ภรรยาที่ทั้งสวยทั้งรวยของผม - ตอนที่ 41 รีบไปหาเขา
ถึงแม้ร่างกายของชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าจะดูแข็งแรงมาก แต่เมื่ออยู่ต่อหน้านักมวยคนนี้เขาก็ดูอ่อนแอลงไปทันที
"ฉินเฉิง นี่นายหมายความว่าอย่างไง" ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าเห็นแบบนั้นก็รีบพูดออกมา เขาดึงแขนของชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าและพูดว่า "เรื่องของฉัน ฉันจะให้เพื่อนของนายมารับผิดชอบแทนไม่ได้"
ฉินเฉิงมองไปที่เขาและหัวเราะออกมา "ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้พูดไปแล้วเหรอ ถ้านายมีเรื่องอะไรที่ฉันสามารถช่วยได้ ก็พูดออกมาได้ทุกเมื่อ"
"นั่นมันก็ไม่ได้แปลว่าจะให้คนอื่นมาตายแทนฉันนี่?" ชาหนิงพูดออกมาอย่างร้อนรน แต่ในตอนนั้น เขาก็ได้เริ่มปล่อยหมัดใส่นักมวยคนนั้นไปแล้ว
หลังจากที่นักมวยได้รับหมัดไป เขาก็พูดออกมาด้วยความโกรธว่า "เจ้าหนุ่ม รนหาที่ตายเสียแล้ว!"
พูดจบเขาก็ยกหมัดที่ใหญ่เท่าฝาหม้อขึ้นมาและชกตรงไปที่หัวของชาหนิง
ชาหนิงหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว มือทั้งสองข้างของเขายกขึ้นมาไว้บนหัว
และหลังจากที่ผ่านไปกว่าหนึ่งวินาที หมัดก็ยกไม่ตกถึงหัวของเขา
ชาหนิงจึงลืมตาขึ้นมาดู พบว่าชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้านำมือไปจับข้อมือของนักมวยเอาไว้
"ตอนนี้คู่ต่อสู้ของนายคือฉัน" ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าพูดออกไปด้วยสีหน้าที่ไร้อารมณ์
นักมวยสะบัดมือเท่าไหร่ก็ไม่ยอดหลุด เขากัดฟันและฟูดออกมาว่า "งั้นขึ้นเวที วันนี้ฉันจะสอนให้นายรู้ว่าอะไรคือของจริง!"
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าปล่อยมือของเขาทันที เขาไม่ได้พูดอะไรเดินตรงไปที่เวที
ชาหนิงกลืนน้ำลาย พูดออกมาด้วยความเป็นห่วง "ฉินเฉิง เพื่อนของนายเก่งแค่ไหน?"
"ก็ไม่เท่าไหร่" ฉินเฉิงพูดออกมา "เมื่อเทียบกับฉันแล้วยังห่างกันอีกไกล แต่ถ้าเอาไปเทียบกับนักมวยคนนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาอะไร"
ชาหนิงมองไปที่เขาอย่างจริงจัง "เวลาแบบนี้นายอย่ามาล้อเล่น"
ฉินเฉิงยิ้มแต่ไม่ได้อธิบายอะไรออกไป
ที่เขาพูดออกไปทั้งหมดล้วนแต่เป็นความจริง
"รอก่อนเถอะ หลังจากที่สามีของฉันจัดการเขาแล้ว เขาจะไปจัดการงานต่อ!" หญิงที่สวมเดรสสั้นชี้ไปที่ชาหนิงและพูดออกมา
ชาหนิงสะบัดคือ เขาไม่ได้พูดอะไร
ฉินเฉิงจับไปที่ไหล่ของเขา เพื่อบอกประมาณว่าให้เขาวางใจ
"ใช่ นายต้องการเดิมพันไหม? คนทั่วไปคิดว่าคนของฉันคงไม่สามารถเอาชนะได้ นายใช้โอกาสนี้ในการหาโชคไหม?" ฉินเฉิงพูดเหมือนล้อเล่นออกมา
ชาหนิงพูดออกมาอย่างอึดอัดว่า "อย่ามาล้อเล่น ถ้าเพื่อนของนายเป็นอะไรไปจะทำยังไง ฉันคงไม่มีวันให้อภัยตัวเองแน่"
ไม่นานทั้งสองคนก็ขึ้นไปยืนบนเวที
ในตอนนั้นนักมวยควบคุมตัวเองไม่ไหวแล้ว เขากัดฟันและพูดออกมาว่า "เจ้าหนุ่ม เก่งนักใช่ไหม ได้ เดี๋ยวฉันจะจัดการแกเอง!"
เมื่อเสียงนั้นเงียบลงเขาก็พุ่งเข้าหาชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าทันที
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้านั้นไม่เหมือนกับนักมวย สิ่งที่เขาฝึกฝนมาคือท่วงท่าที่เด็ดขาด แค่ลงมือก็ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหนักหรือถึงตายได้
ในตอนที่นักมวยพุ่งเข้ามาหาชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้า ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าก็ยกเท้าและเตะไปที่หัวเขาของนักมวย "ปัก!"
เมื่อได้ยินเสียง "คลิก" กระดูกสะบ้าหัวเข่าก็แตกเป็นเสี่ยงๆ จากนั้นนักมวยก็คุกเข่าลงกับพื้น
นี่เป็นโอกาสชนะของชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้า เขาจึงเตะไปที่คางของนักมวยคนนั้นอีกครั้ง
ลูกเตะนี้ทรงพลังมาก ขนาดที่ทำให้ร่างของนักมวยลอยออกไป
"เห้ย…." ชาหนิงอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายออกมา "เพื่อนของนายนี่ใช้ได้เลย…"
สีหน้าของหญิงที่สวมชุดเดรสสั้นดูไม่ได้ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าสามีของเธอจะพ่ายแพ้เร็วขนาดนี้
"ก……" นักมวยลุกขึ้นอย่างลำบาก เขาเอื้อมมือไปแตะคาง พบว่ากระดูกคางหัก พูดอะไรออกมาไม่ได้
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าถือว่าเป็นผู้ที่มากฝีมือ เขาไม่ได้หันหลังกลับไปดูนักมวย และกระโดดลงมาจากเวที
"คุณฉิน เรียบร้อยแล้วครับ" ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าเอนตัวและพูดออกมา
ฉินเฉิงพยักหน้า "ลำบากนายแล้ว"
"เพื่อนของนายเป็นใครกันแน่ ทำไมฝีมือดีขนาดนี้" ชาหนิงถามออกมาด้วยความตื่นเต้น "ให้เขารับฉันเป็นลูกศิษย์ได้ไหม!"
"เอาหละ อย่าทำให้ขายหน้าไปมากกว่านี้เลย" กงฮุ้ยขมวดคิ้วและพูดออกมา "นายรีบจัดการอะไรพวกนี้ให้มันเรียบร้อย อย่าเอามาขวางหูขวางตาฉัน มันน่ารำคาญ"
ชาหนิงจับจมูกของเขาอย่างเขินอาย และพยักหน้าไม่หยุด
หลังจากที่ออกมาจากสนามมวย ชาหนิงก็หยิบบัตรเอทีเอ็มใบหนึ่งยื่นให้กับฉินเฉิง
แน่นอนว่าฉินเฉิงไม่รับมันไว้ เขาโบกมือเพื่อปฏิเสธ
"ฉันให้นายก็รับไปเถอะ จะช้าอยู่ทำไม?" กงฮุ้ยที่อยู่ข้างพูดออกมาอย่างเบื่อหน่าย "เงินก็ไม่มี จะทำเป็นคนมีน้ำใจทำไม"
ฉินเฉิงขมวดคิ้วและรับบัตรเอทีเอ็มนั้นไว้
"เสี่ยวฮุ้ยเขาเป็นคนปากร้ายแต่ใจดี นายอย่าไปใส่ใจเลยนะ" ชาหนิงพูดออกมาในเชิงคำขอโทษ
ฉินเฉิงพยักหน้า "อ่า ฉันรู้แล้ว"
ถ้าแม้ว่าปากของกงฮุ้ยจะไม่ค่อยดี แต่ทุกครั้งเขาก็จะนึกถึงใจคนอยู่เสมอ นี่ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว
หลังจากนั้น ชาหนิงและกงฮุ้ยก็พาพวกของฉินเฉิงกลับไปส่ง จากนั้นก็เดินทางกลับ
"นี่ ของนาย" ฉินเฉิงยื่นบัตรเอทีเอ็มให้ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้า
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าส่ายหน้าและพูดออกมาว่า "นี่เขาให้คุณ ฉันรับไว้ไม่ได้"
"นายเป็นคนจัดการเรื่องนี้ เงินก็ควรเป็นของนาย" ฉินเฉิงไม่พูดอะไรไปมากกว่านั้นและยืนบัตรให้ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าอีกครั้ง
ชายที่มีแผลเป็นบนใบหน้าก็ไม่รู้จะพูดอย่างไร เขาก็รับบัตรไว้ทันที
กลางดึกแสงจันทร์ก็สว่างไสว
ฉินเฉิงยืนอยู่ตรงหน้าต่าง ใบหน้าของเขาสงบ แต่จุดตันเถียนของเขาเป็นเหมือนทะเลที่มีคลื่นโหมกระหน่ำ
ลมปราณสีเขียนไหลไปทั่วร่างกายของเขา เหมือนกับกระแสน้ำ ราวกับว่าต้องการที่จะพุ่งออกมา
จากส่วนลึกของฉินเฉิง ดวงตาของเขาเผยให้เห็นถึงพลังที่ไม่มีที่สิ้นสุด
"ฟู้ววว!"
ในตอนนั้นจู่ๆก็มีเปลวไฟสีเขียวติดขึ้นมาบนนิ้วมือของเขา
"ตามที่บันทึกไว้ก็เห็นอยู่ว่าเปลวไฟนี้มันสามารถใช้งานได้ง่ายๆ แต่ทำไมเวลาฉันใช้แล้วมันถึงเปลืองแรงขนาดนี้…" ฉินเฉิงเช็ดเหงื่อของตัวเองแล้วพูดออกมา
เปลวไฟนี้ใช้พลังจิตวิญญาณอย่างมาก ฉินเฉิงเองก็ไม่มั่วเสียเวลา เขารีบหยิบสมุนไพรออกมาและเริ่มปรับแต่งเม็ดยา
ตอนแรกเขาคิดว่าสมุนไพรเหล่านี้จะผลิตยาดีๆได้สักชุด แต่เนื่องจากเขายังไม่สามารถควบคุมพลังได้ดีสักเท่าไหร่ สุดท้ายแล้วก็ทำได้แค่ยาชุบชีวิต 1 เม็ด
"แค่ยาชุบชีวิตหนึ่งเม็ดก็ทำเอาพลังของฉันแทบจะหมดร่างแล้ว…" ฉินเฉิงนอนลงบนเตียง เห็นได้ชัดว่าร่างกายของเขาอ่อนแอมาก
"ดูแล้วด้วยพลังของฉันในตอนนี้ วันหลังคงต้องพึ่งอุปกรณ์ช่วย เปลวไฟชนิดนี้ใช้ให้มันน้อยลงจะดีกว่า" ฉินเฉิงคิดอยู่ในใจ
หลังจากบรรจุเม็ดยา ฉินเฉิงก็นอนบนเตียงและผล็อยหลับไปในไม่ช้า
วันต่อมาชาหนิงก็มาถึงที่พักของฉินเฉิงตั้งแต่เช้า
หลังจากที่ทุกคนขึ้นรถ ชาหนิงก็พูดออกมาว่า "วันนี้เสี่ยวฮุ้ยต้องไปทำสัญญา ดังนั้นพวกเราไปที่บริษัทกันก่อน นายคงไม่ว่าอะไรใช่ไหม?"
"ไม่เป็นไร" ฉินเฉิงโบกมือและพูดออกมา
ส่วนอีกด้านหนึ่งตี๋รุ้ยเจี๋ยยังคงมองหาฉินเฉิง
คนที่ยิ่งใหญ่อย่างเขาต้องการหาใครสักคน มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย
"เร็วเข้า เร็วเข้า…" ตี๋รุ้ยเจี๋ยเจ็บปวดจนไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้ว เวลาสั้นๆเพียงสองวัน น้ำหนักของเขาลดลงมาเกือบ 10 กิโล
"คุณตี๋ หาเจอแล้วครับ" ในตอนนั้นจู่ๆลูกน้องของเขาก็พูดขึ้นมา "ก่อนหน้านี้ไม่นานฉินเฉิงพักอยู่ที่เฝิงเฉินโฮมสเตย์ แต่เพิ่งจะขึ้นรถไปกับใครไม่รู้"
"เร็ว เร็วเข้า รีบไปหาเขา" ตี๋รุ้ยเจี๋ยพูดออกมาอย่างไร้เรี่ยวแรง