ภรรยาคั่นเวลา ชุด Sweet temptations - ตอนที่ 52
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง เหยื่อของหล่อนก็ก้าวเข้ามาภายในห้องพัก นารีรัตน์ระบายยิ้มทันที
“คุณแซคกลับไปแล้วเหรอลินดา”
อลินดาเดินมาทรุดตัวนั่งบนโซฟาตัวยาวที่พี่สาวนั่งจิบไวน์รออยู่
“ใช่ค่ะ เพิ่งกลับไปเมื่อกี้นี้เอง”
“ดูท่าทางแล้วคุณแซคจะรักแกมากเลยนะลินดา”
“เอ่อ…”
อลินดาอึกอักเพราะเห็นแววตาไม่พอใจในดวงตาของพี่สาวแวบหนึ่ง แต่เมื่อมองอีกครั้งมันก็หายไปราวกับว่าหล่อนตาฝาดมองเห็นไปเอง
“ไม่ใช่อย่างที่พี่นารีคิดหรอกค่ะ คุณแซคไม่ได้รักลินดาหรอก เขาก็แค่…”
อลินดายังพูดไม่จบ แต่นารีรัตน์แทรกขึ้นเสียก่อน
“ถ้าคุณแซคไม่รักแก แล้วเขาจะเลือกแกแทนฉันได้ยังไงกันล่ะ เขาต้องรักแกสิ”
“ก็เพราะ… คุณแซคเป็นสุภาพบุรุษน่ะจ้ะ พอพลาดมีอะไรกับฉันแล้ว เขาก็เลย… ต้องรับผิดชอบ”
นารีรัตน์แทบจะซ่อนความริษยาเอาไว้ไม่อยู่
“ก็เพราะแกยั่วยวนจนคุณแซคพลาดยังไงล่ะ”
“พี่นารี…”
“เอ่อ… ฉันหมายถึงเพราะจริงๆ แล้วคุณแซคน่าจะรักแกนั่นแหละ เขาก็เลยยับยั้งชั่งใจเอาไว้ไม่ได้น่ะ”
นารีรัตน์หัวเราะกลบเกลื่อนความเดือดดาลของตัวเอง
“แต่ยังไงซะ ฉันก็ยินดีกับแกด้วยนะ ที่แกได้คุณแซคไปครอบครองสมใจ”
“คือฉันไม่เคยคิดจะแย่งพี่นารีเลยนะจ๊ะ”
“เอาน่า ไม่ต้องมาแก้ตัวหรอก เพราะถึงยังไงซะ ฉันก็พลาดเองที่ละเลยต่อเขา”
นารีรัตน์พยายามยิ้มให้เป็นปกติที่สุด พลางยื่นแก้วไวน์ให้น้องสาว
“ดื่มเป็นเพื่อนฉันหน่อยสิ”
“ฉันดื่มไม่เป็นหรอกพี่นารี”
อลินดาส่ายหน้าไปมาน้อยๆ และนั่นก็ทำให้นารีรัตน์หัวเราะร่วนออกมา
“ฉันลืมไปว่าแกมันเด็กดี ดื่มเป็นแต่นมกับน้ำผลไม้เท่านั้น เอาอย่างนี้ แกรอแปบนะ เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำผลไม้มาให้”
“ไม่รบกวนพี่นารีหรอกจ้ะ ฉันไปหยิบเองดีกว่า”
อลินดาจะลุกขึ้น แต่นารีรัตน์คว้าแขนเอาไว้ และพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ให้ฉันได้ทำอะไรให้แกบ้างเถอะลินดา ฉันทำผิดกับแกมาเยอะ แกก็รู้นี่”
“แต่ฉันไม่เคยโกรธเคืองพี่นารีเลยนะจ๊ะ”
“ก็เพราะแกเป็นคนดีแบบนี้ไง ฉันถึงละอายใจแบบนี้ รอตรงนี้ล่ะ เดี๋ยวฉันไปเอาน้ำผลไม้มาให้” นารีรัตน์ลุกขึ้นยืน ในขณะที่อลินดาทำได้แค่ตอบตกลง
“จ้ะพี่นารี”
อลินดามองตามร่างของพี่สาวฝาแฝดไปทั้งน้ำตา รอยยิ้มแห่งความสุขเกลื่อนใบหน้า หล่อนรอคอยวันนี้มาตลอด วันที่หล่อนกับพี่สาวปรับความเข้าใจกัน
ไม่นานนารีรัตน์ก็เดินกลับมา พร้อมกับแก้วน้ำส้มเย็นฉ่ำในมือ
อลินดารีบยื่นมือไปรับน้ำส้มมาดื่มเมื่อพี่สาวยื่นมาให้
“ขอบคุณจ้ะพี่นารี”
“ไม่เป็นไร ดื่มสิ กำลังเย็นเชียว” นารีรัตน์ทรุดตัวลงนั่ง และหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาจิบอีกครั้ง
อลินดามองพี่สาวอย่างขอบคุณ หัวใจกำลังอัดแน่นไปด้วยละอองแห่งความสุข ขณะยกแก้วน้ำส้มขึ้นจิบ
“อร่อยไหม”
“อร่อยจ้ะพี่นารี”
“ถ้าอร่อยก็ดื่มให้หมดแก้วเลย”
อลินดารีบยกแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มอีกครั้งตามคำคะยั้นคะยอของพี่สาว และในที่สุดก็หมดแก้ว
“หมดแก้วแล้วจ้ะพี่นารี”
นารีรัตน์หัวเราะออกมาเสียงดังกังวาน ขณะมองน้องสาวด้วยสายตาที่เปลี่ยนแปลงไป
“แกไม่รอดแน่นังลินดา”
อลินดามองพี่สาวด้วยความแปลกใจ ก่อนจะยกมือขึ้นกุมศีรษะเอาไว้ เมื่อรู้สึกมึนงงขึ้นมากะทันหัน
“ลินดา… ปวดหัวจังเลยพี่นารี… พี่เอาอะไรให้ลินดาดื่มเหรอเปล่าจ๊ะ”
ไม่มีคำตอบใดหลุดลอดออกมาจากปากของพี่สาวฝาแฝด นอกจากเสียงหัวเราะที่ดังกึกก้อง และไม่ช้าสติสัมปชัญญะของหล่อนก็ดับวูบไปในที่สุด
นารีรัตน์เขย่าตัวของน้องสาวแรงๆ และเมื่อพบว่าสิ้นสติไปแล้วหล่อนจึงรีบโทรหากฤติชัย
“เรียบร้อยแล้วค่ะคุณกฤติชัย”
เมื่อวางสายจากกฤติชัยแล้ว นารีรัตน์ก็รีบโทรหามือปืนที่ตัวเองจ้างวานเอาไว้นอกรอบทันที
“ไอ้ต้น มึงเตรียมตัวให้พร้อมนะ ตอนนี้เหยื่อกำลังติดเบ็ดแล้ว”
เมื่อคนปลายสายตอบตกลง นารีรัตน์ก็กดตัดสายสนทนา และหัวเราะร่วนด้วยความสะใจ
“ตอนนี้ใครก็ช่วยมึงไม่ได้แล้วล่ะ นังลินดา”
ประตูห้องถูกเคาะเบาๆ นารีรัตน์จึงรีบวิ่งไปดึงเปิด เพราะรู้ดีว่าคือกฤติชัย
“เข้ามาค่ะ นังลินดามันสลบไปแล้ว”
กฤติชัยก้าวเข้ามาข้างในห้องพักของนารีรัตน์ และก็เห็นว่าอลินดานอนสลบไสลอยู่บนโซฟาตัวยาว
“แล้วแม่ของคุณล่ะ นารี”
“ท่านหลับไปตั้งแต่หัวค่ำแล้วล่ะค่ะ”
กฤติชัยหรี่ตาแคบมองนารีรัตน์อย่างรู้ทัน “ท่านคงไม่ได้หลับเองตามธรรมชาติใช่ไหมครับ”
“แหม นารีก็แค่ใส่ยานอนหลับให้แม่ไปนิดเดียวเองค่ะ พอทำให้ท่านหลับสบายเท่านั้นเอง”
กฤติชัยเงียบไปไม่ได้ตอบอะไรออกมา นารีรัตน์จึงรีบเร่งให้ชายหนุ่มทำตามแผนการของตัวเอง
“รีบพานังลินดาไปที่รถเถอะค่ะ เราจะได้เอามันไปกำจัดให้สิ้นเรื่องสิ้นราวเสียที”
“ครับ”
นารีรัตน์เดินตามร่างของกฤติชัยที่อุ้มอลินดาที่สลบไสลออกไปจากห้องพักอย่างเงียบเชียบ โดยไม่รู้ว่ามีสายตาของใครบางคนจับจ้องอยู่ด้วยความตื่นตกใจ
อุบลเลียริมฝีปากที่แห้งผากของตัวเอง ดวงตาเบิกกว้างคล้ายกับไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ตัวเองได้เห็น
“นารี… ทำไมลูกใจคอโหดเหี้ยมแบบนี้”
ถึงแม้หล่อนจะรักนารีรัตน์มากกว่าอลินดา แต่หล่อนก็ไม่เคยคิดจะให้ลูกสาวฆ่ากันเอง แล้วนี่หล่อนจะทำยังไงดี จะทำยังไงดีถึงจะสามารถช่วยชีวิตลูกสาวคนเล็กเอาไว้ได้
“จะทำยังไงดี…”
อุบลเดินกลับไปกลับมาด้วยความกระวนกระวายใจ ก่อนจะนึกถึงแซคคารีย์
“คุณแซค…”
หญิงวัยกลางคนรีบวิ่งไปที่โทรศัพท์มือถือของตัวเอง และพยายามค้นหาเบอร์โทรศัพท์ของแซคคารีย์ แต่ก็หาไม่พบ
“นี่เราไม่ได้บันทึกเบอร์คุณแซคเอาไว้เลยเหรอนี่”
อุบลเต็มไปด้วยความร้อนใจ หล่อนจึงโทรกลับไปหาสามี แต่ฝ่ายนั้นก็ไม่ได้รับสาย
“หายหัวไปไหน รับสายสิ รับสาย…”
อุบลยังไม่ละความพยายาม หล่อนโทรหาสามีนับครั้งไม่ถ้วน และก็ภาวนาให้ทุกอย่างไม่สายเกินไปด้วยเถอะ