หลังจากรับประทานอาหารค่ำเสร็จแล้ว แซคคารีย์ก็พา อลินดาออกมาเดินเล่นที่ริมชายหาด ในใจของชายหนุ่มยังคงร้อนรุ่มโดยไร้สาเหตุเช่นเดิม
“แน่ใจนะว่าคืนนี้จะนอนค้างกับนารีน่ะ”
แซคคารีย์หยุดเดินและรั้งให้หญิงสาวข้างกายหยุดเดินด้วย เขาหรี่ตากวาดมองดวงหน้านวลของอลินดาด้วยความเป็นห่วง
“แน่ใจค่ะ ลินดาอยากนอนค้างกับแม่”
“แต่ฉันรู้สึกใจคอไม่ดีเลย ไม่อยากให้เธออยู่ห่างเลย”
คำพูดของแซคคารีย์ทำให้อลินดาแก้มแดงก่ำ ตั้งแต่ แซคคารีย์รู้ว่าหล่อนคือเจ้าของของขวัญมากมายที่ส่งไปให้ที่กรีซ ปฏิกิริยาของเขาก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง จากที่เคยชิงชังหล่อน ตอนนี้กลับแสดงความห่วงใยออกหน้าออกตา ซึ่งหล่อนมีความสุขมากที่แซคคารีย์เอาอกเอาใจ แต่กระนั้นก็อดละอายใจต่อนารีรัตน์ไม่ได้ เพราะแท้จริงแล้วแซคคารีย์เป็นของพี่สาวไม่ใช่ของตัวเอง
“ลินดาไม่ได้ไปสู้รบกับใครนะคะ แค่ไปนอนค้างกับแม่เองค่ะ”
“แต่ฉันไม่ไว้ใจนารีเลย ฉันว่าพี่สาวของเธอต้องมีแผนการอะไรแน่ๆ เลย”
“คุณแซคคิดมากไปแล้วล่ะค่ะ พี่นารีไม่ใช่คนใจร้ายแบบนั้นหรอกค่ะ”
“ถ้าคนที่เอาชื่อเสียงของน้องสาวไปทำปู้ยี้ปู้ยำไม่ใช่คนร้ายกาจ ในโลกนี้ก็คงจะมีแต่คนดีแล้วล่ะ”
อลินดารู้ดีว่าแซคคารีย์ประชดประชัน แต่กระนั้นหล่อนก็ไม่อยากจะทำให้แม่และพี่สาวผิดหวัง เพราะหล่อนรับปากกับพวกเขาไปแล้ว
“ลินดารู้ค่ะว่าคุณแซคเป็นห่วง ลินดาสัญญาว่าจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดค่ะ”
แซคคารีย์ถอนใจออกมาแรงๆ และดึงร่างอรชรเข้ามากอดแนบอก
“รู้ก็ดีแล้ว และห้ามปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในอันตรายล่ะ”
“เจ้าค่ะ” อลินดายิ้มหวาน
“แล้วมือถือน่ะเก็บเอาไว้ใกล้ๆ ตัว ถ้ามีอะไรก็โทรหาฉันได้ตลอดเวลา เข้าใจไหม”
อลินดาช้อนตาขึ้นสบประสานกับดวงตาสีสนิมของแซคคารีย์ แล้วน้ำตาก็ไหลซึมออกมา มันเป็นหยาดน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ เพราะหล่อนไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า แซคคารีย์จะเป็นห่วงเป็นใยผู้หญิงคั่นเวลาอย่างหล่อน
“ขอบคุณที่เป็นห่วงลินดานะคะ”
“ฉันก็ต้องเป็นห่วงสิ ในเมื่อฉันพลาดได้เธอมาเป็นเมียแล้วนี่”
แซคคารีย์แกล้งพูด และหัวเราะร่วน
“จำเอาไว้นะ ฉันโชคร้ายได้เธอมาเป็นเมียแล้ว ดังนั้นอย่าทำให้ฉันโชคร้ายยิ่งขึ้นด้วยการหายตัวไปจากฉันอีก เข้าใจไหม”
อลินดาย่นจมูกใส่แซคคารีย์อย่างหมั่นไส้
“ความจริงคุณแซคน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอคะ หากตัวนำโชคร้ายอย่างลินดาหายไป อุ๊ย…”
อลินดาอุทานตกใจ เมื่อปากอิ่มที่กำลังจำนรรจาถูกริมฝีปากกระด้างกระแทกลงมาหาแรงๆ อย่างต้องการทำโทษ
“อย่าพูดจาแบบนี้อีก เข้าใจไหม”
เขากระซิบชิดปากอิ่ม
“และถ้าขืนขัดคำสั่ง จะกัดปากให้ขาดเชียว”
“คุณแซคน่ะ”
“เข้าใจไหม”
เขาย้ำคำสั่งอีกครั้งอย่างต้องการคำตอบ
“ค่ะ เข้าใจค่ะ”
ชายหนุ่มระบายยิ้มพึงพอใจ ก่อนจะคว้ามือเล็กไปกุมเอาไว้ และรั้งให้ออกเดินไปตามชายหาด
“เมื่อตอนบ่ายๆ ฉันเจอกับคุณกฤติชัยด้วยนะ”
“เจอที่ไหนเหรอคะ”
“เจอที่นี่แหละ เห็นว่ามาพักผ่อนน่ะ”
แซคคารีย์เล่า ในขณะที่อลินดายังคงเต็มไปด้วยความแคลงใจ
“แล้วคุณกฤติชัยบอกไหมคะว่าหายไปไหนมาตั้งนาน”
“เห็นบอกว่าป่วยน่ะก็เลยไปพักรักษาตัว”
“ป่วยเหรอคะ”
อลินดาทวนคำพูดของแซคคารีย์
“เสียดายจังนะคะที่ลินดาไม่ได้เจอ”
“จะอยากเจอผู้ชายคนอื่นไปทำไมแม่คุณ ผัวยืนหัวโด่อยู่ตรงนี้ทั้งคน”
น้ำเสียงหงุดหงิดของแซคคารีย์ทำให้อลินดาต้องถามกลับไปด้วยความไม่เข้าใจ
“ทำไมคุณแซคจะต้องทำเสียงเล็กเสียงน้อยเสมอเลยล่ะคะ เวลาที่ลินดาพูดถึงผู้ชายคนอื่น ตั้งแต่คุณแฮรี่ ลุงยามที่โรงแรม หรือแม้แต่คนขับรถแก่ๆ แล้วนี่ยังจะคุณกฤติชัยอีก”
แซคคารีย์ย่นจมูก และเบะปาก
“ก็เวลาเธอพูดถึงผู้ชายคนอื่น เธอชอบทำเสียงอ่อนเสียงหวานนี่ แต่พอพูดกับฉันทีไร เสียงเฉยเมยทุกทีเลย”
“อย่าบอกนะคะว่าหึงลินดา”
“บ้า ใครจะไปหึงเธอกันล่ะ”
แซคคารีย์ปล่อยมือจากแขนกลมกลึงของอลินดา และก้าวเดินไปข้างหน้า อลินดาหัวเราะเบาๆ และรีบวิ่งตามไป คว้าแขนทรงพลังเอาไว้
“ไม่หึงก็ดีแล้วค่ะ ลินดาจะได้คุยกับผู้ชายคนอื่นโดยไม่ต้องรู้สึกผิดกับคุณแซค”
คนที่เดินอยู่ชะงักเท้ากึก พร้อมกับหันขวับมามอง ดวงตาทอประกายดุกระด้าง
“ก็ลองทำดูสิ ฉันจะจับเธอขังลืมแน่ อลินดา!”
“ล้อเล่นค่ะ ไม่เห็นต้องทำหน้าดุแบบนี้เลยนะคะ”
หล่อนอมยิ้มและเขย่งปลายเท้าขึ้นจูบแก้มสากของสามีอย่างเอาใจ
“ไม่เอาไม่หึงนะคะ ลินดาเป็นของคุณแซคคนเดียวค่ะ”
แซคคารีย์หยุดทำหน้าบูด และหรี่ตามองหญิงสาวตรงหน้า
“แน่ใจนะว่าจะเป็นของฉันคนเดียว”
“สัญญาค่ะ”
ชายหนุ่มระบายยิ้มกว้าง ก่อนจะรวบร่างอรชรเข้าไปกอดแนบอก จากนั้นก็พรมจูบไปทั่วดวงหน้างาม ก่อนจะมาหยุดอิ่ง อ้อยที่กลีบปากอิ่มเต็มแสนหวาน
ภาพสองร่างที่กอดจูบกันอย่างดูดดื่มทำให้นารีรัตน์ที่ออกมาเดินเล่นพร้อมกับกฤติชัยชะงักกึก ความริษยาทำให้หล่อนแทบจะเก็บโทสะร้ายเอาไว้ไม่มิด
กฤติชัยหรี่ตามองดวงหน้าของนารีรัตน์อยู่อึดใจ ก่อนจะตัดสินใจพูดออกมา
“ผมหวังว่าคุณคงไม่รู้สึกอะไรกับภาพของน้องสาวและสามีของเธอนะครับ”
นารีรัตน์รีบกลบเกลื่อนความริษยาไว้ใต้รอยยิ้มหวานของตัวเอง จากนั้นก็ช้อนตาขึ้นมองกฤติชัย
“รู้สึกสิคะ รู้สึกอยากให้พวกมันเป็นทุกข์”
“แต่ผมว่าน้องสาวของคุณก็แลดูไม่มีพิษมีภัยอะไรนะครับ คุณน่าจะเปลี่ยนใจ…”
“ไม่ค่ะ นารีไม่มีทางเปลี่ยนใจ ยังไงซะคืนนี้คุณกฤติชัยก็ต้องจัดการตามแผนเดิมของเรา”
ดวงตาของนารีรัตน์เป็นจุดเดียวที่ซ่อนความริษยาเอาไว้ไม่มิด
“นารีจะไม่ยอมให้มันมีลมหายใจอยู่ในโลกใบนี้อีก นารีเกลียดมัน นารีไม่อยากมีฝาแฝด”
กฤติชัยไม่ได้พูดอะไรออกมานอกจากยืนฟังนารีรัตน์พรั่งพรูความคลั่งแค้นที่มีต่ออลินดาออกมาเงียบๆ
“ลมแรงมากเลย สงสัยฝนจะตก นารีว่าเราเข้าไปข้างใน รีสอร์ทกันเถอะนะคะ”
“ครับ”
ทั้งคู่เดินกลับเข้ามาภายในรีสอร์ท ก่อนที่นารีรัตน์จะมาหยุดที่หน้าห้องพักของกฤติชัยที่จองเอาไว้อยู่ข้างๆ กัน
“รอรับข้อความจากนารีนะคะ”
“ครับ”
“เมื่องานสำเร็จ เราสองคนจะแต่งงานกันค่ะ”
รอยยิ้มของกฤติชัยที่มอบมาให้หล่อน ก่อนที่เขาจะเดินหายเข้าไปในห้องพัก ยิ่งทำให้นารีรัตน์สมเพชเวทนาเป็นที่สุด
“ตอนมึงความจำดี มึงก็หลงกูจนโงหัวไม่ขึ้น พอมึงความจำเสื่อม มึงก็ยังรักกูหลงกูเหมือนเดิม ไอ้โง่เอ้ย คราวนี้กูจะไม่ยอมให้มึงรอดจากนรกอีกแล้วล่ะ”
นารีรัตน์เค้นเสียงแผ่วเบาราวกับลมหายใจออกมา ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปยังห้องพักของตัวเองที่มีมารดารออยู่
MANGA DISCUSSION