเมือง!"
ฉินเฉิงพยักหน้า "พูดต่อสิ"
"เมื่อเร็วๆมานี้พ่อผมเค้าได้ก้อนหินหยกจำนวนหนึ่ง มันมาจากชายแดนมณฑลหยวนโจว เค้าเองก็จะตรวจสอบกล่องสินค้าพวกนี้เหมือนกัน วันนี้ก็จะตรวจสอบสินค้าพอดีเลย" จี้เซียงพูด
"จะให้ฉันไปช่วยเช็คสินค้า?" ฉินเฉิงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย แม้ว่าฉินเฉินสามารถมองทะลุสิ่งของเหล่านี้ได้อย่างรวดเร็ว แต่เค้าไม่เคยเปิดเผยความสามารถแบบนี้กับใครมาก่อนเลย
จี้เซียงรีบโบกมือขึ้นมาอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า: "ไม่ ไม่ พ่อของผมขอให้อาจารย์ช่วยตรวจสอบสินค้าแล้ว ครั้งนี้ผมอยากให้พี่ไปเอง ส่วนใหญ่ก็เพราะผมกลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุขึ้น ถ้ามีพี่อยู่ด้วยก็น่าจะปลอดภัย .."
ฉินเฉิงเงียบไปครู่หนึ่ง คนที่ทำธุรกิจประเภทนี้ส่วนใหญ่จะไม่ใสสะอาด เดาว่าเรื่องนี้มันน่าจะเกี่ยวกับการฆ่าคนจำนวนไม่น้อยเลย
ด้วยตัวตนอย่างพ่อของจี้เซียง จี้หงเซิง เค้าต้องระวังตัวมากขึ้น
"ได้สิ แต่ฉันมีข้อกำหนด" ฉินเฉิงกะพริบตา
"พ่อของฉันบอกว่า เพียงแค่พี่ตอบตกลง ไม่ว่าจะเงื่อนไขอะไรก็ได้!" จี้เซียงพูดขึ้นมาแล้วตบหน้าอกของเค้า
ฉินเฉิงหลับตาลงเล็กน้อยแล้วพูดว่า "ฉันต้องการหุ้นครึ่งนึงของเหมืองหินหยก"
จี้เซียงที่ยังคงยิ้มอยู่ เมื่อได้ยินเรื่องนี้สีหน้าของเค้าก็เปลี่ยนไปในทันที
"นี่…ผมไม่สามารถให้คำตอบได้…" จี้เซียงเกาหัวขึ้นมา มันเห็นได้ชัดว่าเค้าดูสับสนเล็กน้อย
ฉินเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า: "ไม่เป็นไร นายก็ถามพ่อนายสิ ฉันเชื่อว่าพ่อนายน่าจะเลือกได้นะ"
จี้เซียงตอบตกลง: "โอเค ผมจะโทรหาเค้าเดี๋ยวนี้เลย"
หลังจากที่เค้ารับสายแล้ว จี้เซียงก็บอกจี้หงเซิงอย่างตรงไปตรงมา
"พ่อครับ นี่มันจะไม่ราคาสูงไปหน่อยเหรอครับ" จี้เซียงกระซิบขึ้นมา
จี่หงเซิงก็อดไม่ได้ที่จะตะโกนว่า: "ไอ้*** ฉันให้แกมาเรียนรู้จากฉัน แกนี่ไม่ฟังอะไรเลย วันๆเอาแต่ออกไปสร้างเรื่องนอกบ้าน !"
จี้เซียงก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงกับคำด่าที่รุนแรง
"ที่เหมืองหินหยกมันกำลังเผชิญกับการปะทะกันของฝูงชน ฉันเองก็หวังว่าจะมีใครซักคนที่มาปกป้อง! ถ้าฉินเฉิงเป็นหัวหน้า ใครจะกล้ากับเรา? รีบตอบตกลงเค้าไปซะ" จี้หงเซินก็ดุด่าขึ้นมา
จี้เซียงพยักหน้าอย่างรวดเร็วแล้วพูดว่า "พ่อครับ ผมเข้าใจแล้ว!"
หลังจากวางสายแล้ว จี้เซียงก็พูดด้วยรอยยิ้มว่า "พี่ใหญ่ พ่อเห็นด้วย"
ฉินเฉิงพยักหน้าเล็กน้อย เค้าเองก็รู้สึกมีความสุขอย่างอดไม่ได้
หลังจากได้ยินสิ่งที่เฝิงเฉินพูดมาเมื่อวานนี้ เมื่อวานนี้ฉินเฉิงก็คิดเกี่ยวกับสิ่งนี้
แน่นอนว่าคนร่ำรวยเหล่านี้ล้วนต้องการสร้างความสัมพันธ์กับผู้คนในวงการศิลปะการต่อสู้
สำหรับฉินเฉิงแล้ว เงินเป็นเพียงสิ่งของนอกกาย มันไม่ควรค่าที่จะพูดถึงอะไรมากนัก
ดังนั้นทุกสิ่งที่เค้าทำก็มีเพียงแค่จุดประสงค์เดียวเท่านั้น
มันก็คือตระกูลซูในเมืองจิงตู
ท้ายที่สุดแล้ว นี่มันก็คือศตวรรษที่ 21 และเป็นไปไม่ได้เลยที่จะถอนรากถอนโคนยักษ์ใหญ่อย่างตระกูลซูด้วยกำลังเพียงอย่างเดียว
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ในเมืองจิงตูมันซับซ้อนมากจนคนภายนอกไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงได้เลย ดังนั้นฉินเฉิงก็เลยกำหนดเป้าหมายเพื่อต่อสู้กับตระกูลซูเท่านั้น
รถยนต์คันดังกล่าวขับไปยังชานเมือง มันเป็นพื้นที่ๆจี้หงเซินได้สัมประทานที่ดินหลายร้อยไร่เพื่อขนถ่ายสินค้า
"พ่อ!" ทันทีที่เค้าเข้าประตูไป จี้เซียงก็ตะโกนใส่ชายวัยกลางคนที่ดูมีรูปร่างกำยำ
รูปร่างของจี้หงเซิงค่อนข้างคล้ายกับของจินฮู่ เค้ามีหัวโล้น รูปร่างใหญ่ สร้อยทองขนาดใหญ่และพุง เค้าดูเหมือนเศรษฐี
"คุณฉิน ผมชื่นชมคุณมานานแล้ว ในที่สุดวันนี้ ผมก็ได้เจอคุณ!" จี้หงเซิงวิ่งเข้ามาอย่างเร็วแล้วจับมือกับฉินเฉิงอย่างจริงใจ
ฉินเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยแล้วพูดว่า "คุณจี้ ไม่ต้องมารยาทขนาดนั้นหรอก"
"มาเถอะครับ ไปนั่งข้างในกันเถอะ!" จี้หงเซิงเชิญอย่างกระตือรือร้น
ในห้องมีสาวสวย 4 คน น่าแปลกที่ผู้หญิงสี่คนนี้ล้วนเป็นเลขาของจี้หวงเซิน
"นี่คือคุณฉิน เฉิงฉิน ดูแลเค้าให้ดีหละ ทิปไม่อั้น!" จี้หงเซิงหยิบธนบัตรกองหนึ่งออกมาแล้วโยนลงบนโต๊ะ
แววตาของสาวงามเหล่านั้นก็สว่างขึ้นมาในทันใด พวกเธอรีบไปที่ด้านข้างของฉินเฉิงแล้วพูดอย่างมีมารยาท: "พี่ชาย บอกน้องสิ น้องจะจัดหามาบริการ~"
ฉินเฉิงขมวดคิ้วแล้วพูดอย่างเบื่อหน่ายเล็กน้อย "คุณจี้ ไม่ต้องหรอก"
จี้หงเซิงหัวเราะและพูดว่า "ไม่จำเป็นต้องสุภาพหรอก ไม่เป็นไร เราทุกคนเข้าใจ!"
ทันใดนั้นเอง เค้าก็ตะโกนใส่สาวงาม: "พวกเธอยังไม่รีบดูแลเค้าอีกเหรอ"
ฉินเฉิงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "ฉันบอกว่า ฉันไม่ต้องการมัน คุณเข้าใจไหม"
จี้หงเซิงก็ดูแข็งทื่อแล้วพูดอย่างเขินอายว่า: "คุณฉิน ขอโทษครับ ผม…ผมจะให้พวกเธอออกไป"
"ออกไปซะ!" จี้หงเซิงโบกมืออย่างไม่อดทน
หลังจากให้ผู้หญิงเหล่านี้ออกไปแล้ว จี้หงเซิงก็ดูประหม่าเล็กน้อย เขายังคงถูมือและไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี
ในตอนนี้เอง ชายชราผมหงอกก็เดินเข้ามาจากนอกประตู
ทันทีที่เค้าเข้ามา จี้หงเซิงก็รีบลุกขึ้นแล้วพูดว่า "คุณเฟิง ในที่สุดคุณก็มา! ผมจะแนะนำให้คุณรู้จัก นี่คุณฉิน ฉินเฉิง!"
อาจารย์เฟิงไม่เคยได้ยินชื่อของฉินเฉิง ดังนั้นเค้าจึงพยักหน้าโดยไม่พูดอะไร
"คุณฉิน นี่คือประธานสมาคมวัตถุโบราณมณฑลปินโจว เฟิงกวนซู ถ้าจะตรวจสอบวัตถุโบราณต้องเค้าเลย!" จี้หงเซิงก็อวดโม้ขึ้นมา
ฉินเฉิงลุกขึ้นแล้วทักทายอย่างสุภาพ: "ผมเคยเจอคุณเฟิงแล้ว"
อย่างไรก็ตามคุณเฟิงก็ไม่ได้สนใจฉินเฉิงเลย แต่เค้ากลับมองไปที่จี้หงเซิงแล้วพูดว่า "เมื่อไรพวกเค้าจะมา?"
"ใกล้แล้ว ใกล้แล้วครับ" จี้หงเซิงตอบกลับ
ทันใดนั้น เค้าก็มองไปที่ฉินเฉิงอย่างช้าๆและอธิบายว่า: "คุณฉิน คุณอย่าถือสาอะไรเลยนะครับ เฟิงกวนซู เค้ามาจากในเมืองและเค้าก็ยังมีความสามารถมาก ดังนั้นเค้าก็เลยหยิ่งนิดหน่อย"
ฉินเฉิงพยักหน้าเล็กน้อยโดยไม่พูดอะไร
สิบกว่านาทีต่อมา มันก็มีรถบรรทุกหลายคันขับเข้ามา
ทันทีที่รถหยุด ก็มีคนเห็นสี่หรือห้าคนออกมาจากรถ
คนที่เดินนำมาคือชายหนุ่มในชุดสูทพร้อมกับรองเท้าหนัง มันมีคนไม่กี่คนที่เดินตามเค้ามา พวกเค้าล้วนแล้วแต่ไปถึงระดับขั้นพลังปราณระดับปรมาจารย์ขั้นสูงสุดและความแข็งแกร่งของพวกเค้าไม่ได้อ่อนแอไปกว่าปี้เสี่ยวเหยาหรือเฉินจงเลย
"ท่านประธานชา เชิญข้างในก่อนครับ!" จี้หงเซิงเชิญอย่างอบอุ่น
ชายถูกเรียกว่าประธานชาก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า "ไม่ ฉันไม่ว่าง ฉันอยากตรวจสอบสินค้าโดยเร็วที่สุด"
"ได้ครับ" จี้หงเซิงเลิกพูดเรื่องไร้สาระและตกลงทันที
สินค้าทั้งหมดถูกขนถ่ายอย่างรวดเร็ว แค่มองแวบเดียว มันก็มีอย่างน้อยยี่สิบหรือสามสิบตัน
คุณภาพของหินเหล่านี้แตกต่างกันไปและมีขนาดคละกัน
จี้หงเซิงเกาหัวของเค้าแล้วพูดว่า "ทำไมมันไม่ต่างจากหินธรรมดาเลยหละ?"
เฟิงกวนซูพูดอย่างเย่อหยิ่ง: "สำหรับคนทั้วไปอย่างคุณแน่นอนมันไม่แตกต่างอะไร ถอยไปซะ"
"ถ้าอย่างนั้นก็เชิญคุณเหลาเฟิง!" จี้หงเซิงกล่าวอย่างเคารพ
เฟิงกวนซูเดินไปที่กองหินและมองอย่างระมัดระวังด้วยแว่นขยาย
หลังจากผ่านไปหลายสิบนาที เฟิงกวนซูก็ถอนหายใจออกมา: "สินค้านี่มันดีมาก พี่จี้ คุณโชคดีมากจริงๆ!"
จี้หงเซิงยิ้มและพูดอย่างตื่นเต้น: "จริงเหรอ?"
"แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องจริง!" เฟิงกวนซูกล่าวด้วยรอยยิ้ม "หินเหล่านี้เป็นหินหยกที่ดีมาก ทุกชิ้นอาจเป็นสมบัติล้ำค่า ถ้าเป็นฉัน ฉันจะไม่ยอมขายมัน!"
จี้หงเซิงมีความสุขมากในทันที แต่ จี้เซียงที่อยู่ด้านข้างก็สงสัย: "ทำไมนี่มันถึงแตกต่างจากที่ผมเห็นในทีวี? หินพวกนี้ดูเหมือนจะไม่ต่างไปจากหินในแม่น้ำซูหลิวเลย"
"เพราะว่ามันเป็นแค่หินธรรมดาหนะสิ" ฉินเฉิงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา