ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - ตอนที่ 64 ใช่ไหม พี่จิ่น?
"พ่อ พ่อได้ยินแล้วใช่ไหม เขาบอกว่าเขามีวิธีของเขาเอง ทีนี้ก็โทษพวกเราไม่ได้แล้วนะ!" ฟานยุนรีบพูดออกมาทันที
ในใจของเธอรู้สึกมีความสุขมาก กว่าเรืออีกลำจะมาก็ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง เมื่อฉินเฉิงนั่งเรือไปถึงพวกเธอก็คงทานอาหารกันอิ่มแล้ว
"คุณฉิน นี่…."ในตอนที่ฟานยุนกำลังจะพูดอะไรออกมา ฉินเฉิงก็โบกมือเพื่อหยุดเธอเอาไว้ ส่ายหน้าและพูดว่า "ไปเถอะ"
เมื่อ22เห็นแบบนั้นเธอเองก็ไม่มีอะไรจะพูดออกมา ดังนั้นเธอจึงทำท่าทางเป็นขอโทษและพามู้หรงจิ่นขึ้นเรือ
ขับค่อยๆเดินทางไปที่ศาลาหว่างเย้
"สุดยอดไปเลย เมื่อเราไปถึงแล้วพวกเราก็รีบๆกิน เมื่อเขามาเราก็กินอิ่มกัยทุกคนแล้ว" ฟานยุนพูดออกมาด้วยความสะใจ
"อย่าพูดจาไร้สาระ!" เจ้าสำนักฟานดุเธออีกครั้ง "คุณฉินเขาช่วยเหลือตระกูลฟานของเรา พวกเราควรจะต้องขอบคุณเขา"
"หึ เขาก็แค่ทำเพื่อเงินเท่านั้น!" ฟานยุนพูดออกมา "ถ้าหากวันนั้นไม่ได้เป็นเพราะพี่จิ่นไม่สบาย มันก็คงไม่ต้องถึงมือของเขา?"
เจ้าสำนักฟานมองไปที่หน้าของฟานยุนอย่างหมดความอดทนและถอนหายใจออกมา
มู้หรงจิ่นรีบพูดออกมาด้วยท่าทีที่อ่อนน้อมถ่อมตน "ถ้าหากเป็นฉันหละก็คงไม่อาจเอาชนะพวกเขาได้ง่ายๆ ฮ่าฮ่า"
"โห พี่จิ่นนี่ถ่อมตัวจริงๆ ขนาดนักโทษสองคนที่มาจากต่างประเทศพี่ยังสามารถฆ่าพวกเขาได้อย่างสบายๆ แล้วนับประสาอะไรกับคนอย่างว่านไห่?" ฟานยุนทำปากมุ้ยตอนพูดออกมา
มู้หรงจิ่นยิ้มออกมาแบบไม่ได้ปฏิเสธอะไร
"เอ้ย นั่นมัน พระเจ้า!"
"นี่มันสเปเชียลเอฟเฟกต์หรือว่ากำลังสร้างหนังกันอยู่?"
"หรือว่าจะเป็นคนที่สามารถเดินบนน้ำได้อย่างที่ตำนานเขาเล่าขานกันมา?"
ในตอนนั้นคนที่อยู่บนเรือก็แตกตื่นตกใจ หลายคนหยิบมือถือขึ้นมาเพื่อเอามาถ่ายรูป
"เกิดอะไรขึ้น?" เจ้าสำนักฟานขมวดคิ้วและพูดออกมา
และในตอนนั้นเขาก็หันไปเห็นฉินเฉิงกำลังเดินบนน้ำ และกำลังอยู่ที่ใจกลางของทะเลสาบ
ความเร็วของฉินเฉิงนั้นมากกว่าเรือที่เขานั่งมาเสียอีก!
"นี่มัน…มันเป็นไปได้อย่างไร?" เจ้าสำนักฟานอ้าปากค้าง เขาแค่เคยได้ยินมาว่ามีคนที่สามารถลอยบนน้ำได้ แต่ฉินเฉิงคนนี้กำลังเดินบนน้ำ แบบนี้ทันไม่เกินจริงไปหน่อยเหรอ?
มู้หรงจิ่นยืนนิ่งไม่ขยับ ใบหน้าของเขาน่าเกลียดอย่างสุดขีด
อาจารย์ของเขาเคยแสดงให้เห็นถึงความสามารถแบบนี้ แต่ในตอนนั้นมันไม่ได้ดูง่ายดายแบบนี้เลย สิ่งที่ฉินเฉิงแสดงออกมามันไม่ได้มีความยากลำบากอะไรเลยเสียด้วยซ้ำ
"เขาทำแบบนี้ได้อย่างไร? บนน้ำไม่ได้มีของอะไรใช่ไหม?" ฟานยุนพูดออกมาด้วยความตกใจ
ไม่นานฉินเฉิงก็เดินบนน้ำไปหยุดอยู่ที่ศาลาหว่างเย้
ทุกคนต่างอยู่ในอาการแตกตกใจ ราวกับว่าพวกเขากำลังเห็นเทพเจ้า
ไม่นาน เรือก็ไปถึงจุดหมาย
เมื่อทุกคนขึ้นมาจากเรือก็วิ่งเข้าไปล้อมรอบฉินเฉิงและถามออกมาว่า "คุณผู้ชาย คุณทำได้อย่างไร? สอนฉันบ้างได้ไหม?"
"คุณผู้ชาย ผมอยากให้คนรับผมเป็นลูกศิษย์"
"ถ่ายภาพกับฉันหน่อยได้ไหม/"
ฉินเฉิงไม่รู้จะพูดอะไร เขาเดาเอาไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะต้องเป็นแบบนี้ ได้แค่หาข้ออ้าง
"คุณฉิน" เจ้าสำนักฟานรีบวิ่งเข้ามาหาทันที เขาเอนตัวและพูดออกมาว่า "ฝีมือของคุณฉันนี่อย่างกับพระเจ้าจริงๆ!"
ฉินเฉิงโบกมือ "ไปกินข้าวกันเถอะ"
"ได้ครับ" เจ้าสำนักฟานรีบพยักหน้า ในใจของเขารู้สึกตื่นเต้นไม่หยุด
โชคดีที่เขาไม่ได้ทำให้ฉินเฉิงขุ่นเคือง ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องลำบากแน่ๆ
เจ้าสำนักฟานได้เลือกห้องวีไอพีที่ติดอยู่กับริมหน้าต่าง ซึ่งมีทิวทัศน์สวยงาม ท้องฟ้าและผืนน้ำที่สง่า
เมื่อลดพัดเข้ามาทำให้คนรู้สึกสดชื่น
เจ้าสำนักฟานได้สั่งอาหารเอาไว้ตั้งนานแล้ว เมื่อเขาโบกมือพนักงานก็เริ่มนำเอาอาหารมาเสิร์ฟ
"คุณฉิน นี่เป็นเหล้าที่นำเข้าจากต่างประเทศ คุณลองชิมดู" เจ้าสำนักฟานพูดออกมาด้วยความเคารพเป็นอย่างมาก
ฉินเฉิงดมกลิ่นและพูดออกมาว่า "ฉันไม่ชอบดื่มเหล้า"
"งั้น…ฉันจะสั่งชาให้คุณแทน!" เจ้าสำนักฟานรีบตอบกลับมาทันที
เมื่อเจ้าสำนักฟานมีท่าทางที่ถ่อมตัวมากขึ้นเท่าใด ฟานยุนก็ยิ่งไม่มีความสุขมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อกี้เธอเพิ่งจะเห็นว่าฉินเฉิงสามารถเดินบนน้ำได้ มันยิ่งทำให้เธอขาดความมั่นใจ
"พี่จิ่น ที่ทำแบบนั้นได้ไหม?" ฟานยุนถามออกไปตรงๆ
มู้หรงจิ่นยิ้มและพูดออกไปว่า "ทำไม่ได้ แต่ว่านั่นมันก็ไม่ได้ใช้ฝีมืออะไรมากมาย มันก็เป็นแค่วิชาเหยียบน้ำ และมันก็ไม่ได้แสดงถึงแก่นแท้หรือประโยชน์อื่นใด"
เมื่อได้ยินคำพูดของมู้หรงจิ่น ฟานยุนก็กลับมามีความมั่นใจอีกครั้ง
เธอรีบพยักหน้าและพูดออกมาทันทีว่า "ใช่ๆ ทำได้ก็แค่นั้นแหละ เปล่าประโยชน์!"
ฉินเฉิงเหลือบตามองมาที่พวกเขา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา
มู้หรงจิ่นคนนี้หน้าหนาจริงๆ
ท้องฟ้าเริ่มมืดลง พระจันทร์กำลังลอยขึ้นสู่ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว
สายลมที่พัดผ่าน ทำให้การดื่มสุราเป็นไปอย่างเพลิดเพลิน
ในตอนนั้นก็รู้สึกได้ถึงจิตสังหารที่ชั่วร้าย
"พี่อู่ ตอนนี้เขากำลังอยู่หน้าเกาะ" อีกด้านหนึ่งของทะเลสาบ มีรถออฟโรดจอดอยู่ใกล้ๆ ชายสองคนที่มีใบหน้าเคร่งขรึมนั่งอยู่บนรถ
ชายที่ชื่อพี่อู่หรี่ตาลง และพูดออกมาอย่างเยือกเย็นว่า "รออีกหน่อย"
"พี่อู่ พวกเราออกมาบ่อยๆแบบนี้ จะไม่ถูกทางรัฐบาลสงสัยเอาเหรอครับ?" คนที่อยู่ข้างๆขมวดคิ้วและถามออกมา
พี่อู่ชำเลืองมองเขาอย่างเย็นชาและกล่าวว่า "ใครก็ตามที่กล้าบุกรุกสำนักชื่อหลงของฉัน มันจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย หลังจากที่ฆ่าเขาแล้วฉันก็จะหายไปทันที แบบนั้นจะมีใครรู้"
"ครับ พี่อู่"
คนที่ชื่อพี่อู่นั้นมาจากสำนักชื่อหลง เขาเป็นนักฆ่าอันดับต้นๆของสำนักชื่อหลง ชื่อจริงๆของเขาก็คืออู่หาว
หลายปีที่ผ่านมีมีคนตายด้วยน้ำมือของเขานับไม่ถ้วน และภารกิจทั้งหมดของเขาไม่เคยล้มเหลว
หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง แขกต่างๆก็เริ่มทยอยออกจากศาลาหว่างเย้
อู่หาวยืนอยู่ที่ริมทะเลสาบ จู่ๆร่างของเขาก็หายตัวไป เขากำลังเดินอยู่บนน้ำ
"เอ้ย ทำไมวันนี้เราถึงเห็นคนเดินบนน้ำได้ถึง 2 คน?"
"อ่า…ฉันเริ่มมั่นมจและว่าพวกเขากำลังสร้างหนังอยู่จริงๆ! ไม่แน่พวกเราอาจะได้ออกทีวีก็ได้นะ!"
"…."
ในห้องส่วนตัวของศาลาหว่างเย้ เจ้าสำนักฟานเพิ่งจะทำสัญญาเสร็จ
"คุณฉินลองดู มีปัญหาอะไรไหม ถ้าหากไม่มีคุณก็เซ็นชื่อได้เลย" เจ้าสำนักฟานพูดออกมาด้วยความเคารพ
ฉินเฉิงกวาดสายตาไปมอง หยิบปากกาขึ้นมาและเซ็นชื่อของตัวเองลงไป
ฟานยุนที่อยู่ข้างๆกัดฟันแน่น เธอรีบดึงสัญญามาฉีกทันที
มู้หรงจิ่นถอนหายใจและพูดออกมาว่า "เห้อ ถ้าหากวันนั้นฉันสุขภาพดี ฉันก็คงช่วยลุงฟานประหยัดเงินได้มากกว่านี้"
ในตอนนั้นจู่ๆก็มีร่างของคนคนหนึ่งผ่านหน้าต่างไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นเขาก็ได้เขามาในห้องทันที
"แม่งเอ้ย คนนี้ก็เดินบนน้ำได้อีกแล้วเหรอ" มู้หรงจิ่นแอบคิดอยู่ในใจ ทำไมออกมาครั้งนี้ถึงได้มาเจอเรื่องแบบนี้อีก
"นาย…นายเป็นใคร?" เจ้าสำนักฟานรีบถามออกไปทันที
อู่หาวเหลือบตามองไปที่เขา จู่ๆก็ยกมือขึ้นและสับลงกลางอากาศทันทีทำให้เจ้าสำนักฟานกระเด็นออกไป
"ฆ่าคนโดยผ่านอากาศ?" สีหน้าของมู้หรงจิ่นน่าเกลียดอย่างมาก เมื่อมองดูแล้วขนาดอาจารย์ของเขายังทำแบบนี้ไม่ได้!
"ใครเป็นคนฆ่าคนของสำนักชื่อหลง" อู่หาวถามออกมา
ฉินเฉิงวางตะเกียบลง จากนั้นก็ชี้ไปที่มู้หรงจิ่นและพูดออกมาว่า "เขา"
มู้หรงจิ่นตกใจจนตัวสั่น จากนั้นเขาทนไม่ได้จึงต้องด่าออกมา "ฉันบ้านป้าแกติ!"
"นาย?" อู่หาวหันไปคุยกับมู้หรงจิ่น พูดออกมาอย่างเยือกเย็นว่า "นายรู้ไหวว่าเป็นศัตรูกับสำนักชื่อหลงมันจะต้องมีจุดจบอย่างไร?"
มู้หรงจิ่นยืนสั่นอยู่กับที่ ในตอนที่เขากำลังจะอธิบายออกไป ฟานยุนที่อยู่ข้างๆก็พูดออกมาว่า "สำนักชื่อหลงอะไรกัน พี่จิ่นของฉันไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น!"
"ใช่ไหม พี่จิ่น?" ฟานยุนหันกลับมาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม